ตร.เชียงรายรวบ‘สามารถ’ ‘เมีย-ลูก’หมอบุญนอนคุก

"ผบ.ตร." นั่งไม่ติดตั้ง "พล.ต.อ.ธนา" คุมสอบสวนคดี "หมอบุญ" จ่อประสานตำรวจสากลออกหมายแดงจับ เล็งควานหาตัวเมืองจีน ด้าน “เมีย-ลูก” นอนคุก หลังศาลอาญาสั่งไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ขณะที่ "บิ๊กป้อม" บอก “ผมไม่รู้” หลัง “สามารถ” โดนรวบที่เชียงรายคดีฟอกเงิน ขีดเส้นไม่เกินเดือนได้เลขาฯ สคบ.คนใหม่

เมื่อวันจันทร์ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ถึงความคืบหน้ากรณี นพ.บุญ วนาสิน อดีตประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท  ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด ที่ถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์ มูลค่าความเสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท ว่าคดีนี้ทุกคนไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งนี้มีผู้ต้องหา 9 คน ขณะนี้จับได้แล้ว 8 คน  และอยู่ในชั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (บช.ก.)

นอกจากนี้ ตนได้ตั้งคณะทำงานแล้ว และมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เพราะถือว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ และมีผู้เสียหายหลายราย โดยต้องมีการสอบสวนความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเมื่อดูแล้วเรื่องนี้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า นพ.บุญเดินทางออกนอกประเทศไปตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เจ้าตัวอาจรู้ตัวก่อน แต่ผู้เสียหายเริ่มมาร้องทุกข์ทีหลัง ซึ่งตนคิดว่าเจ้าตัวมีเจตนาตั้งแต่แรกอยู่แล้วและยังไล่เส้นทางการเงินอยู่ เพราะยังไงเรื่องการฟอกเงินก็ต้องโดน  ส่วนเรื่องการติดตามตัวกำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ และประสานกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ  (อินเตอร์โพล) อยู่ ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก ยิ่งหากมีพฤติการณ์เรื่องฉ้อโกงหลอกลวงประชาชนขยายวงกว้าง ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

เมื่อถามว่า ประเทศปลายทางที่ นพ.บุญหลบหนีไปมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า กำลังสืบสวนอยู่ว่าอยู่ประเทศไหน และต้องดูสนธิสัญญาระหว่างกันว่าจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างไร ซึ่งขณะนี้กำลังประสานอินเตอร์โพลและสืบสวนเชิงลึกอยู่

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) กล่าวว่า จากที่มีกระแสข่าวว่าหมอบุญเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังประเทศจีนตั้งแต่เดือนกันยายนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่ามีการเตรียมการล่วงหน้า โดยระหว่างนี้กองการต่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำหมายแดง และประสานตำรวจสากลเพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งหากประเทศใดมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยในส่วนของประเทศจีนนั้นมีสัญญาส่งผู้ข้ามแดนระหว่างกันอยู่ อีกทั้งที่ผ่านมา ระหว่างสองประเทศมีความร่วมมือด้านต่างๆ ร่วมกันเป็นอย่างดี

ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ขณะนี้ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะมีการออกหมายจับเพิ่ม 

เมื่อถามว่า ภรรยาหมอบุญอ้างว่าถูกปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อก่อนมีการฉ้อโกงประชาชน พล.ต.ต.นพศิลป์กล่าวว่า ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งช่วงเวลาหย่าร้าง การประกาศโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การเซ็นสัญญาการกู้ยืมเงิน การลงลายมือเป็นพยาน รวมถึงเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ผู้เสียหายโอนเงิน ทั้งเงินสด เช็ค และมีการโอนออกไปให้ใคร ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

 “ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ตรวจสอบคดีตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการแจ้งความคดีเกี่ยวกับเช็คเป็นครั้งแรกว่าเหตุใดถึงล่าช้า แต่เมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2567 เป็นต้นมา กลับพบว่าเริ่มมีผู้เสียหายมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนเชื่อว่าไม่ใช่เพียงคดีเช็ค หรือกู้ยืมเงิน อีกทั้งเมื่อตรวจสอบสิ่งก่อสร้างตาม 5 โครงการที่กล่าวอ้างกลับไม่มีอยู่จริง จึงเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและการโฆษณาชวนเชื่อ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลจึงเร่งรัดให้มีการออกหมายจับหมอบุญและผู้เกี่ยวข้องรวม 9 ราย เชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก" รอง  ผบช.น.ระบุ

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือต้นอ้อ เป็นหนึ่ง พานายโพธิรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ทันตแพทย์  และ พญ.สลวย (สงวนนามสกุล) อายุ 86 ปี คุณแม่ภรรยาซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ นพ.บุญเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.เพื่อแจ้งความเอาผิดหมอบุญ กรณีหลอกให้ร่วมลงทุนเสียหายกว่า 25 ล้านบาท

ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังศาลรับคำร้องฝากขัง น.ส.นลิน และ น.ส.จารุวรรณ วนาสินแล้ว ผู้ต้องหาที่ 1-2 ได้ยื่นคำร้องประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราว โดยวางหลักทรัพย์คนละ 2 ล้านบาท ศาลพิจารณาคำร้องพร้อมหลักทรัพย์และคำร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว เห็นว่าตามคำร้องขออนุญาตปล่อยชั่วคราว มีเอกสารประกอบคำร้องที่ศาลต้องพิจารณาเป็นจำนวนมาก จึงให้ไต่สวนคำร้องนี้ก่อนพิจารณาสั่ง โดยสำเนาคำร้องของผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้พนักงานสอบสวน และนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น.

 โดยให้หมายขังผู้ต้องหาทั้ง 2 ในระหว่างสอบสวนไว้ก่อน และให้เบิกตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 มาในวันนัดไต่สวน โดยให้แจ้งพนักงานสอบสวนทราบทางโทรศัพท์ก่อนล่วงหน้า

วันเดียวกัน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหมายจับศาลอาญาลงวันที่ 24 พ.ย. 2567 เข้าจับกุมนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และนางวิลาวัลย์ พุทธสัมฤทธิ์ มารดาของนายสามารถ ในข้อหาร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า กรุงเทพฯ ไม่พบนายสามารถ ขณะที่ เจ้าหน้าที่พบนางวิลาวัลย์ที่บ้านพักในซอยพญานาค กรุงเทพฯ และได้นำตัวเข้าอาคารดีเอสไอ ขณะที่มีรายงานว่านายสามารถเดินทางไป จ.เชียงใหม่ และจะประสานเข้ามอบตัวในวันที่ 26 พ.ย.นี้

ต่อมาดีเอสไอได้รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านดู่ จว.เชียงราย ควบคุมตัวนายสามารถไว้ได้บริเวณริมถนนใกล้วัดห้วยปลากั้ง ขณะนี้ ผกก.สภ.บ้านดู่ได้ควบคุมตัวไว้เบื้องต้น และอยู่ระหว่างประสานส่งตัวผู้ต้องหาให้ดีเอสไอ

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐระบุว่า ตนได้ประสานกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 การนำตัวกลับมาจะใช้อากาศยานหรืออะไรก็ต้องดูความเหมาะสมเพราะเขาเป็นผู้ต้องหา หรืออาจจะเคลื่อนย้ายโดยรถยนต์ก็พอ  แต่ก็ไกลหน่อย ส่วนจะเป็นการหลบหนีหรือไม่ต้องดูพฤติการณ์อีกที

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่นายสามารถ เป็นอดีตคนใกล้ชิดและเป็นอดีตรองโฆษกและสมาชิกพรรค ว่าทราบข่าวนายสามารถถูกออกหมายจับคดีฟอกเงินและถูกจับกุมตัวได้แล้วหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า  “ผมไม่รู้” ก่อนวางสายโทรศัพท์ทันที

นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึงการเสนอชื่อเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) คนใหม่ เรื่องนี้มีหลายคนถามมา ก็ขอเวลาศึกษาข้อมูล แม้จะมีข้อมูลมาแล้วบางส่วน แต่คิดว่าอาจจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลในรายละเอียดให้ลึกลงไปและให้รอบด้าน ซึ่งตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่ว่างมาสักระยะหนึ่งแล้ว คิดว่าจะใช้เวลาสรรหาไม่เกิน 1 เดือน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิด 10 ฉายาตำรวจ 'บิ๊กต่าย' คว้า 'กัปตันเรือกู้'

เปิด 10 ฉายาตำรวจ 'บิ๊กต่าย' ฉายา 'กัปตันเรือกู้' จากภารกิจร้อนในการกอบกู้วิกฤติศรัทธา-ภาพลักษณ์องศ์กร 'อัคราเดช' ได้ฉายา 'สุมาอ้อ ยอดกุนซือ' จากผลงานไล่ล่า 18 บอสดิไอคอนได้ในวันเดียว ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ได้ฉายา 'ไซเบอร์อรรถ จัดเต็ม' ด้านจ๋อแจ๊ะได้ฉายา 'กุนซือมือฉบัง-อย่าเล่นกับระบบ แจ๊ะ'

นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้

นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้