"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร. ลากยาว 4 ชม. ถกแต่งตั้ง 41 นายพลสีกากีระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช. "อิ๊งค์" บอกเป็นประสบการณ์ใหม่ วงประชุมเดือด! บี้อาวุโสน้อยข้ามหัวนั่งเก้าอี้เกรดเอ สุดท้ายปรับโผใหม่ "สยาม" ใกล้ชิดบิ๊กต่อผงาด "ผบช.น." โยก "สันติ" ไปนั่ง "ปส." นรต.41 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร.ยึด "ภาค1-2" น้องชายเสธ.หิคว้าเก้าอี้ใหญ่ "ผบช.ไซเบอร์"
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 14.30 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 10/2567 โดยวาระสำคัญคือ วาระที่ 4 เรื่องที่ 4 การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ วาระประจำปี 2567 ระดับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ถึงผู้บัญชาการ (ผบช.) โดยเป็นการใช้ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เป็นครั้งแรก
น.ส.แพทองธารกล่าวเริ่มต้นการประชุมว่า การประชุม ก.ตร.ในวันนี้มีเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายเรื่อง ตามกรอบ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ทั้งมีเรื่องการพิจารณาให้ความเห็นชอบการแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติระดับผู้บัญชาการขึ้นไป ที่จำเป็นต้องได้บุคลากรที่สามารถบริหารจัดการให้ตำรวจในการรับผิดชอบตอบสนองต่อการบริการประชาชน และรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ตามกรอบการพิจารณาที่กฎหมายกำหนดไว้
"ขอให้ที่ประชุมร่วมกันพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบตามระเบียบกฎหมาย เพื่อให้การบริหารงานคนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงประโยชน์ราชการเป็นสำคัญ" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ตร.เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งครั้งนี้ มีตำแหน่งรอง ผบ.ตร. ว่าง 4 ตำแหน่ง, ผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่าง 7 ตำแหน่ง และ ผบช. ว่าง 14 ตำแหน่ง รวมตำแหน่งว่าง 25 ตำแหน่ง ซึ่งการประชุมใช้เวลานานกว่า 4 ชม. จนเวลา 18.36 น. นายกฯ ได้เดินออกจากห้องประชุม โดยผู้สื่อข่าวถามว่าการประชุมในวันนี้ยากหรือไม่ นายกฯ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "เป็นประสบการณ์ใหม่" ก่อนเดินทางกลับ
มีรายงานว่าบรรยากาศการประชุม ก.ตร. เริ่มต้นโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. นำบัญชีรายชื่อที่ผ่านคณะกรรมการพิจารณารายชื่อตำรวจ ที่มีการประชุมวันที่ 19 พ.ย.ที่ผ่านมาหารือที่ประชุม ก.ตร. ซึ่งช่วงแรกพิจารณาระดับรอง ผบ.ตร.และผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่พิจารณาตามหลักเกณฑ์กฎหมายใหม่ ยึดตามลำดับอาวุโส แต่พอมาถึงระดับ ผบช. ได้มีการพิจารณาไล่เรียงตำแหน่งโดยบอร์ดกลั่นกรองชี้แจงกฎเกณฑ์การแต่งตั้งโยกย้าย เดิมตำแหน่ง ผบช. ให้ผู้ที่ครองตำแหน่ง 2 ปีขึ้นเป็น ผบช. ปรับเป็นผู้ที่ครองตำแหน่ง 3 ปี ยกเว้น พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 นรต.41 สายตรงอดีต รมต.คนดัง ขยับขึ้นเป็น ผบช.
นอกจากนี้ มีการเสนอปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ผบช.หลักหลายตำแหน่ง ทำให้เกิดการวิจารณ์เป็นวงกว้างของ ก.ตร. เกี่ยวการแต่งตั้งรอง ผบช. นอกจากกลุ่มอาวุโส เป็นกลุ่มความรู้ความสามารถที่มีชื่อข้ามคนอื่นขึ้นมา ก.ตร.บางคนเสนอให้เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปก่อน แต่ ก.ตร.มีมติประชุมต่อ จนกระทั่งเวลา 17.00 น. มีการพักเบรกการประชุมเป็นเวลา 30 นาที ก่อนมาประชุมต่อและเสร็จสิ้นในเวลา 18.35 น.
พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ เลขานุการ ก.ตร. กล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมมีการพิจารณานายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร. จนไปถึง ผบช. รวมทั้งหมด 41 ตำแหน่ง ซึ่งการพิจารณาเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อระเบียบและวิธีปฏิบัติที่ยึดระดับความอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยที่ประชุมมีการหยิบยกรายชื่อตัวบุคคลทุกตำแหน่งมาพิจารณาอย่างทั่วถึง เชื่อได้ว่าหลังจบการประชุมบุคคลที่ได้รับการพิจารณาแต่ละตำแหน่งจะมีความเหมาะสม
ถามถึงกระแสข่าวในที่ประชุมมีการถกเถียงเรื่องการครองตำแหน่งอายุราชการที่นำมาใช้ประกอบการพิจารณาเลื่อนตำแหน่ง พล.ต.ท.อนุชายอมรับว่า ในที่ประชุมนำรูปแบบดังกล่าวมาพิจารณาจริง แต่ไม่ได้เป็นการตัดสิทธิ์ผู้มีอายุราชการเพียง 2, 3 และ 4 ปี แต่เป็นการพิจารณาทุกราย ทุกตำแหน่งเป็นไปด้วยความเหมาะสม ไม่ใช่ว่าให้นักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นใดรุ่นหนึ่งมาดำรงตำแหน่งเป็นพิเศษ รวมทั้งกระแสที่ว่าจะคัดเลือกเฉพาะเพื่อน นรต.เดียวกับ ผบ.ตร.
"การใช้เวลาพิจารณาวาระแต่งตั้งนานกว่า 4 ชั่วโมง เนื่องจาก ก.ตร.ทุกท่านต้องการพิจารณาว่าคุณสมบัติแต่ละรายเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ ส่วนนายกฯ ในฐานะประธาน ได้นั่งควบคุมการประชุมตลอดเวลาจนแล้วเสร็จ พร้อมเปิดโอกาสให้คณะกรรมการทุกท่านได้ร่วมแสดงความคิดเห็น โดยไม่มีข้อท้วงติงหรือสั่งการเรื่องใดเป็นพิเศษ" พล.ต.ท.อนุชากล่าว
ถามว่า การแต่งตั้งนายพลครั้งนี้มีเรื่องของการเมืองเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชายืนยันว่า ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องนี้ แต่หากบุคคลใดที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม การฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ เมื่อถามว่าการแต่งตั้งครั้งนี้จะทำให้หลายคนผิดหวังจนเสียน้ำตาหรือไม่ พล.ต.ท.อนุชากล่าวว่า ตนเองไม่เห็นรายชื่อบุคคลใดมาก่อน มารับรู้ในฐานะเลขาฯ ในที่ประชุมเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อที่ผ่านความเห็นชอบจาก ก.ตร. ตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร. ขึ้นรอง ผบ.ตร. 4 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส 100% ประกอบ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข, พล.ต.ท.นิรันดร เหลื่อมศรี, พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร
ตำแหน่ง ผบช. ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. 7 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส 100% ประกอบด้วย พล.ต.ท.ธนพล ศรีโสภา จตร. (หัวหน้าจเรตำรวจ), พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.อภิชาติ เพชรประสิทธิ์ ผบช.ส., พล.ต.ท.กฤษฎา สุรเชษฐพงษ์ ผบช.สกบ., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4
ตำแหน่งรอง ผบช. ขึ้น ผบช. ว่าง 14 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งจากผู้มีอาวุโสไม่น้อยกว่า 50% ของตำแหน่งที่ว่าง คิดเป็น 7 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งที่ถูกจับตาเป็นพิเศษคือ ที่ประชุมเสนอชื่อ พล.ต.ท.สยาม บุญสม จเรตำรวจ (นรต.46) ใกล้ชิด พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. เป็น ผบช.น. และขยับ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (นรต.48) ที่มีโผก่อนหน้านี้จะเป็น ผบช.น. ถูกขยับไปเป็น ผบช.ปส., พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. (นรต.41) เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. โยกมา ผบช.ภ.1, พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ. (นรต.41) โยกมา ผบช.ภ.2, พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ศ. โยกไป ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 (นรต.42) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.ภ.4, พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 (ที่เดิม), พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 (ที่เดิม), พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 (ที่เดิม), พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 (ที่เดิม), พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 (ที่เดิม)
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. (นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สตม., พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. (นรต.46) น้องชายเสธ.หิ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปเป็น ผบช.สอท. หรือ บช.ไซเบอร์, พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์ รอง ผบช.ภ.7 เลื่อนขึ้นเป็น ผบช.สพฐ., พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.สง.ผบ.ตร. (นรต.47) โยกมาเป็น ผบช.ศ., พล.ต.ท.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบช.รร.นรต. (ที่เดิม), พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สนง.ผบ.ตร. (นรต.46) โยกมาเป็น ผบช.สกพ., พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. โยกมาเป็น ผบช.ส., พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ก.6 (นรต.41) เลื่อนขึ้นเป็น จตร., พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.สงป. โยกเป็น ผบช.สกบ. และ พล.ต.ต.มนเทียร พันธ์อิ่ม รอง ผบช.สกพ. เลื่อนขึ้นเป็น จตร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ
สมเด็จสังฆราช ประทานไฟวธ. สวดมนต์ข้ามปี
"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานไฟพระฤกษ์ สวดมนต์ข้ามปี
อิ๊งค์ยันแจกหมื่นเฟส3 เคาะขึ้นค่าแรง-อีรีซีท
ครม.ไฟเขียว 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าแรง 400 นำร่อง 4 จังหวัด 1 อำเภอ
โต้งทำใจหลุดปธ.ธปท.
กฤษฎีการอชี้ขาดคุณสมบัติ “กิตติรัตน์” 25 ธ.ค.นี้ เผยมี 2 ปมต้องเคลียร์ให้ชัด
ปีหน้าม่วนจบปัญหา พ่อนายกฯการันตีรบ.อยู่ครบเทอม/ม็อบขู่ลงถนน
ไม่ยุบสภา! "ทักษิณ" การันตี "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" อยู่ครบเทอม
นายกฯอิ๊งค์ ร่วมงานเลี้ยงปีใหม่สื่อทำเนียบฯ รับเป็นคนโผงผาง แต่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนสัมพันธ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568 โดยนายกฯมาพร้อมกับ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาว และด.ช.พฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ บุตรชาย