พท.เต้น!เทวดาบอส ท้าพปชร.เปิดหลักฐาน‘รมว.ยธ.’สั่งDSIเรียกสอบ

"เพื่อไทย" ดาหน้าโต้ "พลังประชารัฐ"  พาดพิงคน พท.เอี่ยวดิไอคอนกรุ๊ป "ภูมิธรรม" ท้าเปิดหลักฐานใครเทวดา บอกอยู่กับความจริงอย่าคาดเดาทำเสียหาย "มนพร" หอบหลักฐานแจง เชื่อ "เทวดา ม." โยงตนเอง ย้ำทำหน้าที่ กมธ.ไม่มีผลประโยชน์ ไล่ "พปชร." ย้อนดูตัวเอง "ดนุพร" เหน็บ "โฆษก พปชร." น้องใหม่การเมือง โยนเรื่องหวังบังความผิดฝั่งตัวเอง "ปิยะ" ลั่นไม่ได้กล่าวหา "บอสแซม-บอสก้อง" คน พท.ชัด "ทวี" สะกิด "ดีเอสไอ" เรียกสอบ "พปชร." หาข้อมูล "พท." เอี่ยวดิไอคอน "รรท.อธิบดี DSI" เผยคดีพิเศษดิไอคอนฟันฉ้อโกง-​พ.ร.บ.คอมพ์ ผิด "แชร์ลูกโซ่" รอความเห็น สนง.เศรษฐกิจฯ ​ก่อน "วันนอร์" ซัด กมธ.เทวดา "ไอ้พวกเหลือบสังคม" ต้องจัดการ

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย  (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย  โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ออกมาระบุมีคนของพรรค พท.เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า  "ตรวจสอบอยู่ค่ะๆ"

ถามว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคจะชี้แจงอย่างไร  น.ส.แพทองธารหันมายิ้มกับสื่อมวลชนพร้อมระบุว่า "ตรวจสอบอยู่"

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค พท. กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.ระบุตัวย่อชื่อบุคคลในพรรค พท.มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทวดาคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า ทุกวันนี้เราอย่าอยู่กับการคาดเดา เพราะการคาดเดาเมื่อพลาดขึ้นมามันจะทำให้คนที่ถูกคาดเดาเกิดความเสียหายได้ ตนคิดว่าเราต้องอยู่กับความเป็นจริง ซึ่งกฎหมายเเละกระบวนการยุติธรรมพร้อมทำหน้าที่อยู่แล้วถ้าหากมีความชัดเจน

"ขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นคดีดิไอคอนหรือคดีใด เราได้ใช้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการอย่างเต็มที่ หากเกี่ยวพันไปถึงใคร เรายึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งกระบวนการก็ทำหน้าที่ของมัน ผมอยู่กับความเป็นจริงครับ แล้วเอาข้อเท็จจริงมาดู แล้วดูว่ากระบวนการยุติธรรมมีการจัดการอย่างไร" นายภูมิธรรมกล่าว

ซักถึงการมาอ้างตัวย่อคนในพรรค พท.เกี่ยวข้องกับคดี จะเป็นการหวังผลทางการเมืองหรือไม่  นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่ถ้าหากจะให้รัฐบาลทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ก็ขอให้นำส่งหลักฐานมา ไม่ใช่การคาดเดา เเละดูกระบวนการตรวจสอบของเราดีเเละสมบูรณ์เเล้วหรือยัง

ด้านนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และ สส.นครพนม พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ภายหลังมีกระแสข่าวพาดพิงเป็นเทวดาอักษรย่อ ม. ในกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร สมัยที่แล้ว และเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป ซึ่งนางมนพรได้พานายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งเป็นกรรมาธิการในขณะนั้นและปัจจุบัน ร่วมให้สัมภาษณ์เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง พร้อมนำเอกสารแจ้งผลดำเนินการไกล่เกลี่ยเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้เสียหายให้ผู้สื่อข่าวดูด้วย

นางมนพรชี้แจงถึงตัวย่อ ม.สองตัวที่มีการพาดพิงว่า ม.ตัวแรก คงหมายถึงนายมานะ โลหะวณิชย์ อดีต สส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย และ ม.ตัวที่สอง คือตนเอง ซึ่งเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวเมื่อประชาชนเดือดร้อนต้องการเงินคืน เราก็เร่งรัดเพื่อเอาเงินคืนให้กับผู้ที่ร้อง ซึ่งเราได้ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 เดือน ภายหลังรับเรื่องร้องเรียน

ถามว่า เหตุใดพรรค พปชร.ถึงพยายามโยงมาที่คนของพรรค พท. นางมนพรกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ในฐานะที่เป็น สส.ของ พท. มองว่าคนที่ให้ข่าวเขายังไม่เข้าใจระบบ เพราะอำนาจของ กมธ.ไม่ใช่การเอาถูกหรือเอาผิด ซึ่งตอนนั้นตนเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน แต่พรรค พปชร.เป็นแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลด้วยซ้ำ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องไปสืบค้นต่อว่า บริษัทนี้มีลักษณะฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ต้องไปตรวจสอบว่าสินค้ามีคุณภาพหรือไม่ อย่างไร

พท.แห่โต้ 'พปชร.' บิดเบือน

"ปกติคนที่ไม่ดีก็จะไปอ้างคนที่ดีเพื่อเป็นเกราะกำบังให้กับการกระทำความผิดให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องย้อนกลับไปดูตัวเองว่าตัวเองได้ทำอะไรไว้ให้กับพี่น้องประชาชน เราเป็นนักการเมือง เราต้องกล้ายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเอง และวันนี้นายกฯ ได้สั่งการให้ สคบ.ติดตามคนที่กระทำความผิด รวมถึงกระทรวงการคลัง ก็ได้เร่งรัดการออกพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการหลอกลวง" นางมนพรกล่าว

เมื่อถามว่า ในพรรค พท.มีเทวดาหรือไม่ นางมนพรกล่าวว่า ไม่มี มีแต่ สส.และผู้บริหาร พรรค พท.หัวใจคือประชาชน ขอให้ย้อนกลับไปดูเทวดาของท่าน ไม่ต้องมาคิดถึงเทวดาของพรรค พท. เทวดาคงอยู่บนท้องฟ้า

เช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ตอบโต้โฆษกพรรค พปชร.พาดพิงการแต่งตั้งนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมเชื่อมโยงเทวดาว่า ไม่มีหรอกเทวดาที่เกี่ยวข้องกับตน มันศูนย์เปอร์เซ็นต์เลย มีผู้คนพยายามปั้นหรือเบี่ยงเบนประเด็น ถ้าลำดับขั้นตอนดีๆ มันไม่เกี่ยวเลย เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น นับวันเวลาเรื่องเข้ากรรมาธิการเมื่อปี 65 เป็นช่วงที่เขาออกจากกระทรวงยุติธรรม แล้วลาออกจากพรรคหรือพรรคให้ออกก็ไม่ทราบ และไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน

"ความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้ไปตรงนั้นตรงนี้ ถ้ามาตรงผมมันเสียเวลาเปล่า เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรทั้งสิ้น ได้ตอบชัดเจนไปแล้ว เอาเวลาไปใส่ใจประเด็นอื่นดีกว่า ไม่ใช่ว่าใครรู้จักใครจะเสียหายไปทั้งหมด การเบี่ยงเบนประเด็นไปหาคนโน้นคนนี้เพื่อให้พ้นตัวเอง" นายสมศักดิ์กล่าว

ถามว่า รู้จักกับนายสามารถได้อย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า เขาเก่งเรื่องแชร์ลูกโซ่ ตระเวนให้ความรู้ประชาชนที่ถูกกระทำลักษณะฉ้อโกงในหลายจังหวัด เขาก็เป็นคนมีชื่อเสียงเรื่องช่วยเหลือประชาชน การหลอกลวงต้มตุ๋น เล่นแชร์ เรารณรงค์เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ปราบอย่างไรก็ไม่หมด คนทำงานในส่วนราชการเรื่องแชร์ลูกโซ่ก็เติบโตเป็นระดับรองอธิบดี อธิบดีกันเยอะแยะ คนที่ตั้งใจทำงานก็ได้ดีกันมากมาย แต่กรณีนี้ไม่รู้ว่าเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในเรื่องคลิปที่ออกมา พฤติกรรมช่วงหลังๆ ตนก็ไม่เคยทราบมาก่อน

ขณะที่ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค พท. กล่าวว่า เรื่องที่พรรค พปชร.พาดพิงนักการเมืองและคนพรรค พท.เกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ปว่า พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการไปหาข้อมูล รวมถึงทำการบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งทั้งพรรค พท. น.ส.แพทองธาร นายภูมิธรรม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในฐานะที่เราเป็นรัฐบาลเราไม่ได้นิ่งนอนใจ และนายกฯ ก็ได้สั่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ลงไปดูแลประชาชนที่เสียหาย

"พรรค พท.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และโฆษกพรรค พปชร.ก็ทราบว่าท่านคงเป็นน้องใหม่ทางการเมืองที่เกษียณราชการมา จึงไม่ทราบถึงกระบวนการทำงานของสภา โดยเฉพาะคณะกรรมาธิการ ซึ่งผมเข้าใจท่านว่าการที่ท่านออกมาพูดแบบนี้ แน่นอนว่าต้องการปัดความรับผิดชอบให้พ้นพรรคท่าน และท่านก็คงจะต้องทราบว่าที่ประชุมของรัฐสภาและ สส.มีมติส่งเรื่องคดีดิไอคอนกรุ๊ปให้กับกรรมาธิการสามัญป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ไปพิจารณา 90 วัน โดยในวันนี้ก็มีการเริ่มพิจารณาในการประชุมครั้งแรกแล้ว" นายดนุพรกล่าว

โฆษกพรรค พท.กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นรองประธานกรรมาธิการคณะนี้ ยืนยัน กมธ.ปปง.ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะนำคนผิดทุกคนในกรณีนี้มาลงโทษ แม้ว่าจะออกจากสมาชิกไปแล้ว แต่เมื่อความผิดสำเร็จแล้ว และขณะที่ทำความผิดเป็นสมาชิกพรรคท่านอยู่จะมาปัดความรับผิดชอบไม่ได้

ถามว่า มีการพาดพิงเทวดาตัวจริงอาจอยู่ในพรรค พท. นายดนุพรกล่าวว่า โฆษกพรรค พปชร.ควรไปดูพรรคท่านเองหรือไม่ เพราะที่ออกมาจากคลิปเสียง ก็ความใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรคท่าน ตนไม่ทราบจริงๆ ว่าเทวดาจะอยู่พรรค พท.หรือพรรค พปชร. แต่หากฟังจากคลิปเสียงแล้วเชื่อว่าไม่น่าจะมาอยู่พรรคตน

ปิยะย้ำหลักฐานเอี่ยวชัด

ที่รัฐสภา ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระเรื่องการพิจารณากรณีดิไอคอนกรุ๊ป โดยเชิญ ปปง., ตำรวจ บช.ก. และผู้เสียหายมาให้ข้อมูลนั้น

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรค พท. ในฐานะประธาน กมธ.การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.แถลงเทวดาจริงอยู่ในพรรค พท.และเปิดอักษรย่อที่เกี่ยวข้องกับดิไอคอนว่า กมธ.คณะนี้ไม่มีส่วนใดๆ เกี่ยวกับคดีดิไอคอน ไม่มีแม้กระทั่งของสภาชุดที่แล้ว สบายใจได้ว่าเรามีความบริสุทธิ์ใจในการดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่แน่นอน ตัวอักษรย่อนั้นก็คงต้องตรวจสอบ และหาให้ได้ว่าชื่อจริงคือใคร หากมีความเชื่อมโยงอาจจะมีการเชิญมาชี้แจงด้วยถ้ามีจริง

"คนอักษรย่อดังกล่าวคิดว่าไม่ใช่ของคณะ กมธ.ปปง. แต่อาจจะเป็นคณะอื่นหรือไม่ ซึ่งมองว่าไม่มีสาระ เพราะ กมธ.ที่เกี่ยวข้องในอดีตเรื่องนี้ที่ผ่านมา ก็มีแค่ กมธ.การคุ้มครองผู้บริโภคและ กมธ.ป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด แต่ กมธ.ก็ไม่ได้มีเหตุให้ตรวจสอบทุกๆ เรื่อง รวมทั้งการมาพาดพิงพรรค พท.นั้น พรรคก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ควรจะแก้ปัญหาของตนเองให้เรียบร้อย ไม่ใช่มาโยน พาดพิงถึงพรรคอื่น ผมคิดว่าไม่ค่อยเหมาะสม ต้องใช้วิจารณญาณในการพิจารณาดีๆ เรื่องนี้โดยตรงไปเกี่ยวข้องกับบุคคลในพรรคการเมืองที่อาจจะพูดถึง" นายเลิศศักดิ์กล่าว

ถามว่า การตรวจสอบนักการเมือง ส.ที่มีการชิงลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. จะมีการตรวจสอบเรื่องคลิปเสียงเพื่อโยงไปถึงเส้นเงินด้วยหรือไม่  นายเลิศศักดิ์กล่าวว่า หากมีความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยวพันกับเส้นเงินของดิไอคอน ทาง กมธ.ก็จะเชิญนักการเมือง ส.มาสอบเช่นเดียวกัน เราจะทำเรื่องของการฉ้อโกงในส่วนของดิไอคอนเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร. ยืนยันว่า ไม่ได้กล่าวหาพรรค พท. แต่อยากให้ไปดูเรื่องความเชื่อมโยง เช่น บอสแซมก็เป็นผู้สมัครของพรรค พท. อันนี้ชัดเจน และบอสก้อง (นายอรรฆรัตน์ นิติพน อดีตผู้สมัครพรรค พท.) ก็เคยเป็นผู้สมัครของพรรค พท.เช่นกัน ดังนั้นพรรค พท.จะหลีกหนีเรื่องนี้ไม่ได้ แล้วจะมาบอกว่านายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช จะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตรหรือพรรค พท.ไม่ได้ เพราะเคยถูกตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร อันนี้ก็มีหลักฐานชัดเจน

ถามว่า การเอ่ยชื่อของกลุ่มสามมิตรจะกระทบถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายอนุชา นาคาศัย หรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ไม่ทราบ แต่คำสั่งแต่งตั้งนายสามารถเป็นอย่างนั้น ใช้ชื่อตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร

ถามว่า ในทางกฎหมายจะดำเนินการอย่างไรหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า ในส่วนที่ทนายเดชาบอกว่าทนายโจรต้องให้ฝ่ายกฎหมายดูว่ามีความผิดมากน้อยแค่ไหน เพราะทนายคนดังกล่าวเคยออกมากล่าวหาหัวหน้าพรรคของเรา โดยการโยงกับเงิน 31 ล้านบาท และก็มีความพยายามโยงว่า การถือหุ้น 21% เป็นทุนจีนสีเทา แต่ก็ปรากฏชัดออกมาแล้ว และอีกไม่กี่วันตำรวจก็คงจะเปิดเผย และที่เรารู้กันดีคือ 21% ที่ถือหุ้นบอสพอลคือนางจินดา แซ่ก๊อก ซึ่งเป็นแม่ของบอสพอล ไม่ใช่นอมินี ไม่ใช่ทุนจีน แต่มีความพยายามโยงเพื่อให้ประชาชนไขว้เขว ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องมีการดำเนินการทางกฎหมายอีกครั้ง

เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยควรแถลงข่าวชี้แจงเรื่องนี้ให้ชัดเจนหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า คงไม่ต้องชี้แจงอะไร เพราะสื่อมวลชนและประชาชนทราบดีอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องพยายามทำคือปัดกวาดบ้านตัวเองจะดีกว่า ปัดกวาดคนที่ไม่ดี คนที่มีพฤติกรรมที่ไม่ดีออกไป การเมืองจะได้ใสสะอาดขึ้น ปีนี้ 2567 แล้ว อย่าเล่นการเมืองแบบเก่าๆ หรือการเมืองแบบใส่ร้ายป้ายสีกันเลย เรามาช่วยกันพัฒนาประเทศดีกว่า

DSI ยังไม่ฟันผิดแชร์ลูกโซ่

ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการรับคดีดิไอคอนเป็นคดีพิเศษว่า ส่วนตัวมองว่าคดีฉ้อโกงประชาชนอยากให้ตำรวจทำ และดีเอสไอทำคดีฟอกเงินควบคู่ไป แต่ก็ขึ้นกับกฎหมาย ถ้าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษก็ต้องรับเข้าเป็นคดีพิเศษ

ถามว่า พรรค พปชร.ระบุดิไอคอนเกี่ยวกับพรรค พท. รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า หากเป็นคดีพิเศษแล้วอธิบดีดีเอสไอก็ต้องเรียกผู้แถลงข่าวเรื่องนี้ของพรรค พปชร.มาสอบว่าจริงหรือไม่จริง ซึ่งท่านสามารถให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลก็เข้าคุ้มครองพยานได้ เพื่อให้มั่นใจ ไม่งั้นอาจเป็นการพูดให้ผู้อื่นเสียหายได้

"เรื่องนี้ต้องให้พยานหลักฐานพูด รัฐธรรมนูญบอกเราต้องส่งเสริมประชาชนแจ้งข้อมูลข่าวสารและต้องเก็บเป็นข้อมูล แต่สิ่งที่พูดต้องเป็นเรื่องจริง" รมว.ยุติธรรมกล่าว

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้รับมอบสำนวนคดีดิไอคอนจากตำรวจสอบสวนกลางแล้ว ขณะนี้ตนได้มีคำสั่งอนุมัติให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ ที่จะต้องทำการสืบสวนสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และจะต้องมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐอื่นมาร่วมสอบสวนในกรณีนี้ด้วย เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้นครบมิติ และประชาชนผู้เสียหายได้รับประโยชน์สูงสุด

พ.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า การรับเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอในครั้งนี้ ได้รับไว้ดำเนินการต่อด้วยความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพ์ เนื่องจากเป็นความผิดเกี่ยวเนื่องเกี่ยวพันกับที่ทางตำรวจได้ดำเนินการไว้ และยังไม่พบความผิดเรื่อง พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ ดังนั้น หากจะเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ ต้องรอความเห็นจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังพิจารณาก่อน ระหว่างนี้หากมีการสอบสวนได้ครบถ้วนสมบูรณ์ที่จะสามารถแจ้งความผิดแชร์ลูกโซ่ได้ เราก็จะไปทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ถามว่า รมว.ยุติธรรมขอให้ดีเอสไอออกหนังสือเชิญโฆษกพรรค พปชร.มาให้ข้อมูลอักษรย่อบุคคลในพรรค พท.ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิไอคอน รรท.อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อคดี พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อพิสูจน์ความผิด เราต้องไปสอบและรวบรวมทั้งหมด

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.เรียกร้องให้ตรวจสอบนักการเมืองพรรคเพื่อไทยซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ปว่า ถ้ามีหนังสือมาให้ตนรับทราบ ตนก็จะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับ

ถามว่า มีคำถามประธานจะกล้าตรวจสอบหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เรื่องกล้าหรือไม่กล้าไม่เกี่ยวกัน แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ซักถึงนักการเมือง ส. ที่ปรากฏในคลิปเสียงก่อนหน้านี้ ประธานสภาฯ กล่าวว่า อยากใช้คำที่ประชาชนเข้าใจง่ายๆ ว่า ไอ้พวกเหลือบสังคมทั้งหลาย ที่มาอาศัยหากินในนี้ ต่อไปเราต้องขจัดให้หมด เพราะเป็นที่เอือมระอาของพี่น้องประชาชน

"ประธานกรรมาธิการทั้งหลายก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะหากประธานกรรมาธิการ รองประธานสภาฯ หรือเลขาธิการ ไปแต่งตั้งบุคคลใด แล้วบุคคลนั้นทำความเสียหายต่อ ผู้ที่แต่งตั้งต้องรับผิดชอบ กฎหมายอย่างเดียวอาจจะก้าวไปไม่ถึง แต่ประมวลจริยธรรม ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดมาให้สภาต้องปฏิบัติ อันนั้นถึงแน่นอน ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ถ้าผิดร้ายแรงตัวคนตั้งก็ผิดร้ายแรงด้วย" นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว

ถามย้ำว่า กรณีนักการเมือง ส. เรื่องมาถึงแล้วหรือยัง ประธานสภาฯ กล่าวว่า ยังไม่มี เรื่องที่ร้องมาโดยตรงยังมาไม่ถึงตน แต่ผู้เสียหายน่าจะไปหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง แต่เรื่องที่มาถึงประธานสภาฯ ยังไม่มี.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง