“นายกฯ อิ๊งค์” เปิดหลักสูตร วปอ.รุ่น 67 โอ่รัฐบาลมุ่งเศรษฐกิจดิจิทัล ปี 2573 มีสัดส่วน 30% ของจีดีพี กต.เปิดตารางทัวร์นายกฯ 11-13 พ.ย.ไปสหรัฐ 14-16 พ.ย.ประชุมเอเปกซัมมิตที่เปรู
เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ (วปอ.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการศึกษาหลักสูตรป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 67 และกล่าวบรรยายหัวข้อวิชาบทบาทของภาครัฐ เอกชน และการเมือง ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ
โดยนายกฯ กล่าวเปิดหลักสูตรตอนหนึ่งว่า ทุกคนทราบโลกทุกวันนี้เปลี่ยนแปลงไปเร็วมาก ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ และที่สำคัญเทคโนโลยีเอไอต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น โลกวันนี้กับ 20 ที่แล้วเป็นคนละใบ หลังจากนี้การเปลี่ยนแปลงจะยิ่งเร็วขึ้น เราต้องเตรียมพร้อมรับมือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่จะรุนแรงยิ่งขึ้น ชัดเจนว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมรุนแรงมากยิ่งขึ้นและปัญหาทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในทุกระดับ เรื่องนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉย เราเตรียมในเรื่องของการรับมือกับปัญหาดังกล่าวไว้แล้ว
นายกฯ กล่าวต่อว่า ไปเจอกับผู้นำหลายประเทศ ได้พูดคุยกัน เห็นปัญหาที่เจอคล้ายกัน ฉะนั้นความร่วมมือเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทุกประเทศยินดีช่วยเหลือกัน เพื่อให้หลุดพ้นจากปัญหานี้ โดยรัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายเพื่อที่จะรองรับภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของภัยในเรื่องของความมั่นคง อย่างเช่น ประเด็นความขัดแย้งสหรัฐอเมริกากับจีนที่จะส่งผลกระทบในหลายมิติ ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ และเรื่องการแข่งขันทางด้านเทคโนโลยี ซึ่งหลายท่านอาจคิดว่าจีนจะเอาสินค้าเข้ามาขายทำให้คนไทยไม่มีที่ยืน ไม่มีตลาดสำหรับการขายสินค้า แต่ว่าความจริงแล้ว จีนเองก็ยังต้องการสินค้าเกษตรจากไทยอย่างมาก ฉะนั้นเรายังมีทางออกของเรา ซึ่งรัฐบาลพร้อมอำนวยความสะดวกและพัฒนาเรื่องของเกษตรให้แข็งแรงพร้อมที่จะส่งออกให้กับจีน ซึ่งทางออกของเศรษฐกิจไทยเคยได้ไปพูดคุยกับกระทรวงการคลังและหลายประเทศเพื่อนบ้าน ว่าความจริงแล้วการปรับโครงสร้างหนี้หรือช่วยในเรื่องของหนี้ก็ถือเป็นแนวทางหนึ่งในการช่วยเศรษฐกิจให้ดีขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ การหารายได้ใหม่ให้กับประเทศ รัฐบาลจึงสนับสนุนในเรื่องของซอฟต์พาวเวอร์ เกิดการจ้างงานและสร้างอาชีพใหม่ๆ เพื่อให้เราหลุดกับดักรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และอีกอย่างที่รัฐบาลจะผลักดันต่อคือการเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลให้เป็น 30% ของจีดีพีในปี 2573
“หลักสูตรนี้ดิฉันคิดว่าจะสามารถให้อะไรหลายๆ อย่างได้ ทุกครั้งที่มีการจับกลุ่มกัน ก็อยากจะขอให้ทุกคนช่วยกันเข้างานกลุ่มเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการอยู่ในรุ่นนี้ พอจบออกไปก็ยังคบหากันอยู่ และเป็นสิ่งที่อีกสังคมหนึ่งดีใจที่ได้มาเจอตอนที่ไม่ใช่เป็นนักเรียนแล้ว เพราะเป็นรุ่นที่โตแล้ว รู้สึกว่าได้มาเจอกลุ่มใหม่ เพื่อนใหม่ๆ ก็รู้สึกว่าทำให้มีประสบการณ์เยอะขึ้น เปิดโลกให้กว้างขึ้น ต้องขอให้ทุกคนโชคดี หลังจากจบคอร์สกันไปจะได้คบกันต่อไปนานๆ เราจะได้รู้จักกันทุกภาคส่วน ตอนที่ดิฉันเข้ามาเรียน วปอ.มินิ รู้สึกว่าข้าราชการทุกท่านมีความเป๊ะมาก ได้รู้จักในมุมใหม่ๆ ขอให้ทุกคนเรียนเตรียมพร้อมพัฒนาประเทศของเรา” นายกฯ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงถึงการเตรียมเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปกซัมมิต ครั้งที่ 30 ของ น.ส.แพทองธาร และนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ พร้อมคณะ ที่กรุงลิมา ประเทศเปรู ระหว่างวันที่ 14 ถึง 16 พ.ย.นี้ ภายใต้หัวข้อ "Empower Include Grow: เสริมสร้างพลังมีส่วนร่วมเติบโตอย่างยั่งยืน" ว่าสอดคล้องกับแนวคิด และนโยบายของรัฐบาลไทย ในการมุ่งขยายโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชน โดยนายกฯ มีกำหนดเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับกับผู้นำภาคเอกชน และธุรกิจชั้นนำ ก่อนหารือกับสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก รวมถึงกิจกรรมคู่ขนาน และหารือทวิภาคีร่วมกับเขตเศรษฐกิจเอเปก เช่น หารือทวิภาคีกับผู้นำเปรู ชิลี รวมถึงผู้นำประเทศในแถบลาตินอเมริกา เพื่อขยายโอกาสการค้าการลงทุน เนื่องจากตลาดลาตินเป็นตลาดใหญ่ รวมทั้งผลักดันความสัมพันธ์ระดับประชาชน ผ่านการนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ไทย รวมถึงจะได้มีโอกาสพบปะกับผู้บริหารเอกชนชั้นนำ ทั้งติ๊กต๊อก, ไมโครซอฟท์ และกูเกิลด้วย โดยไทยจะใช้โอกาสการเข้าร่วมประชุมเอเปกครั้งนี้ผลักดันเขตการค้าเอเชียแปซิฟิก หรือ F-TAP ซึ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน มีนวัตกรรม และมีความครอบคลุมยิ่งขึ้น ส่งเสริมการเปลี่ยนทางเศรษฐกิจผ่านการใช้ประโยชน์ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม
ทั้งนี้ นายกฯ มีกำหนดเดินทางเยือนนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นประธานประชุมเอกอัครราชทูตไทย และกงสุลใหญ่ไทย ประจำภูมิภาคอเมริกาที่นครลอสแอนเจลิส ระหว่างวันที่ 11-13 พ.ย.นี้ รวมถึงจะได้พบปะชุมชนไทยในอเมริกา และหารือกับผู้แทนระดับสูงของบริษัทเอกชนที่สำคัญในอเมริกา เพื่อเชิญชวนการลงทุนในประเทศไทยด้วย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
กฤษฎีกาเอกฉันท์โต้งหมดสิทธิ์
กฤษฎีกามติเอกฉันท์ "กิตติรัตน์" ขาดคุณสมบัติ หมดสิทธิ์นั่ง "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ"