ตอกยํ้าดีลฮ่องกง ลิ่วล้อแจงแทนนาย ‘พรรคส้ม’ ยากเป็นรัฐบาล

ตอกย้ำดีลฮ่องกงเหลว! "ณัฐวุฒิ"  ขยายความ "ทักษิณ" คุย "ธนาธร" แค่เล่าชะตากรรม ไม่มีการพาดพิง ม.112 กับก้าวไกล เผยตั้งแต่โหวต "พิธา" ครั้งแรกไม่ผ่าน ก็เชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่างน้อยก็ตลอด 4 ปีของอายุสภานี้ ชี้ตั้งแต่ยุบอนาคตใหม่ ยุบก้าวไกล ชะตากรรมของ 44 สส.พรรคส้มเป็นเรื่องเดียวกัน ขณะที่ "ชัยธวัช" เหน็บ "แม้ว" บอกว่าเกลียดพวกพ่อค้ายา แต่พ่อค้าแป้งก็เป็นรัฐมนตรี

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2567 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในสื่อโซเชียลถึงการปราศรัยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อดีตนักโทษคดีคอร์รัปชัน   จนนำไปสู่การตอบโต้กับนายธนาธร จึงุร่งเรืองกิจ  ประธานคณะก้าวหน้า ในประเด็น ม.112 ว่า “ผมเป็นคนกำกับเวทีปราศรัยที่อุดรฯ ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ยืนอยู่ใกล้ๆ จุดที่คุณทักษิณให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ระหว่างการรัฐประหารทั้ง 2 ครั้ง มาจนถึงพรรคการเมืองถูกยุบ เพราะมีนโยบายแก้ 112

คุณทักษิณจึงตอบว่าเคยคุยกับคุณธนาธร โดยเล่าชะตากรรมของตัวเอง ให้ความเห็นเรื่องโครงสร้าง และยังอธิบายด้วยว่าไม่ได้บอกว่าคุณธนาธรหรือพรรคไม่จงรักภักดี ไม่มีการพาดพิงเรื่อง 112 กับพรรคก้าวไกลในการตั้งรัฐบาลเลย

หากคุณทักษิณพูดเรื่องที่คุยกันคลุมเครือหลายครั้ง คุณธนาธรก็มีสิทธิ์จะเล่าโดยละเอียดครบถ้วน ว่าตอนบินไปเจอได้คุยอะไรกัน

หลังจากโหวตคุณพิธาครั้งแรกไม่ผ่าน ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ อย่างน้อยก็ตลอด 4 ปีของอายุสภานี้ และเชื่อด้วยว่าตั้งแต่ยุบอนาคตใหม่ ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ยุบก้าวไกล และอาจเลยไปถึงชะตากรรมของ 44 สส.ที่อยู่ในชั้น ป.ป.ช. เป็นเรื่องเดียวกัน ส่วนจะเป็นเรื่องอะไรนั้น ผมเคารพวิจารณญาณของพรรคประชาชน

ถ้าคุณทักษิณเป็นคนที่น่าจะเข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด เราก็น่าจะเข้าใจด้วยว่าในสภาพปัญหาที่ซับซ้อน คนหรือพรรคที่โดนมาอย่างหนักเกือบ 20 ปี อาจเลือกวิธีเผชิญปัญหาแบบหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมือนหรือต่างกับพรรคการเมืองอื่น แต่เมื่อเป็นการตัดสินใจทางการเมืองก็ต้องพร้อมน้อมรับการตัดสินใจของประชาชน

การทำงานความคิดกับผู้คนในสังคมย่อมมีหลากหลายรูปแบบและวิธีการ หากต้องเป็นไปตามแนวทางของพรรคใดพรรคหนึ่งเพียงอย่างเดียว ก็ยากที่จะเรียกว่าวิถีทางประชาธิปไตย

สิ่งที่พรรคประชาชนพบ ไม่มีอะไรที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยเจอ ในระหว่างที่สังคมยังไม่สุกงอมพร้อมพอที่จะเปิดใจพูดคุยเรื่องโครงสร้าง สิ่งที่เพื่อไทยพยายามทำคือ ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้าทีละก้าว

เรื่องสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม เราได้ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และ ครม.เพิ่งเห็นชอบการเร่งรัดหลักเกณฑ์การให้สัญชาติชนกลุ่มน้อยที่อาศัยในประเทศไทยมายาวนาน แม้อาจเป็นก้าวไม่ใหญ่นัก แต่ก็เป็นก้าวสำคัญ และจะเป็นฐานยืนสำหรับก้าวต่อๆ ไป

ผมเข้าใจและเห็นใจชะตากรรมของพรรคประชาชน เอาใจช่วยอย่าให้พบความโหดร้ายแบบที่ผมเคยผ่าน ไม่ประสงค์สร้างพื้นที่วิวาทะ เพียงแต่เป็นผู้ช่วยหาเสียงไปกับคุณทักษิณ 2 คน อยู่ในเหตุการณ์จึงเล่าสู่กันฟัง

ยกเลิกกฎหมายเก่า​

ขณะที่การปราศรัยของของพรรคประชาชนที่้จังหวัดอุดรธานี วันเดียวกันนี้​ นายชัยธวัช ตุลาธน  คณะกรรมการคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวว่า​ วันนี้มาหาเสียงไม่ได้หาเรื่อง แต่จะไม่พูดก็ไม่ได้​ เพราะไม่กี่วันก่อนนายกฯ ท่านหนึ่ง​ ให้เกียรติพาดพิงพวกตน​ แต่ปรากฏว่าตอนที่นายชัยธวัชพูดถึงท่อนนี้ไมค์ดับทันที​ ก่อนที่นายชัยธวัชจะกล่าวว่า "แหมของมันแรงจริงๆ"

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า นายทักษิณ​ลงมาหาเสียงกับพี่น้องอุดรฯ​ ให้เกียรติพวกเราพูดถึงพวกเราหลายเรื่อง ตนก็อยากจะพูดถึงบ้าง แต่เอาเป็นบ้างเรื่องพอ​ เพราะถ้าพูดทุกเรื่องเดี๋ยวคืนนี้ไม่จบ​ เขาฝากบอกพี่น้อง​ ให้บอกพรรคประชาชน​ว่า​ ไม่ต้องแข่งกันเสนอกฎหมายเยอะๆ หรอก ไปยกเลิกกฎหมายเก่า​ ที่สร้างปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนก่อน​ อันนี้ตนก็ต้องพูดกับคนอุดรธานี​ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด

เขาปราศรัยว่า กฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญ จะยกเลิกกฎหมายเก่าที่มีปัญหาหรือการแก้ไขกฎหมายเก่าที่มีปัญหา มันก็ต้องไปออกกฎหมายใหม่มายกเลิก​ เรื่องแบบนี้ยังพูดบิดไปบิดมา​ ดังนั้น​ แข่งกันออกกฎหมายใหม่​ดีแล้ว ออกกฎหมายใหม่เพื่อยกเลิกกฎหมายเก่า​ ที่มีปัญหาและออกกฎหมายใหม่ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเป็นสิ่งที่​ สส.ต้องทำ

"ไม่งั้นพี่น้องประชาชนจะเลือก สส.ไปทำไม ไปนั่งง่อยๆ เหมือน สส.ฝั่งรัฐบาลในสภาหรือครับ เลือกเข้าไปก็ต้องไปแก้ไขกฎหมาย เพราะมันเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ และถ้าจริงใจอยากแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนจริงๆ มันก็ต้องพิสูจน์กับการปฏิบัติ ไม่ใช่มาโจมตีกันแบบนี้ไร้สาระที่สุด"

นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า​ ขอยกอย่างกฎหมายยกเลิกการเกณฑ์ทหาร อดีตนายกเศรษฐา​ ทวีสิน​ ไม่เซ็น ทำไมไม่เซ็นล่ะครับ กฎหมายที่มีประโยชน์กับประชาชน เราเสนอกฎหมายให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการบริหารจัดการงบประมาณ​ เพื่อมาทำถนนด้วยตนเอง ไม่ต้องรอกระทรวงคมนาคม ไม่ใช่ให้ท้องถิ่นไปวิ่งเต้น​ แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เขา​ แล้วเขาถึงจะมาจัดการให้​ ทำไมรัฐบาลเพื่อไทยอดีตนายกเศรษฐาไม่เซ็น​

กฎหมายกระจายอำนาจถูกขัดขวางตั้งแต่ตอนรัฐประหาร เราก็เสนอให้แก้ไขกฎหมาย เพื่อไปยกเลิกกฎหมายเดิมเพื่อให้ท้องถิ่นสามารถดูแลตัวเองได้​ นายกฯ เศรษฐาก็ไม่เซ็น อดีตพรรคก้าวไก​ล​ เสนอกฎหมายขนส่งทางบก​ เพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจเต็มๆ ในการตัดสินใจว่า รถขนส่งสาธารณะ​ในท้องถิ่น​ ท้องถิ่น​ต้องเป็นคนตัดสินใจ​ มีอำนาจเต็ม ไม่ใช่ต้องไปรอกระทรวงคมนาคม แต่ปรากฏว่าพรรคร่วมรัฐบาลรวมถึงพรรคเพื่อไทยทำไมโหวตคว่ำล่ะครับ​ กฎหมายแบบนี้​ถือว่ามีประโยชน์กับพี่น้องประชาชน​

พ่อค้าแป้งก็เป็นรัฐมนตรีได้

นายชัยธวัชกล่าวว่า นายทักษิณมาหาเสียงบอกต้องแก้ปัญหาการผูกขาด​ ลดต้นทุนการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน​ ตนถามว่ารัฐบาลใหม่ของพรรคเพื่อไทยทำอะไรบ้างกับการผูกขาดค่าไฟฟ้า​ ที่ทำให้ค่าไฟแพง ทำไมยังสืบต่อการให้สัมปทานที่เอื้อประโยชน์กับทุนใหญ่เพียงคนเดียว​  ไอ้นี่ไงลดต้นทุนทำไมไม่ทำ เกรงใจใคร

"สุดท้ายไม่พูดไม่ได้ ฟังคุณทักษิณแล้วมันคันหัวใจ คุณทักษิณบอกว่าเกลียดพวกพ่อค้ายามากเลย แหมถ้าเจอแล้วจะเรียกมา เรียกมาร่วมรัฐบาลเหรอครับ พ่อค้าแป้งก็เป็นรัฐมนตรีได้ ใช่ไหม อันนี้เขินหน่อยก็เอาตัวแทนมาเป็น​ รีบไปจัดการสิครับ ​ ไม่ต้องเกรงใจใคร​ นักการเมืองที่อยู่ในพรรคร่วมของท่านถ้าใครมีเอี่ยวกับยาเสพติดจัดการให้หมด​"

นายชัยธวัช​กล่าวต่อว่า​ พยายามโจมตีกันเป็นเด็กอ่อน เด็กใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ขอย้ำว่าตนยอมรับ ตนเป็นเด็กหน้าใหม่ เป็นพรรคการเมืองใหม่จริงๆ แต่ก็ไม่ใหม่มาก ชนะการเลือกตั้งแล้ว แต่เขาไม่ยอมเป็นนายกฯ​ ก่อนจะย้อนถามว่า​ ทำไมต้องมีพรรคการเมืองใหม่ การเมืองแบบใหม่​ เพราะนักการเมืองแบบเก่ามันไม่ตอบโจทย์พี่น้อง  เมื่อมีของใหม่ ความมุ่งมั่นเปลี่ยนการเมือง ตั้งแต่ท้องถิ่น ไประดับชาติ โดยเอาผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นตัวตั้ง จะมาบอกว่าไม่มีประสบการณ์ ถ้าอยากรู้ว่ามีประสบการณ์หรือมีประสบการณ์อย่างไร ลองเลือกดู และพี่น้องจะไม่ผิดหวัง

ส่วนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน กล่าวว่า การเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมมีแพ้มีชนะ คนชนะกลับมาแพ้ คนแพ้ก็กลับมาชนะได้ ไม่มีใครกลัวทั้งนั้น การทำงานแบบพรรคประชาชนคือการทำงานระยะยาว คู่แข่งอาจจะดูการเลือกตั้งต่อการเลือกตั้ง แต่พรรคประชาชนดูไปถึง 3 การเลือกตั้งข้างหน้า การเมืองแบบพวกเราคือแข่งกับตัวเองทุกวัน และการต่อสู้อย่างเต็มที่ไม่ท้อแท้ถดถอย

นายพิธายังกล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมานายทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทยหาเสียงเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายค้าน อบจ.คนเก่าเป็นมา 12 ปี เพิ่งมาบอกว่าจะทำน้ำประปาสะอาด แปลว่า 12 ปีที่ผ่านมาไม่สะอาดใช่หรือไม่ บอกว่าจะจัดการปัญหายาเสพติด แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีปัญหาเจ้าพ่อยาเสพติด ทุนจีนสีเทา เมื่อปีก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องตั๋วตำรวจเพื่อไทย ตราบใดที่ยังมียาเสพติดจากต่างประเทศแล้วยังมีตั๋วตำรวจ ยาเสพติดก็แก้ไม่ได้ เป็นรัฐบาลมา 14 เดือน ราคายาบ้ายังเหมือนเดิม ตั๋วตำรวจยังมีหรือไม่ ขอให้ตอบให้กระจ่างด้วย

เมืองหลวงของคนเสื้อแดง

"มีคนกล่าวว่าอุดรธานีเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง แต่สำหรับผมแล้วคนอุดรธานีไม่มีเจ้าของ  อุดรธานีเป็นเมืองหลวงของประชาธิปไตย ซึ่งมีหลายเฉด บางคนเลือกพรรคเพื่อไทย บางคนเลือกพรรคก้าวไกล บางคนก็เลือกพรรคไทยสร้างไทย  ดังนั้น แม้การแข่งขันครั้งนี้เรามั่นใจ แต่ก็ไม่ประมาท เพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่เหมือนการเลือกตั้งระดับชาติ ประชาชนอยู่ต่างประเทศหรือต่างจังหวัดกลับมาลงคะแนนไม่ได้ แต่ตนก็ขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้งกันให้มากที่สุด และขอสื่อสารไปถึงชาวอุดรธานีที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดและต่างประเทศ ขอให้ช่วยพรรคประชาชนบอกกลับมาที่ครอบครัว ถ้าอยากให้คนอุดรธานีมีงานทำ มีสาธารณสุขที่ดี มีการคมนาคมที่ดี จะได้กลับมาบ้านเสียที ส่งข้อความกลับมาให้ครอบครัวที่อุดรธานี ให้ไปเลือกตั้งเยอะๆ" นายพิธากล่าว

ขณะที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า การปราศรัยของทักษิณ ชินวัตร ที่อุดรฯ ส่อถึงอาการไม่มั่นใจในผลการพิจารณาคำร้องของศาล รธน. ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ย.นี้

อีกทั้งกล่าวถึงสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ทำหนังสือรายงานศาล รธน.ระบุว่า คำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร มีมูล ซึ่งเป็นผลตรงข้ามจากสำนักข่าวบางแห่งที่รายงาน อสส.ได้ยุติคดี แต่เป็นเรื่องแปลกที่ อสส.ไม่ออกมาแถลงความชัดเจนเลย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนได้ยินมา การทำรายงานชี้แจงศาล รธน.มีผลตรงกันข้าม โดยทักษิณคงรับรู้ข่าวนี้เช่นกัน จึงเกิดความไม่มั่นใจ จนไปขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ เพื่อปลุกพลังคนเสื้อแดงขึ้นมาต่อรอง

"วันศุกร์ (22 พ.ย.) นี้ เชื่อว่าโอกาสที่ศาล รธน.จะรับคำร้องไว้พิจารณา เพราะข้อที่ 1 และบางข้อในข้อที่ 2-6 มันมีความชัดเจนยิ่งกว่าใดๆ อีกอย่างอาจลุ้นว่า จะมีคำสั่งเพิ่มเติมให้นายกฯ รองนายกฯ และ รมต.บางคนต้องหยุดปฏิบัติด้วยหรือไม่"

นายจตุพรกล่าวว่า ทักษิณพูดถึงนายธนาธร  จึงรุ่งเรืองกิจ และ ม.112 กับการรื้อโครงสร้างนั้น ต้องการสร้างให้พรรคประชาชนเป็นปีศาจที่น่ากลัว  ซึ่งสะท้อนถึงอาการหวั่นไหวกับคำร้องของนายธีรยุทธ ที่ศาล รธน.จะพิจารณารับคำร้องหรือไม่ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ จึงสร้างปีศาจพรรคประชาชนขึ้นมาให้น่ากลัว และสร้างความสำคัญให้กับทักษิณที่จะเอาชนะและปราบปีศาจใหม่ได้

สงครามการเมืองกำลังเริ่มต้น

อีกทั้งกล่าวว่า ทักษิณสร้างความน่ากลัวใหม่ให้นายธนาธรและพรรคประชาชน เพื่อให้ตัวเองสลัดคราบปีศาจในร่างประชาธิปไตยโกงกินได้สบาย ทั้งที่ความน่ากลัวนั้นอยู่ที่ตัวของทักษิณเอง ไม่ใช่นายธนาธรและพรรคประชาชนเลย

นายจตุพรกล่าวว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรฯ เป็นเพียงทางผ่านของทักษิณ ที่จะใช้เวทีปราศรัยก่อสงครามการเมืองกับพรรคประชาชน ซึ่งไม่กล้ารุกไล่พรรคเพื่อไทยที่ตระบัดสัตย์ ไม่ทำตามคำพูดที่หาเสียงไว้กับประชาชน และที่สำคัญไม่กล้าขยี้กรณีชั้น 14 การถวายฎีกาสารภาพความผิดกับพระเจ้าแผ่นดิน แต่ไม่ยอมติดคุกสักวัน ขณะที่คนเสื้อแดงอุดรและมุกดาหารต่อสู้เรียกร้องจนถูกจับติดคุก

“การไปปลุกคนเสื้อแดงนั้น เพื่อจะสื่อสารไปถึงองค์กรต่างๆ ว่า ถ้าตัวเองถูกเล่นงานอีกจะสู้ และคนเสื้อแดงก็เป็นคนประหลาด เพราะถูกถีบ ถูกทิ้ง ถูกหลอกแล้วยังพร้อมจะให้หลอกใหม่อีก และไม่คิดถึงคำหลอกลวงที่ผ่านมาเลย ทั้งๆ ที่ทักษิณเคยหลอกกระทั่งเสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจะกลับมานำการต่อสู้ ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเป็นจริง”

อีกอย่างพรรคเพื่อไทยสัญญาว่าได้เป็นรัฐบาลแล้ว 100 วันแรกจะเสนอกฎหมายฟ้องตรงศาลฎีกาในคดีการชุมนุมได้ แต่ก่อนทักษิณออกจาก รพ.ตำรวจหนึ่งวันก็ถอนกฎหมายกลับแล้ว ดังนั้น จะเอาอะไรอีกกับคนเสื้อแดง เพราะทำตัวเหมือนเป็นคนมีหน้าที่ให้ทักษิณและพรรคเพื่อไทยถีบหัวส่งอยู่อย่างนั้นเรื่อยมาและไม่เคยจำ

"ทักษิณใช้สนามอุดรในการปลุกแต่ละฝ่ายให้ตื่นตัว ส่วนคนเสื้อแดงพี่น้องใช้วิจารณญาณเอาเองว่า บทจะใช้ก็ใช้ บทไม่ใช้ก็ทิ้ง ทุกสิ่งที่พูดมาหลอกกันทั้งนั้น เราเป็นคนเสื้อแดงหรือควายแดงตามที่เขาว่ากัน"

พร้อมกล่าวว่า อาการกราดใส่นายธนาธร โดยพูดถึงรื้อโครงสร้าง โยงไปสู่ 112 เพื่อชี้เป้า และฟื้นคนเสื้อแดงขึ้นมาปรามองค์กรต่างๆ ที่จะลงมือเล่นงานกับทักษิณ ดังนั้นทุกอย่างเห็นได้ชัดเจนว่าเวลาใกล้เข้ามาแล้ว และสงครามการเมืองกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง จึงต้องรีบปลุกคนเสื้อแดง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘อิ๊งค์’ โชว์30บ. เวทีผู้นำเอเปก

นายกฯ อิ๊งค์โชว์ผลงาน 30 บาทรักษาทุกที่ บนเวทีผู้นำภาคเอกชนเอเปก พร้อมชวนลงทุนด้านธุรกิจดูแลสุขภาพในไทย มั่นใจหลังให้นโยบาย “บีโอไอ”

'พิธา' คุยพรรคประชาชนแข่งเลือกตั้งมีแต่ชนะกับพัฒนา ไม่มีคำว่าแพ้

ที่จ.อุดรธานี แกนนำ สส. และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก องค์การ​บริหาร​ส่วน​จังหวัด​ (อบจ.)​ อุดรธานี ที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 พ.ย. 2567 ซึ่งพรรคประชาชนได้ส่ง คณิศร ขุริรัง เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก

ดร.ณัฏฐ์ ชี้เลือกนายกอบจ.อุดร เพื่อไทยชนะไม่ขาดจะกระทบสนามใหญ่ เตือน 'ทักษิณ' ปากพาซวย!

“ดร.ณัฏฐ์” มือกฎหมายมหาชน ชี้ 'ทักษิณ ชินวัตร' ยกทัพไปช่วยหาเสียงนายกอบจ.อุดรธานี แม้เกณฑ์คนไปฟังเยอะ คะแนนสวนทาง หากไม่ชนะขาด กระทบต่อสนามใหญ่ ยกวาทะ 'ถ้าจะเลือกทักษิณ ให้เลือกเบอร์ 2' ระวังทำคนหลงผิดโทษถึงคุก!