“นายกฯ อิ๊งค์” บอกไม่ได้จบกฎหมายมา โยน “ชูศักดิ์” ดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ รมต.ประจำสำนักฯ ยังดันทุรัง เตรียมชง กมธ.สามัญทุกคณะตีความ อ้างแม้ไม่มีการเขียนชัดๆ แต่ใครก็รู้ว่าประชามติต้องใช้เงิน
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทันในรัฐบาลนี้หรือไม่ โดย น.ส.แพทองธารหันมาย้อนถามว่า แล้วคิดว่าอย่างไร สื่อมวลชนจึงบอกว่า อยากให้เสร็จ นายกฯ จึงกล่าวว่า ก็ให้กำลังใจกันหน่อย
เมื่อถามว่า จะให้นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เร่งไปดูเพราะกฎหมายประชามติเข้าข่ายกฎหมายการเงินหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า นายชูศักดิ์ช่วยดูทุกเรื่อง ทุกกฎหมาย เพราะไม่ได้จบกฎหมายมา นายชูศักดิ์ต้องช่วยเยอะหน่อย
ด้านนายชูศักดิ์ กล่าวถึงการตีความร่างพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติว่าเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่ ว่าการพิจารณาว่าเป็นกฎหมายการเงิน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 138 วรรคท้าย จะลดเวลาการพักกฎหมายจาก 180 วันเป็น 10 วัน ทั้งนี้ จากที่เช็กดูประธานรัฐสภาเคยวินิจฉัยก่อนการพิจารณากฎหมายแล้วว่าไม่ใช่กฎหมายการเงิน แต่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าหากมีการสงสัยว่าเป็นเรื่องกฎหมายการเงินหรือไม่ ให้ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญของสภาผู้แทนราษฎรทุกคณะเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งต้องมีผู้ยื่นเรื่องเข้าไป จะเป็นใครก็สุดแล้วแต่
“ผมจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) หากเรื่องนี้เข้าเงื่อนไขเป็นกฎหมายการเงิน ก็ไม่ต้องรอถึง 180 วัน ถือเป็นความเห็นทางกฎหมาย ยืนยันว่าแม้กฎหมายจะไม่มีถ้อยคำเกี่ยวกับการเงิน แต่ใครก็รู้ว่าการทำประชามติต้องใช้เงิน” นายชูศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า สามารถวินิจฉัยได้เลย ไม่ต้องรอให้กฎหมายถูกพักก่อนใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ทําได้เลย ไม่จําเป็นต้องตีความ เป็นอำนาจของประธาน กมธ.วินิจฉัย สุดแต่ว่าจะมีความเห็นกันอย่างไร แต่ต้องประชุมกันก่อน ถามต่อว่าจะให้ประธาน กมธ.ของพรรค พท.เป็นคนเสนอเข้าที่ประชุมหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เดี๋ยวต้องพูดคุยกัน
วันเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณาคำร้องที่ พล.ท.ศานิต สร้างสมวงษ์ ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 40 วรรคหนึ่ง (11) ซึ่งเป็นการเลือกผู้สมัคร สว.ระดับอำเภอที่กำหนดวิธีการเลือกไขว้ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 25, 26, 27, 34, 50 และมาตรา 107 หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่าการยื่นไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขในการยื่นคำร้อง จึงมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
นอกจากนั้น ศาลรัฐธรรมนูญยังได้พิจารณาคำร้องของศาลจังหวัดวิเชียรบุรี ที่ส่งคำโต้แย้งของนายหนูเต็ม แสงวัน ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.120/2567 ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยว่าพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 50 (25) ซึ่งเป็นกรณีของผู้ที่เคยถูกให้ออกจากตำแหน่งใดๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเหตุการปฏิบัติหน้าที่ และยังไม่พ้น 5 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 26 วรรคหนึ่งหรือไม่ โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้หน่วยงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และมีคำสั่งให้นำพยานเอกสารในสำนวนการไต่สวนคดีคำวินิจฉัยที่ 5/2566 มารวมไว้ในสำนวนคดีนี้เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘18บอส’นอนตะรางยาว! สายไหมไม่รอดเจอข้อหา
18 บอสดิไอคอนนอนคุกยาว ดีเอสไอยื่นฝากขังผัด 4 พ่วงแจ้งข้อหาใหม่โทษหนักคุก 10 ปี
อิ๊งค์ข้องใจแสนชื่อเลิก‘MOU44’
“หมอวรงค์” นำกลุ่มคนคลั่งชาติยื่น 104,697 รายชื่อร้องยกเลิกเอ็มโอยู 44
ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’
“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ
ทวีโยงคาร์บ๊องป้องแม้วพักชั้น14
ตามคาด "ทักษิณ" ไม่เข้าชี้แจง กมธ.ปมนักโทษชั้น 14 "ทวี" แจงแทน
‘ทักษิณ-พท.’ยิ้มร่า ศาลยกคำร้องล้มล้างฯ เพื่อไทยเล็งฟ้องเอาคืน
ศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ยกคำร้อง "ทักษิณ-เพื่อไทย" ล้มล้างการปกครอง
'มาดามแพ' พาลูกๆเข้าทำเนียบฯ เย็นนี้กินข้าวเบิร์ธเดย์วันเกิด 'คุณหญิงพจมาน '
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ในเวลา 09.30 น. โดยวันเดียวกันนี้ นายกฯเดินทางด้วยรถเบนซ์ส่วนตัว ทะเบียน 4 ขท 2566 กรุงเทพมหานคร และได้พา ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย มาทำเนียบฯด้วย