อดีตผู้ป่วยร้ายแรง 4 โรค ฟิตจัด! “ทักษิณ” ไปอุดรฯ ชดเชยที่หนีไปต่างประเทศ 17 ปี ขอบคุณที่ไม่ลืมกัน เผยเสียงต่อต้าน "แพทองธาร" เป็นพวกขาประจำ แต่ไม่หวั่นเพราะลูกสาวเห็นมาตั้งแต่เด็กว่าการเมืองไทยเป็นอย่างนี้
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 ที่วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี พรรคเพื่อไทยหาเสียง จะถือเป็นการทวงคืนความยิ่งใหญ่ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ว่า แค่ไปเยี่ยมประชาชนที่ไม่เคยลืมตน ตนไปอยู่เมืองนอกตั้ง 17 ปี เขาไม่เคยลืม จึงขอไปเยี่ยม สอบถามสารทุกข์สุกดิบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากอุดรธานีจะมีที่ไหนอีกบ้าง นายทักษิณตอบว่า ต้องดูภารกิจของตนในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คงค่อยๆ ไปเยี่ยมประชาชนเรื่อยๆ จึงค่อยดูกันอีกทีว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่อยากไปเยี่ยมทุกที่ที่เขาไม่ลืมเรา ส่วนการลงพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ต้องค่อยดูเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน
เมื่อถามว่า การขึ้นเวทีที่อุดรธานีเป็นการปราศรัยครั้งแรกหลังจากกลับเมืองไทย เขาปฏิเสธว่า ไม่รู้จะยังทำเป็นหรือไม่ ลืมไปหมดแล้ว ไม่ได้ปราศรัยมา 18 ปี เดี๋ยวไปลองดู แต่หลักๆ จะเป็นการทักทายประชาชน ไม่มีการปราศรัยโจมตี มีแต่ความเป็นห่วงเป็นใย
ถามว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้คาดหวังว่าจะชนะการเลือกตั้งหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า มั่นใจว่าคนอุดรฯ ไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทย และยังจำตนได้อยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องไปเยี่ยมและขอบคุณ
"ไม่รู้ แล้วแต่ประชาชนกับผู้สมัครที่ทำงานกับประชาชนร่วมกันมา"
ซักว่าต้องแข่งกับพรรคประชาชน นายทักษิณกล่าวว่า การแข่งขันทางการเมืองเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นความสวยงามของระบบประชาธิปไตย
นายทักษิณยังให้สัมภาษณ์ถึงกระแสต่อต้านการทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าเป็นธรรมดา อย่าเรียกว่ากระแสดีกว่า เป็นกลุ่มผู้คนที่ส่วนใหญ่เป็นขาประจำ
เมื่อถามว่า จะให้กำลังใจ น.ส.แพทองธารอย่างไร เพราะทำงานเพียงไม่นานก็ถูกโจมตี เขาบอกว่า เป็นเรื่องธรรมดา น.ส.แพทองธารเห็นมาตั้งแต่เด็กว่าการเมืองไทยเป็นอย่างนี้แหละ
ซักว่า แต่มีการนำประเด็นของนายทักษิณไปโจมตี น.ส.แพทองธารด้วย นายทักษิณกล่าวว่า ไม่เป็นไร แต่โจมตีตนคนเดียวดีกว่า ง่ายดี เพราะไม่ได้เป็นอะไร
ส่วนคำถามที่ว่าประเมินการทำงานของ น.ส.แพทองธารตั้งแต่รับตำแหน่งมาเป็นอย่างไรบ้าง อดีตนายกฯ ผู้นี้ตอบว่า ดี มุ่งมั่น และรู้เรื่องราวของประเทศได้เร็วมาก พรรคร่วมเห็นทำงานร่วมกันดี นายกฯ เรียกประชุมก็ทำงานร่วมกันดี
ขณะที่ นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายทักษิณไม่มีคุณสมบัติต้องห้ามใดๆ ดังนั้นจึงสามารถช่วยหาเสียงได้ และจังหวัดอุดรธานีก็มีความผูกพันกับนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย รวมไปถึงผูกพันกับคนเสื้อแดงอย่างแนบแน่นยาวนาน เชื่อว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้จะทำให้พี่น้องประชาชนที่รักและศรัทธานายทักษิณและพรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมฟังปราศรัยทางการเมืองครั้งแรกของนายทักษิณจำนวนมาก การที่ฝ่ายตรงข้ามซึ่งมองนายทักษิณเป็นคู่ขัดแย้งและพยายามโจมตีตลอดเวลา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะความมุ่งหมายของคนเหล่านั้นเพื่อต้องการสกัดกั้นนายทักษิณเท่านั้น
“อดีตนายกฯ ทักษิณเป็นนายกฯ ที่คนไทยรักมากที่สุดคนหนึ่ง โดยรัฐประหารยึดอำนาจจากเผด็จการ โดนสั่งให้ยึดทรัพย์สิน ต้องเดินทางออกนอกประเทศ ระหว่างอยู่ในต่างประเทศก็ใช้ความรู้ความสามารถทางธุรกิจจนประเทศต่างๆ ให้การยอมรับและชื่นชม ฉะนั้นวันนี้การใช้ความรู้ความสามารถของอดีตนายกฯ ทักษิณในด้านต่างๆ มาสร้างประโยชน์ให้กับคนไทยและประเทศไทย จึงเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เราจึงไม่ควรกังวลไปตามการเดิมเกมของพวกที่ไม่หวังดี และต้องการสกัดกั้นอดีตนายกฯ ทักษิณ เพราะจะเท่ากับว่าพลาดโอกาสสำคัญของคนไทยและประเทศชาติ” นายวรชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร วันเดียวกันนี้ มีงานทำบุญทอดกฐินสามัคคี โดยนายทักษิณเป็นประธานในพิธี ที่นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม และ น.ส.ชญาดา วิภัติภูมิประเทศ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) เขตคันนายาว กทม. เป็นประธานถวายผ้ากฐิน
โดยมีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสุรจิตต์ พงษ์สิงห์วิทยา ประธานสภา กทม., นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น เข้าร่วมงานด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณถวายผ้ากฐิน และถวายตาลปัตร ปักชื่อ "ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี" โดยยอดจตุปัจจัยรวมเป็นเงินประมาณกว่า 2.2 ล้านบาท.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“รัฐบาล”ไฟลต์บังคับ “ทักษิณ”ได้แค่กร่าง
ดรามาปม “อีแอบ” อาจเป็นแค่ประเด็นโชว์กร่าง หวังกดดันให้พรรคร่วมรัฐบาลสยบยอม หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” นายใหญ่ ที่มีสถานะเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ได้พ่นไฟระหว่างงานสัมมนาพรรคเพื่อไทยที่ อ.หัวหิน เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา
กกต.ปลุก‘กปน.’ จับโกงเลือกอบจ. พท.ทุบพรรคส้ม
กกต.ติวเข้มวิทยากรเตรียมพร้อมเลือกตั้ง อบจ. กำชับ 3 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนปิดหีบต้องทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ
สมเด็จสังฆราช ประทานไฟวธ. สวดมนต์ข้ามปี
"สมเด็จพระสังฆราช" ประทานไฟพระฤกษ์ สวดมนต์ข้ามปี
อิ๊งค์ยันแจกหมื่นเฟส3 เคาะขึ้นค่าแรง-อีรีซีท
ครม.ไฟเขียว 1 ม.ค.68 ขึ้นค่าแรง 400 นำร่อง 4 จังหวัด 1 อำเภอ
โต้งทำใจหลุดปธ.ธปท.
กฤษฎีการอชี้ขาดคุณสมบัติ “กิตติรัตน์” 25 ธ.ค.นี้ เผยมี 2 ปมต้องเคลียร์ให้ชัด
ปีหน้าม่วนจบปัญหา พ่อนายกฯการันตีรบ.อยู่ครบเทอม/ม็อบขู่ลงถนน
ไม่ยุบสภา! "ทักษิณ" การันตี "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" อยู่ครบเทอม