นบข.แย้มไร่ละพัน ผสมปุ๋ยคนละครึ่ง รอลุ้นอนุกก.เคาะ!

“นฤมล” แย้ม นบข.อาจใช้วิธีผสมผสานไร่ละ 1 พัน-ปุ๋ยคนละครึ่ง ระบุเป็นโครงการที่ดีสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น อนุกรรมการด้านการผลิตเตรียมประชุมเร็วๆ นี้ "ไผ่" โต้ “พลพีร์” ยัน ก.เกษตรฯ ไม่ทิ้งโครงการไร่ละพันบาท พร้อมช่วยเหลือทันทีหากจำเป็น

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 11 พฤศจิกายน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี สส.พรรคภูมิใจไทย เรียกร้องให้ กษ.จ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรไร่ละ 1 พันบาทกลับคืนมา หลังจากที่รัฐบาลจะเปลี่ยนไปเป็นโครงการปุ๋ยคนละครึ่งแทนว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ได้หารือกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีนายพิชัย  นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์เป็นประธาน ได้มีการพิจารณาเรื่องโครงการปุ๋ยคนละครึ่งที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นผู้เสนอ ครม. แต่ตอนนั้นได้ให้นำกลับไปทบทวน

"ความจริงเรื่องนี้เกษตรกรอยากได้ทั้งสองอย่าง ทั้งไร่ละ 1 พันบาทและปุ๋ยคนละครึ่ง เพราะถือว่าเป็นโครงการที่ดี สามารถเพิ่มคุณภาพและผลผลิตได้มากขึ้น แต่เนื่องจากรอบงบประมาณมีจำกัดจึงจะต้องดูให้รอบคอบ" นางนฤมลกล่าว

 ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า อาจจะเป็นการผสมผสานกัน ท้ายที่สุดแล้วที่ประชุม นบข.ได้ให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ที่มีตนเป็นประธานมาทบทวนรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ จากการหารือกับนายกสมาคมชาวนาไทยก็เห็นด้วยว่า น่าจะเป็นการผสมผสานกัน เราจะไม่ยกเลิกไร่ละ 1 พันบาท แต่รูปแบบจะมีการแบ่งสัดส่วนอย่างไร อาจจะกำหนดจำนวนไร่ลดลงเพื่อเอาบางส่วนไปช่วยปุ๋ยคนละครึ่ง

"ฉะนั้นต้องรอในที่ประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตสรุปก่อน และจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม นบข.อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะช่วยเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอยู่ดี แต่ต้องมาดูว่าควรจะเป็นรูปแบบใดที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดและตรงกับความต้องการของเกษตรกร โดยคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิตจะมีการประชุมเร็วๆ นี้" นางนฤมลระบุ

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย ได้ทวงถามความชัดเจนจากกระทรวงเกษตรฯ เพื่อหาคำตอบให้ประชาชนที่ร้องเรียนมาเรื่องช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท และเงินชดเชยตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตัน ว่าขอชี้แจงเป็น  2 ประเด็นคือ เรื่องแรกกรณีช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบชัดเจนคือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวนาโดยตรง ทั้งนี้ แม้ล่าสุดการประชุม นบข.ที่ผ่านมาจะยังไม่มีความชัดเจนเรื่องนี้ แต่มั่นใจว่ารัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรฯ พร้อมขับเคลื่อนและผลักดันไปช่วยเหลือพี่น้องเกษตกรชาวนาทันทีที่มีปัญหา ประกอบกับสถานการณ์ราคาข้าวในตลาด ณ ขณะนี้ยังอยู่ที่ประมาณ 8,000-9,000 บาทต่อตัน ถ้ามีความจำเป็นรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงเกษตรฯ ก็จะต้องออกมาขับเคลื่อน เพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาชดเชยให้พี่น้องเกษตรกรโดยไม่นิ่งนอนใจอย่างแน่นอน

ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องชดเชยการตัดอ้อยสด 120 บาทต่อตัน ถือเป็นความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม โดยตรง ซึ่งตนก็เคยออกมาเรียกร้องเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเช่นกัน ซึ่งก็มั่นใจว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบก็พร้อมดูแลพี่น้องเกษตรกร ไม่ได้ทอดทิ้งให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยต้องแบกรับโดยไม่มีการเหลียวแล

“ผมขอฝากไปถึงท่าน สส.พลพีร์ว่า ช่วงนี้แม้จะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ แต่เรา สส.โดยเฉพาะในพรรคร่วมรัฐบาลก็สามารถพบปะพูดคุยหารือร่วมกัน เพื่อช่วยกันเสนอแนะไปถึงรัฐบาล โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ในทิศทางเดียวกัน  เพื่อป้องกันการสับสนของพ่อแม่พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวนาชาวไร่ที่เป็นกำลังสำคัญในขับเคลื่อนเศรษฐกิจของชาติ” นายไผ่ กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง