2เขื่อนใหญ่พร่องน้ำเพิ่ม กรมอุตุฯชี้ปีนี้หนาวหนัก!

“เขื่อนเจ้าพระยา-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์”  เพิ่มการระบายน้ำ คาดจะส่งผลน้ำเพิ่มสูงขึ้น  30-50 ซม. เชียงใหม่เร่งบิ๊กคลีนนิงถนนเศรษฐกิจ  “กรมอุตุฯ” บอกปลายเดือนนี้เข้าฤดูหนาวแล้ว ปัดฝุ่นเสื้อกันหนาวได้ เพราะปีนี้อากาศเย็นและยาวนานกว่าปีที่แล้ว กทม.สะท้านอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ต.ค.  กรมชลประทานได้เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา สถานีจังหวัดชัยนาท อยู่ที่อัตรา 1,700  ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น โดยพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง, คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อย ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30-50 เซนติเมตร

 “ผลมาจากฝนตกหนักในพื้นที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา โดยคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านสถานี C.2 จ.นครสวรรค์ ช่วง 1-7 วันข้างหน้า จะอยู่ที่ 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และจะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนเพิ่มขึ้น และหากจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ศปช.จะแจ้งให้ทราบทันที”

นายจิรายุกล่าวว่า ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยใน จ.เชียงใหม่นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้จัดกำลังพลและเครื่องจักรออกปฏิบัติงานทำความสะอาด พร้อมจัดเก็บกระสอบทรายบนถนนสายเศรษฐกิจหลักทั่วเมืองเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว โดยมีเจ้าหน้าที่และประชาชนจิตอาสา จำนวน 400 คน พร้อมเครื่องมือและเครื่องจักรร่วมปฏิบัติการฟื้นฟู

  นายจิรายุยังกล่าวถึงกรณีข่าวการเรียกเก็บค่าไฟในพื้นที่ประสบอุทกภัยว่า น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า ยืนยันว่าไม่มีการเรียกเก็บค่าไฟในรอบบิลเดือน ก.ย.2567 จากประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ส่วนบิลเดือน ต.ค.2567 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะลดค่าไฟ 30% ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ซึ่งสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1129 สำหรับผู้ที่ใช้แอปพลิเคชัน PEA Smart Plus สามารถตรวจสอบค่าไฟของแต่ละเดือนได้ ซึ่งสามารถตรวจสอบค่าไฟย้อนหลังได้ 1 ปี

ขณะที่กรมชลประทานแจ้งว่า เตรียมทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี หลังจากที่มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนมากขึ้น และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำในเขื่อน 907 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 94% ของความจุอ่าง ซึ่งการระบายน้ำดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 30-40 ซม. โดยระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจะยังอยู่ในลำน้ำและไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน

ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ยังระดมกำลังจากอำเภอรอบนอกมาร่วมทำความสะอาด big cleaning ในพื้นที่เขตเมืองที่ประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ภายใต้กิจกรรมเพื่อเชียงใหม่ที่เรารัก โดยร่วมกับเทศบาลนครเชียงใหม่และภาคีเครือข่ายเร่งฟื้นฟูเมืองเชียงใหม่ ระดมกำลังทำความสะอาดพร้อมจัดเก็บกระสอบทรายบนถนนสายเศรษฐกิจหลักทั่วเมืองเชียงใหม่ โดยมีนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธี พร้อมนำกำลังพลจากอำเภอต่างๆ จำนวนกว่า 600 คน และเครื่องจักร 14 เครื่อง ลงพื้นที่ออกปฏิบัติงานฟื้นฟูปรับภูมิทัศน์ทำความสะอาด พร้อมจัดเก็บกระสอบทรายบนสถานที่ที่เกิดเหตุอุทกภัยในเขตอำเภอเมืองเชียงใหม่ บริเวณถนนสายเศรษฐกิจหลัก บริเวณเขตชุมชนและพื้นที่สาธารณะ ให้มีความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เตรียมความพร้อมต้อนรับเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ขณะที่เทศบาลนครเชียงใหม่ก็เริ่มปรับแต่งสถานที่ต่างๆ  เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศประเพณีลอยกระทงในอีก 2-3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ด้วย

วันเดียวกัน น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่า  กรมอุตุฯ ได้ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทยปี 2567 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มต้นในวันที่ 29 ต.ค.นี้ และจะสิ้นสุดฤดูหนาวในช่วงปลายเดือน ก.พ.2568 โดยเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย ประกอบด้วย 1.อุณหภูมิต่ำสุดบริเวณประเทศไทยตอนบน อยู่ในเกณฑ์อากาศหนาวเย็นเกือบทั่วไป คือมีอุณหภูมิต่ำสุดน้อยกว่า 23 องศาเซลเซียสอย่างต่อเนื่อง 2.ลมระดับล่างที่ความสูงประมาณ 100-3,500 เมตร เป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือหรือลมตะวันออก ส่วนลมระดับบนที่ความสูงประมาณ 5,000 เมตรขึ้นไป เป็นลมฝ่ายตะวันตก และ 3.ปริมาณและการกระจายของฝนบริเวณประเทศไทยตอนบนเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง  ซึ่งจากสถิติถือว่าเริ่มต้นช้ากว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์

 “ปีนี้โดยรวมแล้วอากาศจะหนาวเย็นกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยบริเวณประเทศไทยตอนบนประมาณ 20-21 องศา จากปีที่ผ่านมา 21.6 องศา โดย กทม. อุณหภูมิต่ำที่สุดจะอยู่ในช่วง 16-18 องศา และปริมณฑลประมาณ 14-16 องศา สำหรับช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดจะอยู่ในช่วงประมาณเดือน ธ.ค.2567 ถึงปลายเดือน ม.ค.2568 อุณหภูมิต่ำที่สุดประมาณ 6-8 องศา ส่วนมากบริเวณตอนบนของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะยอดดอยและยอดภู รวมทั้งเทือกเขาจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง”

น.ส.สุกันยาณีกล่าวต่อว่า ส่วนภาคใต้จะมีอากาศเย็นบางแห่งในบางช่วง ส่วนมากตอนบนของภาค แต่ยังคงมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไป คลื่นลมในทะเลอ่าวไทยมีกำลังแรงเป็นระยะๆ และในบางช่วงมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร โดยในช่วงเดือน พ.ย.และ ธ.ค. อาจจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง หรือพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้หรือเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ซึ่งจะทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น กับมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และหนักมากในบางแห่ง รวมทั้งคลื่นลมจะมีกำลังแรง และอาจมีคลื่นพายุซัดฝั่ง ความสูงของคลื่นประมาณ 3-5 เมตร จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุฯ อย่างใกล้ชิดไว้ด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง