18บอสหนาว ดีเอสไอจ่อฟัน ผิด‘แชร์ลูกโซ่’

คนส่วนใหญ่ยังเชื่อทนายความจิตอาสาไม่หิวแสงมีจริง แต่ไม่มาก “ดีเอสไอ” จ่อฟันแชร์ลูกโซ่เร็วๆ นี้ 18 บอสต้องลุ้นระทึกใครโดนบ้าง “มาดามอ้อย” ให้การเงินเสน่หา 71 ล้านบาทวันที่สาม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชนเรื่อง ทนายความจิตอาสาจริงๆ โดยสอบถามประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ รวม 1,310 หน่วยตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงการมีอยู่จริงของทนายความจิตอาสาที่ช่วยเหลือประชาชนด้วยใจ ไม่สนใจผลประโยชน์หรือการสร้างชื่อเสียงให้กับตนเอง พบว่า 52.44% ระบุว่ามีจริง แต่ไม่มากเท่าไร, 26.56% ไม่มั่นใจว่ามีจริง, 16.88% ไม่มีจริง และ 4.12% มีจริง จำนวนมาก

ด้านบุคคลหรือหน่วยงานที่ประชาชนไว้ใจในการขอความช่วยเหลือหากไม่มั่นใจในความยุติธรรมจากคดีความที่ฟ้องร้องผู้อื่นหรือถูกผู้อื่นฟ้องร้อง พบว่า 42.06% ระบุว่าศูนย์ดำรงธรรม  กระทรวงมหาดไทย, 21.83% ชมรม สมาคม มูลนิธิ องค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ที่เกี่ยวข้อง, 19.16% สำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สำนักงานอัยการสูงสุด, 13.44% ไม่ไว้ใจใครเลย, 11.68% ทนายอาสาจากสภาทนายความ, 11.37% ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 1111,  9.01% ทนายทั่วไป, 8.17% ทนายอาสาจากเนติบัณฑิตยสภา, 6.87% ทนายที่มีชื่อเสียง, 1.60% นักการเมือง และ 4.96% ระบุอื่นๆ ได้แก่ สื่อโทรทัศน์ สื่อสังคมออนไลน์

ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงความไว้วางใจของประชาชนต่อความช่วยเหลือที่จะได้รับจากการใช้บริการหรือขอคำปรึกษาจากทนายความ พบว่า 42.06% ค่อนข้างไว้วางใจ, 36.11% ไม่ค่อยไว้วางใจ, 12.52% ไม่ไว้วางใจเลย, 8.78% ไว้วางใจมาก และ 0.53% ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ

ส่วน พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีพิเศษกรณีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด หลังรับดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อจากสำนวนคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และดีเอสไอ เตรียมแจ้งข้อหาตามพระราชบัญญัติการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 เพิ่มเติมจาก 2 ฐานความผิดเดิม ประกอบด้วยฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ว่าภายหลังการหารือพูดคุยกับผู้แทนสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อแง่ข้อกฎหมายที่จะพิจารณาในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527

เมื่อถามว่า การแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมของดีเอสไอมีกลุ่มเป้าหมายเป็น 18 บอสเดิมหรือมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า อยู่ระหว่างนำเรื่องทั้งหมดเข้าที่ประชุมพิจารณาในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน เพื่อมีมติร่วมกันว่าจะแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่กับบุคคลใดบ้าง ขอให้มั่นใจว่าการแจ้งข้อกล่าวหาจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ถามว่า ในวันจันทร์ที่ 4 พ.ย.นี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล จะนำพยาน 20 รายเข้ามาให้ข้อมูล พ.ต.ต.ยุทธนาระบุว่า พนักงานสอบสวนจะมีการหารือเพื่อเตรียมพร้อมรับเรื่องและสอบปากคำ ซึ่งต้องดูว่าพยานจะให้ข้อมูลในประเด็นอะไรบ้าง รวมทั้งพยานมีความเกี่ยวข้องอย่างไรในคดี หากคำให้การของพยานเป็นประโยชน์ต่อการพิสูจน์ความผิดหรือความบริสุทธิ์ หรือพิสูจน์ข้อกล่าวหามากน้อยแค่ไหน  ยืนยันว่าในการดำเนินการทุกอย่างของดีเอสไอ  เจ้าหน้าที่ได้ทำอย่างรวดเร็วและรอบคอบ ทั้งการรับไม้ต่อสำนวนคดีมาไม่นาน แต่ได้สืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถที่จะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 แก่ผู้ต้องหาได้แล้ว

ในขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊กดิไอคอนกรุ๊ปได้ออกมาประกาศอีกครั้ง เกี่ยวกับเหตุจำเป็นในการหยุดรับตัวแทนจำหน่าย ระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันดิไอคอนกรุ๊ปอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ทางกฎหมาย โดยที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ากำหนดระยะเวลาของกระบวนการดังกล่าวจะยุติลงเมื่อใด ดังนั้น เพื่อให้ความร่วมมือกับพนักงานสอบสวนในกระบวนยุติธรรม และเพื่อเป็นการแสดงเจตนาให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของบริษัทต่อข้อกล่าวหาต่างๆ บริษัทจึงมีเหตุจำเป็นที่อาจดำเนินกิจกรรมต่อไปได้ในระหว่างนี้เพียงบางกิจกรรมเท่านั้น ทั้งนี้ เท่าที่เหมาะสมและไม่ขัดขวางต่อกระบวนการพิสูจน์ทางกฎหมาย บริษัทจะยังคงสถานะของท่านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายอยู่แล้วไว้เช่นเดิม และปิดรับผู้ที่สนใจจะเป็นตัวแทนจำหน่ายใหม่ นับตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.2567 เป็นต้นไป ดังที่เคยประกาศมาแล้วเบื้องต้น

วันเดียวกัน นางจตุพร อุบลเลิศ หรือมาดามอ้อย ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ในคดีพิพาทเรื่องเงิน 71 ล้านบาทที่แจ้งความเอาผิดกับทนายความชื่อดังเป็นวันที่ 3 ต่อเนื่อง หลังจาก 2 วันที่ผ่านมาได้มีการสอบปากคำไปแล้วไม่ต่ำกว่า 23 ชั่วโมง

แหล่งข่าวในกองบังคับการปราบปรามแจ้งว่า คดีมาดามอ้อยกับทนายความชื่อดังนั้น ยังมีหลายประเด็นที่พนักงานสอบสวนต้องการรวบรวมเพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่แน่นหนามากเพียงพอประกอบสำนวนและเอาผิดคู่กรณีได้  ส่วนทนายความคู่กรณีนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามาขอพบพนักงานสอบสวน ซึ่งเป็นไปตามที่มีข่าวบอกว่าทนายความคนดังกล่าวรอให้ทางตำรวจติดต่อไปก่อน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง