‘ยิ่งลักษณ์’ กลับคุก ‘บิ๊กเสื้อแดง’ รู้มา! ว่าไปตามราชทัณฑ์ไม่ใช้สิทธิพิเศษ

“เลขาฯ แสวง” ยันเดินหน้าคดี  “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครองต่อ เพราะใช้กฎหมายคนละฉบับกับศาล รธน. "จตุพร" ลั่นยังไม่จบ! ต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป เพื่อประเมินการรับมือทุกยก แม้แต่ละตอนจะกระทบกระเทือนจิตใจ เพื่อไทยได้ทีจ่อฟ้องกลับ "นักร้อง" ส่วน "วรชัย" เผย "ยิ่งลักษณ์" จะเดินทางกลับประเทศและเข้าสู่กระบวนการบังคับโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์ ไม่ใช้สิทธิพิเศษใดๆ  ทั้งสิ้น

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง  (เลขาฯ กกต.)​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องข้อกล่าวหาว่า นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ล้มล้างการปกครอง  ว่าศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเรื่องการใช้เสรีภาพ เฉพาะมาตรา 49 ที่เขียนว่า การใช้เสรีภาพเพื่อการล้มล้างทำไม่ได้ เสรีภาพถูกรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ประชาชนทุกคนมีเสรีภาพ นั่นคืออำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ นายทะเบียนหรือ กกต.พิจารณาสิ่งที่กฎหมายห้ามกระทำของพรรคการเมือง จะต่างกัน จึงไม่เกี่ยวกันเลยทั้ง 2  เรื่อง

เลขาฯ กกต.ย้ำว่า ข้อมูลข้อเท็จจริงอาจเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ว่าเราถือกฎหมายคนละฉบับ  ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตามรัฐธรรมนูญว่า การใช้สิทธิเสรีภาพนั้นเพื่อเป็นการล้มล้าง แต่ กกต.หรือนายทะเบียนจะพิจารณาว่าการกระทำนั้นผิดกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคหรือไม่

“ผมยกตัวอย่างครั้งที่แล้วที่นายทะเบียนไม่รับเรื่องของพรรคก้าวไกลไว้พิจารณา กฎหมายบอกว่าไม่รับไปดำเนินการ แต่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้ มีนักข่าวมาถามว่าทำไม กกต.ไม่รับ เพราะกรณีนั้นเป็นกรณีใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ  กกต.ไม่มีอำนาจที่จะไปพิจารณาเรื่องเหล่านั้น  เกินขอบอำนาจของ กกต. กกต.ไม่ได้เข้าไปพิจารณาในเนื้อหา แต่ไม่รับไว้ดำเนินการเพราะไม่อยู่ในเขตอำนาจเรา แต่กรณีหลังมีคนมาร้องว่ามีพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายพรรคการเมือง อันเป็นเหตุให้มีการยุบพรรคการเมือง นายทะเบียนก็รับไว้เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน จะเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้ ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน” นายแสวงกล่าว 

เมื่อถามต่อว่า คำร้องหลายคำร้องที่มีลักษณะคล้ายกัน กกต.ยังเดินหน้าตรวจสอบต่อไป นายแสวงกล่าวว่า เราก็ทำตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของเรา 

ด้านนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.จังหวัดพัทลุง โพสต์ข้อความว่า เรื่องที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า คุณทักษิณ มีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ผมเคยคุยกับสื่อท่านหนึ่ง ผมบอกว่า ในความเห็นของผม ข้อเท็จจริงยังห่างไกลกับข้อกล่าวหาว่าล้มล้างการปกครอง แต่ยังไงผมก็ให้กำลังใจผู้ยื่น

มีประเด็นเรื่องการครอบงำพรรคการเมือง อันนี้น่าสนใจ แต่ข้อหานี้เป็นข้อหาตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง ซึ่งทราบว่าตอนนี้ กกต.ก็ตั้งเรื่องไว้สอบแล้ว เรื่องนี้ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง  ผมก็ยินดีกับคุณทักษิณ ชินวัตร ด้วยก็แล้วกัน

ผมยังติดใจอยู่ 2 เรื่อง คือ เรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ และข้อหาตาม ม.112 เรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ ใครไม่ติดใจก็แปลกประหลาดมากละ คนอะไร เอ็นเปื่อยขึ้นมากะทันหัน ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว ขอถามแบบสุจริตใจแบบไม่มีอะไรแอบแฝงกันนะครับ คุณคิดว่าเรื่องนี้มันไม่ผิดปกติหรือ?  ถ้าคุณคิดว่ามันปกติและเกิดขึ้นได้ ก็แสดงว่าผมเป็นคนผิดปกติอยู่คนเดียว ก็ไม่เป็นไร

กัดใครไม่ได้แล้ว

เมื่อคุณทักษิณแยกพลเมืองในประเทศนี้เป็น 2 ประเภท ประเภทหนึ่ง เป็นคนแบบคุณทักษิณ อีกประเภทหนึ่งเป็นหมา ผมก็คงถูกจัดเป็นพลเมืองประเภทหมา คือมีอะไรผิดปกติ ผมก็เห่าหอนไปเรื่อย หากผมเป็นพลเมืองประเภทหมา ผมก็ยังเห่าหอนอยู่ 2 เรื่องนี้แหละครับ

เรื่องเปรียบคนเป็นหมานี่ อย่าหาว่าผมใช้คำไม่สุภาพนะครับ คุณทักษิณเป็นคนพูดเอง แต่ผมก็เป็นเพียงหมาแก่ ที่ฟันฟางหักหมดแล้ว กัดใครไม่ได้แล้ว ทำได้เพียงเห่าหอน เตือนเจ้าของบ้านอย่างเดียว แต่หากเจ้าของบ้านรำคาญไล่ออกจากบ้าน ผมก็คงต้องกลายเป็นหมาจรจัด ไร้เจ้าของ ซัดเซพเนจรไปเรื่อยๆ แต่ก็จะทำหน้าที่เป็นหมาต่อไปอย่างคงเส้นคงวา

นี่ถ้าผมเป็นหมาหนุ่มๆ เรื่องแบบนี้ผมไม่เห่าอย่างเดียวนะ ผมกัดแน่ แต่ตอนนี้ผมกลายเป็นหมาแก่ แถมไร้เจ้าของ ไร้ปลอกคอ ผมก็ทำได้เพียงเห่าหอนไปวันๆ เป็นหมาที่ไม่มีพิษสงอะไร ทำได้แค่เห่าหอนไปวันๆ ละครับ

ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ยอมรับว่า  ประเมินสถานการณ์ศาล รธน.รับคำร้องคลาดเคลื่อน แม้ถูกเย้ยหยันหน้าแตก แต่ถัดจากนี้ไปขอให้ประชาชนอดทนเฝ้ารอสถานการณ์เป็นตอนๆ และรวมใจมัดพลังคนรักชาติให้แน่นจนถึงวันที่บ้านเมืองไม่มีความหวังเหลืออีก แล้วจะได้คิดอ่านกัน

พร้อมทั้งกล่าวว่า ในทางการเมืองแล้วสถานการณ์จากนี้ไป ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยมั่นใจว่า มีของดีจริง อยากจะทำอะไรก็เชิญ และถ้าแน่จริงต้องเอายิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาไปอยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องติดคุกสักวันก็ทำเลย เมื่อเชื่อมีของดีคุมบ้านเมืองนี้ได้เบ็ดเสร็จจนชนะทุกอย่าง เพราะได้ไฟเขียวโล่งแล้วจะทำอะไรก็ทำได้

อยู่ทั้งนรกและสวรรค์

“เมื่อทักษิณ ชินวัตร บอกอยู่ทั้งนรกและสวรรค์มาแล้ว แต่นรกที่เขาอยู่นั้นยังมีวีไอพี เป็นชนชั้นอภิสิทธิ์เลย แล้วจะเอาอะไรกับประเทศนี้อีก อย่างไรก็ตาม ทักษิณไม่ได้ผ่านนรกและสวรรค์จริงๆ เหมือนคนไปต่อสู้แล้วตาย บาดเจ็บ หรือติดคุกหรอก อีกอย่างคำพิพากษาจำคุกยังทำอะไรไม่ได้ บ้านเมืองนี้เดินมาถึงจุดนี้กันจริงๆ”

นายจตุพรกล่าวว่า สำหรับประชาชนจะยอมแพ้สยบราบคาบให้ทักษิณและคณะหรือไม่ หรือมารวมกลุ่มคิดอ่านกัน อย่างไรก็ตาม เราต้องเฝ้าดูกันต่อไป ถ้า ป.ป.ช.ไม่มีปัญญาหาความจริงอีก และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลังเลจะทำหน้าที่ต่อไป แสดงว่าไปกันทั้งขบวนแล้ว ดังนั้น ประชาชนคงต้องหวังลมๆ แล้งๆ กันต่อ พร้อมทั้งกล่าวว่า ประเทศนี้จะดูสถานการณ์เพียงตอนเดียวไม่ได้ ต้องดูกันทุกตอน เมื่อเราอยู่ในประเทศแม้แต่ตัวเองยังเชื่อตัวเองไม่ได้ เพราะเมื่อหาเสียงเขาประกาศไม่จับมือดูกับใคร แต่ก็ไปจับมือกับใคร ดังนั้น เขายังเชื่อตัวเองไม่ได้ แล้วเราคนนอกจะเชื่ออะไรได้ เราจึงอยู่ในสังคมที่มีสัจจะเสื่อมต่อกัน เราจึงต้องอดทนรอ

อีกทั้งกล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบนั้นยังไม่จบสิ้นในกระบวนการ แต่ถึงขั้นเราต้องไปฝากความหวังกับองค์กรอื่นไว้ก็เบาๆ กันไว้ แล้วเราต้องเฝ้ารอวันสำนึกประชาชนพร้อมและสถานการณ์ใหม่เปิดโอกาสให้คนรักชาติได้แสดงพลัง

นายจตุพรย้ำว่า ประชาชนต้องดูสถานการณ์เป็นตอนๆ ไป เพื่อประเมินการรับมือทุกยก แม้แต่ละตอนจะกระทบกระเทือนจิตใจ ขณะเดียวกันจะเป็นพลังปลุกใจประชาชนที่รักชาติบ้านเมือง และประชาชนจะตื่นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น คงต้องเฝ้ารอเป็นตอนๆ ดูกันเป็นยกๆ

'ยิ่งลักษณ์' จะกลับมาติกคุก

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องผู้ยื่นคําร้องกล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยล้มล้างการปกครองว่า ได้คุยกับนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้ใหญ่หลายคนในพรรคแล้ว ทราบว่าฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ร่างคำฟ้องแล้ว เชื่อว่าคงใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากล้มล้างการปกครองเป็นข้อหารุนแรง เป็นการใส่ร้ายที่หนักหนา เมื่อเป็นเช่นนี้ ยืนยันว่ายังไงก็ต้องฟ้อง ให้อภัยไม่ได้ 

นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาบอกว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางกลับมาประเทศไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นอดีตนายกฯ ที่ทำงานให้กับประเทศชาติ แต่กลับมาถูกดำเนินคดีในความผิดปล่อยปละละเลยในโครงการรัฐจนไม่สามารถอยู่ในประเทศได้ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีเกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหารในปี 2556 ท่ามกลางบรรยากาศมาตรา 44 ที่ให้อำนาจสูงสุดแก่คณะผู้ทำการรัฐประหาร ประกอบกับในวันนั้นมีการใช้มาตรา 44 ตั้งคณะกรรมการเดินหน้ายึดทรัพย์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำย้อนหลังใดๆ ทั้งสิ้น ที่สำคัญดำเนินการก่อนที่คดีอาญาจะสิ้นสุด ถือว่าเป็นการชี้นำคดีอาญาหรือไม่ อยากถามสังคมว่า แบบนี้แล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรมใช่หรือไม่ ตนเชื่อว่าคนในสังคมไทยที่มีใจเป็นธรรมคงมองเรื่องนี้ไม่ต่างจากตน

"วันนี้คนไทยต้องการความสามัคคีปรองดอง เดินหน้าประเทศไทย เพราะฉะนั้น การกลับมาของคุณยิ่งลักษณ์ จึงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย และเท่าที่ทราบมา คุณยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับประเทศและเข้าสู่กระบวนการบังคับโทษตามกฎหมายราชทัณฑ์ ไม่ใช้สิทธิพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้ฝ่ายแค้นอย่าเอาประเด็นนี้มาเป็นประเด็นการเมืองเพื่อโจมตีทำลายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อย่าขยายความขัดแย้งนำไปสู่ความวุ่นวายของประเทศ เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้า ให้รัฐบาลได้แก้ปัญหาทั้งเรื่องความยุติธรรมและปัญหาปากท้องของประชาชน" นายวรชัยกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กกต. เตือนข้อพึงระวังหาเสียงและยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายเลือกตั้ง อบจ.

สำนักงานคณะกรรมการ​การ​เลือกตั้ง​ (กกต.) ออกเอกสารประชาสัมพันธ์ข้อพึงระวังในการหาเสียง การรายงานค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อให้

แฉอีโม่ง วิ่งเต้นล้มปมชั้น 14 เตือนหยุดทำเถอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2568 ให้จับตาดูวันที่ 15 ม.ค.ที่แพทยสภาขีดเส้นตายให้แพทย์รักษาทักษิณ ชินวัตร ชั้น 14 ส่งรายงานการรักษามาตรวจสอบการเอื้อหนีติดคุก แล้วยังต้องติดตามผลตรวจสอบของ ป.ป.ช.กรณีชั้น