"อนุทิน" ลั่นปัญหาเขากระโดงจบในกรม อย่าโยง รมว.มหาดไทย ปัดเอื้อประโยชน์ใครทั้งสิ้น รฟท.ร่อนหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน ค้านคำสั่งไม่เพิกถอนที่ทับซ้อน มท.โต้ร้องผิดที่ ชี้ต้องยื่นศาลแพ่งพร้อมหลักฐานใหม่ กังขาแผนที่อ้างอิงใช่ พรฎ.เวนคืนที่ดินสร้างทางรถไฟหรือไม่ ฝ่ายค้านซัดมหากาพย์ร่วมมือทำลายหลักนิติธรรม
ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่เลขาธิการกฤษฎีกาแนะนำให้กรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เจรจาหาข้อยุติข้อพิพาทที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่ามีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา และตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ส่วนที่บอกว่าคณะกรรมการตามมาตรา 61 ไม่มี รฟท. เพราะต่างคนต่างเป็นคู่กรณี แต่เขามีกรรมการแยกต่างหากแล้วค่อยไปตั้งคณะกรรมการร่วมกัน ฉะนั้นขออย่านำเรื่องนี้มาโยงกับ รมว.มหาดไทย เพราะเรื่องพวกนี้จบในกรม และ รมว.มหาดไทยได้มอบนโยบายและสั่งการกรมที่ดินให้ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบทุกอย่าง ไม่มีการเอื้อหรืออำนวยความสะดวกให้กับใคร ส่วนจะจบอย่างไร ก็ให้เป็นไปตามนั้น ไม่ต้องมารายงานรัฐมนตรี เพราะหากไม่เป็นไปตามกฎหมาย ต้องมีคนร้องคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือหาก รฟท.ยังไม่พอใจไปฟ้องศาลต่อ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว
"หลายเรื่องที่มีการนำเสนอข่าวออกไปผิดหมดเลย พร้อมยกตัวอย่างการลาออกของอดีตอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีการอ้างว่าถูกแรงกดดันจึงลาออกเพราะไม่อยากเข้าคุก ซึ่งไม่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากต้องการไปดูแลภรรยาที่ป่วย และเมื่อเขามีความจำเป็น ต้องเคารพการตัดสินใจ ซึ่งการเสนอข่าวต้องมีความแม่นยำข้อมูลให้มากกว่านี้ และแหล่งข่าวไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะผมรายวัน (ให้สัมภาษณ์) อยู่แล้ว เจอผู้สื่อข่าวก็วิ่งเข้าหาทุกที ไม่เคยให้ต้องมาตาม เราต้องมาคุยกันแบบนี้ อย่าไปฟังตรงโน้นทีตรงนี้ที และเกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งคุณไม่ได้เดือดร้อน ผมไม่ได้เดือดร้อน แต่คนเดือดร้อนคือประชาชน" นายอนุทินระบุ
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ รฟท.เร่งยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ตำบลอิสาณ และตำบลเสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปยังอธิบดีกรมที่ดิน จึงเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายสุริยะทันที โดยได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์ดังกล่าวไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อคัดค้านกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนตามมาตราที่ 61 มีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนเขากระโดง
ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า หากกรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ทับซ้อนในบริเวณดังกล่าว รฟท.ได้วางกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ไว้เบื้องต้น โดยให้ประชาชนสามารถขอเช่าที่ดินบริเวณดังกล่าวในหลายรูปแบบ อาทิ การเช่าสำหรับอยู่อาศัย การเช่าสำหรับทำการเกษตร หรือการเช่าสำหรับเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไปได้ ทั้งนี้ยืนยันว่าทุกขั้นตอนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดงนั้น รฟท.ปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
ขณะที่มีรายงานข่าวจากกรมที่ดินว่า การยื่นหนังสือดังกล่าวมาที่กรมที่ดิน ไม่มีประโยชน์ เพราะตามหนังสือที่กรมที่ดินเคยแจ้งไปยัง รฟท. ว่าแนวทางที่ถูกต้องคือต้องไปอุทธรณ์ต่อศาลแพ่ง พร้อมหลักฐานใหม่ประกอบ หากจะดำเนินการเพิกถอนตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน รฟท.ต้องฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินเป็นรายแปลง จำนวนกว่า 900 แปลง
“ประเด็นคือแผนที่ของ รฟท.เป็นแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินสร้างทางรถไฟหรือไม่ กรมที่ดินเห็นว่าเป็นแผนที่ที่ทำขึ้นปี 2539 เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา รฟท.ต้องพิสูจน์แผนที่ที่ทำไปอ้างในศาลเป็นแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหรือไม่ หรือเป็นแผนที่ที่มาจากที่ใด” แหล่งข่าวจากกรมที่ดินระบุ
นายสุวิช ศุมานนท์ ประธานสมาพันธ์คนงานรถไฟ (สพ.รฟ.) ทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) เรื่องขอให้ทบทวนมติของคณะกรรมการที่ให้ยุติการเพิกถอนเอกสารสิทธิพื้นที่เขากระโดงของการรถไฟแห่งประเทศไทย อ้างถึง 1.พระราชบัญญัติการจัดวางรางแลทางหลวง พ.ศ.2464 2.ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา ลว. 17 นาคม 2541 3.มติชี้ขาดของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่องพื้นที่เขากระโดง 4.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 842-876/2560 ลว. 16 ก.พ.2560 5.คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2561 ลว. 22 พ.ย.2561
6.คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 คดีหมายเลขแดงที่ 1112-2563 ลว. 22 เม.ย.2563 7.คำพิพากษาศาลปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 2494/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 ลว. 30 มี.ค.2566 8.หนังสือ มท. 0516.2(2)/221612 ลว. 21 ต.ค. 2567
"เนื่องจากพื้นที่เขากระโดงได้ผ่านการพิสูจน์สิทธิชัดเจนแล้วว่าเป็นของ รฟท. ดังจะดูรายละเอียดได้จากหลักฐานการพิพากษาของศาลฎีกาและศาลอุธรณ์ คำวินิจฉัยของ ป.ป.ช. และความเห็นของกฤษฎีกา การที่คณะกรรมการตามมาตรา 61 มีมติดังกล่าวนั้น จึงเป็นการละเมิดคำตัดสินของศาลฎีกาและขัดต่อพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งกรมที่ดินอยู่ภายใต้การบริหารงานของ รมว.มหาดไทย ขอให้ท่านมีบัญชาให้มีการแก้ไขให้ถูกต้องตามคำพิพากษา ให้เป็นไปตามกฎหมาย โปรดสั่งการให้ทบทวนมติคณะกรรมการดังกล่าวด้วย" นายสุวิชระบุ
นายจุลพงศ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า โดยคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินตามมาตรา 61 วรรคสอง ของประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งหนังสือกรมที่ดินฉบับดังกล่าว สรุปได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนเห็นสมควรไม่เพิกถอน หรือแก้ไขหนังสือรับรองสิทธิในที่ดิน จนกว่า รฟท.จะมีพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของ รฟท. ซึ่งหนังสือกรมที่ดินฉบับนี้ สร้างความฉงนแก่ผู้คนจำนวนมาก เพราะก่อนหน้านี้ศาลฎีกาเคยตัดสินไว้ในคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2560 รวมทั้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาคสาม คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 หมายเลขแดงที่ 1112/2563 ได้วินิจฉัยสอดคล้องกันว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดงที่ยังเป็นปัญหาจนถึงปัจจุบันนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ปัญหาคือทำไมคณะกรรมการสอบสวนที่อธิบดีตั้งขึ้นชุดล่าสุด จึงมีมติดังกล่าวโดยยังไม่เชื่อว่ากรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของ รฟท. ตามที่ศาลฎีกาพิพากษาไว้
นายจุลพงศ์กล่าวว่า กรมที่ดินได้ออกแถลงการณ์ล่าสุดว่า กรมที่ดินได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองในคดีแดงที่ 582/2566 ที่ให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการตามวรรคสองของมาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว และกรมที่ดินยังได้อ้างว่าคำพิพากษาศาลปกครองดังกล่าวมิได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนโฉนดและเอกสารสิทธิที่ดินแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่ในคำพิพากษาของศาลปกครองกลางฉบับเดียวกันได้อ้างถึงคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับที่ 842-876/2560 และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8027/2560 รวมทั้งคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาคสาม คดีหมายเลขดำที่ 111/2563 หมายเลขแดงที่ 1112/2563 ที่พิพากษาเหมือนกันหมดว่าที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท.
"คนทั่วไปฟังเรื่องนี้แล้วจึงอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมมติของคณะกรรมการที่กรมที่ดินแต่งตั้งจึงขัดกับคำพิพากษาศาลฎีกา และสงสัยว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร มหากาพย์ที่ดินเขากระโดง เกิดจากการอาศัยความเชี่ยวชาญในการใช้เทคนิค และช่องว่างทางกฎหมายของกฎหมายที่ดิน กฎหมายปกครอง และระเบียบกรมที่ดินที่คนทั่วไปเข้าใจได้ยาก จึงเป็นมหากาพย์ของความร่วมมือกันทำลายหลักนิติธรรมของประเทศไทย ยิ่งเมื่อไปดูรายชื่อคณะกรรมการตามมาตรา 61 ที่อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้งชุดล่าสุดนี้ หลายคนตั้งข้อสงสัยเรื่องความสัมพันธ์ทางใดทางหนึ่งกับนักการเมืองระดับชาติในจังหวัด เรื่องนี้จึงมีอะไรที่ซ่อนอยู่อีกเยอะ" นายจุลพงศ์ระบุ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังขาเก็บ‘MOU44’ไว้หาประโยชน์
"สนธิญา" บุกทำเนียบฯ จี้ "นายกฯ-ครม." ยกเลิก MOU 44
สนอง‘พ่อนายกฯ’ คลังแจกเงินหมื่น คนอายุ60ปีขึ้นไป
รมว.คลังรับลูก "ทักษิณ" แจกเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เผยใช้งบไม่มาก
ตร.รอคำสั่งศาล จ่อตั้งรองผบ.ตร. สอบวินัยบิ๊กโจ๊ก
“บิ๊กต่าย” ขอไม่ก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด แจงไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรพร้อมปฏิบัติตาม
‘แม้ว’โทษม.112 ชงแก้การบังคับใช้
"ทักษิณ" เผยธาตุแท้ อ้างพรรคร่วมรัฐบาลลงสัตยาบันไม่แตะ ม.112 แต่ ม.112
จวกทักษิณลวงโลก! ลืมสัจจะวาจาไม่ยุ่งการเมืองจะกลับมาเลี้ยงหลาน
ฮึกเหิม! "สทร." บอกเห็นมวลชนมาเยอะหัวใจพองโต ซัดพวกอิจฉาหาครอบงำ
'เสี่ยหนู' ลั่น 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' ไม่เคยขัดแย้งปมที่ดินเขากระโดง!
'เสี่ยหนู' ยัน พท.-ภท. ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท.แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย