นายกฯ สั่ง “คลัง-มหาดไทย” ตั้งคณะทำงานนำที่ดินรัฐสร้างบ้านให้ประชาชน ครม.รับทราบ "หนี้สาธารณะ" ยังอยู่ในกรอบ ข่าวดี! “สมาคมธนาคารไทย” จับมือภาครัฐเตรียมออกมาตรการลดภาระชำระหนี้ ให้ผ่อนเงินต้นพักจ่ายดอกเบี้ย อุ้มลูกหนี้บ้าน-รถยนต์-ผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก หวังประคองตัวได้
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้และความเหมาะสม ให้สามารถนำที่ดินของรัฐที่มีอยู่จำนวนมากนำมาทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ โดยการนำที่ดินดังกล่าวมาสร้างที่อยู่อาศัยให้ประชาชน แต่กรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของรัฐอยู่ เพื่อเน้นส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกฯ สั่งการในที่ประชุม ครม.ดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.ให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้และเหมาะสม รวมถึงเรื่องดำเนินการให้นำที่ดินของรัฐมาสร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยกรรมสิทธิ์ยังคงเป็นของรัฐ รวมถึงการอนุญาตให้ทำสัญญาทรัพย์อิงสิทธิได้ในระยะยาวขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้สถาบันทางการเงินพิจารณาเพิ่มสินเชื่อให้กับประชาชนในกลุ่มดังกล่าวได้มากขึ้น 2.ให้คณะทำงานที่จะจัดตั้งขึ้นเพื่อนำผลการศึกษาดังกล่าวของผลการดำเนินงานของกระทรวงมหาดไทยที่ทำตามมติของ ครม. วันที่ 18 มิ.ย. ถึงมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจทางอสังหาริมทรัพย์มาประกอบการพิจารณาด้วย
ทั้งนี้ รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมจัดหาพื้นที่ให้ประชาชน เช่น โครงการหนองวัวซอโมเดล ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นว่าไม่ใช่เพียงแค่กระทรวงกลาโหมเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายกระทรวงที่มีที่ดินอยู่ในครอบครองที่จะสามารถนำที่ดินให้กับประชาชนมาใช้ประโยชน์ไม่ว่าจะในส่วนใด
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม.รับทราบรายงานสถานะของหนี้สาธารณะตามมาตรา 35 (1) แห่งพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอ โดยสถานะของหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2567 มีจำนวน 11,728,149.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.02 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ [Gross Domestic Product (GDP)] ซึ่งยังอยู่ในกรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่กำหนดให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ไม่เกินร้อยละ 70
วันเดียวกัน สมาคมธนาคารไทยเปิดเผยว่า ตามที่สมาคมธนาคารไทยได้หารือร่วมกับกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวช้าและไม่ทั่วถึง ทำให้รายได้ธุรกิจและครัวเรือนบางกลุ่มยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อีกทั้งยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ภาวะการเงินของภาคครัวเรือนและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเปราะบางขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย ดังนั้นหน่วยงานจึงเห็นร่วมกันในการที่ต้องเตรียมมาตรการช่วยเหลือเพื่อลดภาระทางการเงินเพิ่มเติมให้แก่ลูกหนี้
ทั้งนี้ มาตรการเพิ่มเติมนี้จะเป็นความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชน ในการมุ่งช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัย สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่สูงและประสบปัญหาในการชำระหนี้ ให้สามารถประคองตัว รักษาสินทรัพย์สำคัญ ทั้งที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และสถานประกอบการไว้ ผ่านแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ที่จะช่วยลดภาระการผ่อนชำระต่องวดอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่เข้าร่วมมาตรการ โดยผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นเท่านั้น และพักชำระดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หากลูกหนี้ปฏิบัติได้ตามหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่กำหนด จะได้รับยกเว้นสำหรับดอกเบี้ยที่พักแขวนไว้ ซึ่งจะเป็นการช่วยอย่างตรงจุดและเป็นรูปธรรม โดยจะมีแรงจูงใจให้ลูกหนี้รักษาวินัยในการผ่อนชำระ ทั้งในช่วงเข้าร่วมมาตรการและหลังจบมาตรการ โดยระหว่างเข้าร่วมมาตรการ ลูกหนี้จะไม่สามารถก่อหนี้เพิ่มได้ช่วงเวลาหนึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดภาระหนี้ให้ได้อย่างแท้จริง และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์จงใจผิดนัดชำระหนี้ เพื่อใช้ประโยชน์จากมาตรการนี้
สำหรับมาตรการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ จะเป็นมาตรการชั่วคราว และเป็นมาตรการครอบคลุมเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ขนาดเล็ก ที่ตั้งใจจะลดหนี้และมีโอกาสที่จะกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติในระยะข้างหน้า เมื่อรายได้ฟื้นตัว ซึ่งจะเป็นจุดตั้งต้นของการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง และรองรับกับมาตรการระยะถัดไปของภาครัฐ ที่จะส่งเสริมการเข้าสู่ระบบข้อมูลที่ทุกภาคส่วนสามารถทราบถึงภาระและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ได้ เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาระหนี้เกินกำลัง หรือเกินความจำเป็น รวมถึงให้มีรายได้ขั้นต่ำที่พอเพียงในการดำรงชีพ หรือยกระดับทักษะและความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจรายเล็ก
โดยกลุ่มเป้าหมายคือ ลูกหนี้ที่มีวงเงินสินเชื่อขนาดเล็กที่เป็นไปตามเกณฑ์สำหรับแต่ละผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เป็นสัญญาเงินกู้ที่ทำก่อน 1 ม.ค.2567 และเป็นสัญญาที่ประสบปัญหาการชำระหนี้ตามเกณฑ์ที่กำหนด อ้างอิงข้อมูล ณ 31 ต.ค.2567 ซึ่งคุณสมบัติของกลุ่มเป้าหมาย เกณฑ์การเข้าร่วม และรายละเอียดของมาตรการ สมาคมธนาคารไทย กระทรวงการคลัง และ ธปท.อยู่ระหว่างการดำเนินการ จะประกาศให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉายาสภาเหลี่ยม(จน)ชิน
ถึงคิวสื่อสภา ตั้งฉายา สส. "เหลี่ยม (จน) ชิน" จากการพลิกขั้วรัฐบาลเขี่ย
ตอกฝาโลงกิตติรัตน์ ‘กฤษฎีกา’ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุมีส่วนกำหนดนโยบาย
"กฤษฎีกา" ชี้ชัดสมัย "นายกฯ เศรษฐา" ตั้ง "กิตติรัตน์" เป็นประธานที่ปรึกษาของนายกฯ
‘เท้งเต้ง’ไม่ทน! ชงแก้ข้อบังคับ รมต.ตอบกระทู้
ทนไม่ไหว! “หัวหน้าเท้ง” หารือประธานสภาฯ ขอให้แก้ข้อบังคับการประชุม
แม้วพบอันวาร์กลางทะเล เตือนเสือกทุกเรื่องทำพัง!
ปชน.จี้ถามรัฐบาล “ทักษิณ” มีอำนาจจริงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่
ให้กำลังใจจนท.ดูแลปีใหม่ เข้มงวด‘ความปลอดภัย’
นายกฯ ให้กำลังใจตำรวจ-กรมทางหลวง ทำงานหนักช่วงปีใหม่
นายกฯ อิ๊งค์บอกตำรวจอยากดูแล ปท.แบบคนรุ่นใหม่มีอะไรคุยกันได้
นายกฯ มอบนโยบายตำรวจ ขอดูแลปชช.ช่วงปีใหม่ เชื่อ ตร.ภายใต้การนำ ”บิ๊กต่าย“ ทำให้ประชาชนอยู่อย่างมีความสุข-ปลอดภัย บอกอยากดูแลประเทศแบบคนรุ่นใหม่ มีอะไรคุยกันได้