เฮ!ลดค่าไฟ-ชงครม.แจกหมื่น

เฮ! ครม.สัญจรนัดแรก เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 “พีระพันธุ์” ประกาศหั่นค่าไฟลงเหลือ 4.15 บาท เป็นของขวัญปีใหม่ "คมนาคม" จับมือสายการบิน จัดโปรโมชันลด 30% จำนวน 5 หมื่นที่นั่ง เดินทาง 26 ธ.ค.67-5 ม.ค.68 พร้อมสั่งสกัดตั๋วแพง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร ครั้งแรกของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่ จ.เชียงใหม่ ในวันศุกร์ที่ 29 พ.ย.นี้ มีวาระที่น่าสนใจนอกเหนือจากวาระที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) มีมติเห็นชอบเงินช่วยเหลือชาวนา ช่วยค่าเก็บเกี่ยวและปัจจัยการผลิตข้าว เป็นเงินไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินครัวเรือนละ 10 ไร่ หรือไม่เกินครัวเรือนละ 10,000 บาทแล้ว  วงเงินงบประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท รวมถึงวาระที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย  วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เตรียมเสนอขออนุมัติงบกลาง เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ เตรียมความพร้อมโครงการและฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย จำนวน 564 ราย วงเงิน 2.9 พันล้านบาทแล้ว ยังมีวาระสำคัญที่จะเข้าสู่การพิจารณา โดยกระทรวงการคลังเตรียมเสนอขอความเห็นชอบนโยบายรัฐบาลเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงินดิจิทัลเฟส 2 ให้กับผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 3-4 ล้านคน ซึ่งวางไว้ให้สามารถใช้จ่ายได้ก่อนช่วงตรุษจีนปี 68 ทั้งนี้ สำหรับ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นบ้านเกิดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ บิดาของ น.ส.แพทองธาร และเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย 

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะประกาศลดค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.2568 จากค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในงวดปัจจุบัน (ก.ย.-ธ.ค.2567) ซึ่งอยู่ที่ 4.18 บาท/หน่วย ลงอีก 3 สตางค์/หน่วย หรือค่าไฟฟ้าจะลดลงเหลือ 4.15 บาท/หน่วย โดยจะมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค-เม.ย. 2568 ทั้งนี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพและเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ให้กับพี่น้องชาวไทยทุกคน

 “ผมเพิ่งได้รับแจ้งเบื้องต้นเป็นข่าวดีจากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งจะปรับลดค่าไฟในงวดหน้า (ม.ค.-เม.ย.2568) ลงได้อีก และเหลือเฉลี่ยหน่วยละ 4.15 บาท หลังจากที่ผมได้ขอให้ทุกหน่วยงานได้ไปลองดูว่าจะสามารถลดค่าไฟลงได้อีกหรือไม่ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้พี่น้องประชาชน ในนามรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ขอถือโอกาสนี้มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับทุกท่าน และขอขอบคุณ กกพ.ในฐานะหน่วยงานหลัก ขอบคุณการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และ ปตท.  ในการร่วมกันกับรัฐบาลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน” นายพีระพันธุ์ระบุ

ภายหลังจากสิ้นสุดกระบวนการรับฟังความคิดเห็นในการประชุม กกพ. วันที่ 27 พ.ย. ได้มีมติเห็นชอบทบทวนค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) และค่าไฟฟ้าเรียกเก็บงวดเดือน ม.ค.-เม.ย.2568 โดยให้เรียกเก็บลดลงเหลือ 4.15 บาทต่อหน่วย เป็นผลจากการที่ได้มีการทบทวนตัวเลขและประมาณการที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง กกพ.จะได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้เรียกประชุมสมาคมสายการบินแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมกันจัดทำ "มาตรการแก้ไขปัญหาตั๋วเครื่องบินแพง" ในช่วงเทศกาล โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ 2568 โดยมีความต้องการให้ราคาตั๋วเครื่องบินมีราคาที่ถูกลงและเหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในการ "คมนาคมขนส่งอากาศ" ให้กับประชาชนได้เดินทาง โดยมีต้นทุนการเดินทางที่ลดลง รวมถึงสะดวก ปลอดภัย ตลอดการเดินทาง

สำหรับการประชุมกับสมาคมสายการบินประเทศไทย ประกอบด้วย บางกอกแอร์เวย์ส, ไทยแอร์เอเชีย, นกแอร์, ไทยไลอ้อนแอร์, ไทยเวียตเจ็ท และการบินไทย ได้ข้อสรุปว่า เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน กระทรวงคมนาคมพร้อมด้วยทุกสายการบิน ได้ร่วมมือกันจัดทำมาตรการตั๋วในราคาพิเศษ โดยมีที่นั่งรวมทั้งสิ้นประมาณ 50,000 ที่นั่ง ในเส้นทางไป-กลับ ได้แก่ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-ภูเก็ต, กรุงเทพฯ-กระบี่, กรุงเทพฯ-หาดใหญ่, กรุงเทพฯ-สมุย, กรุงเทพฯ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-อุดรธานี, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี, กรุงเทพฯ-ขอนแก่น

 “เพื่อเปิดโอกาสให้กับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ต้องการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 26 ธ.ค.2567-5 ม.ค.2568 โดยมีส่วนลด 30% จากราคาค่าโดยสารสูงสุดในช่วงเวลาดังกล่าว แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องทำการสำรองที่นั่งโดยตรงกับสายการบินและผ่านช่องทางที่กำหนด ในช่วงระหว่างวันที่ 5-7 ธ.ค.2567 เท่านั้น  โดยกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชน มีความเชื่อมั่นว่า จะสามารถอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชน สามารถซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินในราคาที่เหมาะสม และเดินทางกลับภูมิลำเนา พร้อมกับท่องเที่ยวอย่างสะดวก ปลอดภัย ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 นี้ ยืนยันไม่มีผู้โดยสารตกค้าง” นายสุริยะระบุ

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้กรมท่าอากาศยาน (ทย.), บริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) และบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) จัดการด้านการรองรับผู้โดยสารช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยสั่งการให้ ทย.และ ทอท.เตรียมพร้อมการบริการภาคพื้นและสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้โดยสาร รวมถึงสัมภาระ พร้อมทั้งยืดหยุ่นเวลาปิดท่าอากาศ 8 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี, ท่าอากาศยานขอนแก่น, ท่าอากาศยานอู่ตะเภา, ท่าอากาศยานนานาชาตินครศรีธรรมราช, ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ขณะที่ บวท.ได้เตรียมความพร้อมปฏิบัติการด้านการบินและสิ่งอำนวยความสะดวกทุกด้าน ส่วนสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้ติดตามสถานการณ์ค่าโดยสารอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ และราคาต้องเป็นธรรมกับผู้โดยสาร.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'จตุพร' ท้าร้ฐบาล อยากมีเรื่อง! รีบเจรจา MOU 44 - ตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติ ให้เร็ว

'จตุพร' เชื่อปม MOU 44 เป็นชนวนจัดการรัฐบาลที่คิดล้มประเทศ ลั่นนายกฯพูดเธอกับฉับตกลงกันไม่ได้ ต้องแบ่งประโยชน์ ส่อเจตนามุ่งหาแต่ประโยชน์ไม่คิดเจรจาเขตแดนก่อนชัดเจน ท้าอยากมีเรื่องรีบเจรจากัมพูชา และตั้ง ปธ.บอร์ดแบงก์ชาติให้เร็ว เชื่อคนจะลงถนนแน่ ฟาด ปปช.-กกต.อย่ามัวแต่รำมวยเอาแต่ปากกล้า รีบทำหน้าที่ตรวจสอบคำร้องให้ยุติโดยเร็ว