นายกฯขอโทษตากใบ ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ/คาร์บอมบ์ปัตตานีจุดไฟใต้

"นายกฯ อิ๊งค์" แถลงเสียใจเหตุการณ์คดีตากใบ ขอโทษในนามรัฐบาล ย้ำจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำอีก แจงถามกฤษฎีกาตากใบไม่เข้าเกณฑ์ออก พ.ร.ก.ขยายอายุความ รับพร้อมคุยเยียวยาเพิ่มเติม "ตำรวจ" ขึงขังก่อนคดีหมดอายุ 1  วัน ลุยค้น 5 จุดบ้านผู้ต้องหา ไร้เงาตามคาด  "ปชน." จ่อเสนอญัตติด่วน 25 ต.ค.หาทางออกคดีตากใบ "กมธ.-ครป." ห่วงผลกระทบชง 4 ข้อเสนอรัฐป้องกันรุนแรง "ปัตตานี" ระอุ คนร้ายซุกคาร์บอมบ์ 25 กก. บึ้มซอยระหว่างโรงพักปะนาเระ-ที่่ว่าการอำเภอ โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต "แม่ทัพภาค 4" สั่งคุมเข้มทุกพื้นที่

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 15.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงถึงคดีตากใบที่จะหมดอายุความในวันที่ 25  ตุลาคมนี้ว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการกลับไปดูข้อมูลตัวเลขหลายๆ อย่าง ตนเห็นเหตุการณ์นี้ก็รู้สึกเสียใจกับผู้ที่มีผลกระทบทั้งหลาย และรัฐบาลตั้งแต่สมัย 20 ปีที่แล้วก็มีการออกมาแสดงความเสียใจและออกมาขอโทษ ตั้งแต่รัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาถึงรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาแสดงความเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์นี้ด้วย รวมถึงได้มีการชดเชยจ่ายค่าเยียวยาไปแล้ว

"ในฐานะนายกรัฐมนตรี ในวันนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และต้องขอโทษในนามรัฐบาลด้วย ก็จะทำให้ดีที่สุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก" น.ส.แพทองธารกล่าว

นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนประเด็นเรื่องกฎหมายเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการส่งคำถามไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งตอนแรกที่มีเรื่องคดีนี้ขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลเองไม่ได้นิ่งนอนใจ  ได้ทำงานเร่งรัดเรื่องนี้ตามกระบวนการต่างๆ ที่จำเป็นทุกอย่าง ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ได้พูดคุยกันเรื่องผลสรุปต่างๆ และได้สอบถามว่ากฎหมายจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง สิ่งที่มีการคอมเมนต์มาเราจะทำอย่างไรต่อ และทำได้หรือไม่ อะไรบ้าง ในเรื่องของการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)

 “เราจึงได้สอบถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าทำอะไรได้บ้าง เมื่อพิจารณาเข้าหลักการของกฎหมายแล้วตามรัฐธรรมนูญ โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นว่ากรณีนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการตรา พ.ร.ก.มาตรา 172 และมาตรา 174 ส่วนเนื้อหาที่เป็นการต่ออายุความเฉพาะคดี อันเป็นมาตรากฎหมายขึ้น เพื่อเป็นการบังคับใช้แก่คดีดังกล่าวเป็นการเฉพาะ ไม่ได้มุ่งขยายอายุความในคดีลักษณะเดียวกันเป็นการทั่วไป จึงไม่สอดคล้องกับมาตรา 26 วรรคสอง  ทั้งยังอาจเป็นการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลตามมาตรา 27 วรรคสาม ของรัฐธรรมนูญ และหลักกฎหมายอาญาสากล สรุปคือไม่เข้าเกณฑ์ในการออก พ.ร.ก.ตามรัฐธรรมนูญ นี่คือสิ่งที่ทางรัฐบาลส่งไปถามสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าทำอะไรได้บ้างในเรื่องของกฎหมาย”  นายกฯ กล่าว

น.ส.แพทองธารกล่าวว่า สุดท้ายนี้แล้วขอให้ทุกคนรวมถึงรัฐเองตระหนักถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้ ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก และอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่สงบสุข ไม่อยากให้ทุกฝ่ายต้องเกิดความขัดแย้งซึ่งกันและกัน ก็ขอให้ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ในเรื่องนี้ ซึ่งรัฐก็พยายามอย่างเต็มที่เช่นกัน

ถามว่า เมื่อคดีจะหมดอายุความมีคำถามมายังรัฐบาลว่าจะเตรียมรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดหลังจากนั้นอย่างไร เพราะช่วงนี้มีเหตุการณ์ความรุนแรงทางภาคใต้เกิดขึ้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า  ความรุนแรงที่เกิดขึ้นล่าสุดที่จังหวัดปัตตานี ได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าไม่ได้มีผู้เสียชีวิตหรือผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อยากให้เชื่อมโยงเรื่องความรุนแรงนี้กับการเมือง ไม่อยากให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก จึงไม่อยากให้โยงเรื่องนี้

อิ๊งค์พร้อมคุยเยียวยาเพิ่ม

ซักว่า สถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้จำเป็นต้องเพิ่มความเข้มมากขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยของทุกคนในประเทศมีความสำคัญ เพราะฉะนั้นเองตอนนี้ทั้งหน่วยงานความมั่นคงอย่างกระทรวงกลาโหมที่ได้พูดคุยกันก็ดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ย้ำว่าในเรื่องนี้ก็พยายามตรึงกำลังอยู่แล้ว

นายกฯ กล่าวว่า ไม่อยากให้ความรุนแรงแบบนี้เกิดขึ้นอีก อยากให้ทุกคนช่วยกันด้วย เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าจะเกิดความสามัคคีได้ก็ต้องอาศัยทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความสงบสุข เพราะฉะนั้นในส่วนของตนและในส่วนของรัฐบาลอะไรที่ทำได้ก็ทำเต็มที่แน่นอน และก็อยากให้ประชาชนทุกๆ คนไว้ใจว่ามาอยู่ตรงนี้ก็อยากทำให้ประชาชนได้สบายใจและให้บ้านเมืองได้สงบสุข นั่นคือเป้าหมายสำคัญ

"ไม่อยากให้มีความรุนแรงเกิดขึ้น ไม่อยากให้โยงกับประเด็นการเมืองในทุกๆ เรื่อง อย่างเรื่องตากใบ มีการเยียวยาทุกคน พยายามทำสุดความสามารถเพื่อดูแลปัญหา ดูแลจิตใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ และไม่อยากให้ประเด็นอื่นๆ นอกจากคดีนี้ เป็นตัวเสริมทำให้เกิดความรุนแรง ขอให้ไม่เป็นเช่นนั้น" นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า กมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาฯ เสนอเมื่อคดีหมดอายุความไป รัฐบาลอาจจะต้องมีการเยียวยาเพิ่มเติม นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องพิจารณา โดยไปดูว่าการเยียวยาก่อนหน้านี้จบตรงไหน และต้องดูว่ามีอะไรเพิ่มเติมที่เราสามารถจะทำอะไรได้

ถามต่อว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุคงต้องหวังพึ่งปาฏิหาริย์เพื่อให้ได้ตัวผู้ต้องหาคดีตากใบมาดำเนินคดี วันนี้รัฐบาลคิดว่าจะมีปาฏิหาริย์นั้นหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราทำทุกอย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ ปาฏิหาริย์เหรอ มันต้องใช้เรื่องจริง เมื่อถามว่าหากมีโอกาสจะลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่  นายกฯ กล่าวว่า แน่นอน ทุกพื้นที่ของประเทศไทย ต้องหาเวลาที่เหมาะสมและสถานที่ว่าจะไปที่ไหนก่อนหลัง

ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวเรื่องคดีตากใบที่จะหมดอายุความว่า ได้พูดคุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ถึงเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก ส่วนเรื่องสถานการณ์ภาคใต้ก็มีมาโดยตลอด หลังวันที่ 25 ตุลาคม กองทัพและหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้เฝ้าดู เฝ้าระวัง โดยมองว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ใช่เพิ่งเกิดในช่วงคดีตากใบใกล้หมดอายุความเท่านั้น แต่มีการก่อเหตุมาโดยตลอดอยู่แล้ว

นายภูมิธรรมกล่าวว่า เหตุการณ์ตากใบเกิดขึ้นในปี 2547 ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว และโซเชียลมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง ตัดบางส่วนออกและเพิ่มบางส่วนเข้ามา จึงมองว่าต้องเอาเรื่องนี้มาดูข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งศาลตัดสินมาแล้ว 4 คดี เพราะฉะนั้นการมาพูดว่ารัฐบาลไม่เคยสนใจไยดีจึงไม่ใช่ และต้องไปดูเหตุการณ์ทั้งหมดของคดีตากใบว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร อยากให้ไปดูผลการรายงานสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น

"ยังมีคดีของผู้ก่อเหตุซึ่งถูกจับเป็นจำนวนมาก  โดย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้ยกเลิกคดีให้ทั้งหมด เพื่อหวังให้เหตุการณ์สงบและลดลง แต่การแก้ไขปัญหาในขณะนั้นก็ทำให้เหตุการณ์ในภาพรวมลดลงไม่ได้ เพราะเป็นคนละเงื่อนไขกัน จึงต้องตัดประเด็นตากใบออกจากประเด็นที่มีการเคลื่อนไหว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องของประชาชนที่มาชุมนุมกัน แต่เป็นเรื่องของหน่วยที่กำลังสร้างปัญหา" นายภูมิธรรมกล่าว

ชี้ขยายอายุคดีตากใบไม่ได้

ถามถึงข้อเสนอให้ออก พ.ร.ก.ต่ออายุความคดีตากใบ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นการพูดที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง และไม่เข้าใจกฎหมาย เพราะหลักของกฎหมายนั้นที่จะให้ออกกฤษฎีกามีเรื่องภัยฉุกเฉิน  ภัยฉุกเฉินทันที ซึ่งปัญหาเร่งด่วนที่ต้องทำยังมีเงื่อนไขอยู่ คดีตากใบถือว่าไม่เข้าเงื่อนไข แล้วจะทำได้อย่างไร

"ฝ่ายกฎหมายแจ้งว่าทำไม่ได้ อีกทั้งกฎหมายออกเพื่อเป็นคุณ ไม่ได้ออกเพื่อเป็นโทษ หากฝืนทำไปจะเสียหลักความเป็นนิติธรรม และจะมีปัญหาตามมา จึงต้องไปดูว่าจะหาทางออกอื่นได้หรือไม่  แต่ในเรื่องของกฤษฎีกา ทำไม่ได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เราเป็นนิติรัฐ นิติธรรม กฎหมายว่าอย่างไรก็ตามนั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราดีใจติดปีก เพราะเราก็พยายามทำตามหน้าที่อยู่แล้ว เหมือนกับคดีอื่นๆ ก็เช่นเดียวกัน หากจบแบบไหนก็จบแบบนั้น" นายภูมิธรรมกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่คดีตากใบจะหมดอายุความ 1 วัน คือในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ตลอดวันที่ 24 ตุลาคม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการตำรวจทั่วประเทศ ระดมกำลังติดตามผู้ต้องหาในคดีตากใบทั่วประเทศ โดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มอบหมายให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังตรวจค้นในพื้นที่ กทม. และประสานฝ่ายสืบสวน บช.ภ.4, 5, 7 ร่วมเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งหมด 5 จุดทั่ว

จุดแรก บ้านพักของ ร.ท.วิสณุกรณ์ ชัยสาร ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดปัตตานี เลขที่ 74 ม.7 ต.หนองบัว อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ พบเพียงบิดา ร.ท.วิสณุกรณ์ ที่บอกลูกออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 1 เดือน ไม่รู้แหล่งที่ไป, จุดสอง บ้านพัก พล.อ.เฉลิมชัย วิรุฬห์เพ็ชร ผู้ต้องหาตามหมายจับเลขที่ 195 ม.10 ต.แม่พริก อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ไม่พบใครพักบ้านหลังนี้มา 1 ปีแล้ว, จุดสาม บ้านพักนายศิวะ แสงมณี เลขที่ 225/26 ม.13 ต.บ้านแหวน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ก็ไม่พบใคร, จุดสี่ ไปบ้านเลขที่ 54/12 ม.5 ต.หอมเกร็ด อ.สามพราน จ.นครปฐม ก็ไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับรายใด และจุดสุดท้าย บ้านพัก ร.ท.วิสณุกรณ์ ชัยสาร เลขที่ 240 ม.7 ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็ไม่พบตัวเช่นกัน

ที่รัฐสภา นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันที่ 25 ตุลาคมนี้ พรรค ปชน.จะเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เพื่อขอให้สภาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกมีการอภิปรายหารือเกี่ยวกับทางออกทางการเมืองในโศกนาฏกรรมตากใบ ซึ่งวันที่ 25 ตุลาคม จะเป็นวันสุดท้ายของอายุความที่กำลังจะขาดลงของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง

"เรื่องนี้เราไม่อาจรอได้ เราจึงจะถือโอกาสเปิดญัตติด่วนเพื่อหารืออย่างเร่งด่วนว่าหลังจากนี้จะเอาอย่างไร ซึ่งหากผ่านความเห็นชอบ ก็คงเป็นประโยชน์ต่อรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เนื่องจากเป็นปัญหาหากคดีความนี้ขาดอายุความไป ความชอบธรรมของอำนาจรัฐไทยในความหมายภาพใหญ่ ที่เรากำลังเผชิญหน้าปัญหาความชอบธรรม ความไว้วางใจของประชาชนที่พร่องไป เราจึงต้องหาวิถีทางทางการเมืองต่างๆ ในการโอบรับ โอบอุ้มความรู้สึก ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมของประชาชนเหล่านั้นไว้" นายรอมฎอนกล่าว

ห่วงสถานการณ์ใต้หลัง 25 ต.ค.

ขณะที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาและเสนอแนวทางการส่งเสริมกระบวนการสร้างสันติภาพเพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาฯ แถลงถึงกรณีตากใบว่า หลังคดีหมดอายุความ รัฐบาลต้องเตรียมการในประเด็นสำคัญที่จะรับมือผลกระทบที่จะตาม 4 เรื่องคือ 1.มีการคาดการณ์ว่าจะก่อเหตุความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งภาครัฐเฝ้าระวังพื้นที่อย่างเข้มข้นมากขึ้น 2.มีการกำชับระดับหน่วยปฏิบัติให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำบุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามซ้อมทรมานผู้ต้องสงสัย 3.ดำเนินกระบวนการเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากกรณีตากใบ ซึ่งจะรู้ว่ายังจะมีอะไรที่เพิ่มเติมได้อีกบ้างนอกเหนือจากการเยียวยาที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ และดำเนินการเมื่อนานมาแล้ว และ 4.กระบวนการพูดคุย รัฐจะเดินหน้าเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยและการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ด้านคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาลกระตือรือร้นในการนำตัวผู้ต้องหากรณีตากใบมาดำเนินคดี และหยุดใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาชายแดนใต้

วันเดียวกัน เวลา 00.30 น. วันที่ 24 ตุลาคม  ขณะที่ ร.ต.ท.วีรพงศ์ ทองงาม รอง สว. (สอบสวน) สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงพัก  ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดทำให้ตัวอาคารของโรงพักสั่นสะเทือน และมีเศษกระจกแตกกระจาย ต่อมาทราบเป็นแรงระเบิดคาร์บอมบ์บนถนนข้างโรงพักติดกับที่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ 1 ตำบลปะนาเระ

เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบจุดเกิดเหตุมีเพลิงกำลังลุกไหม้ซากรถกระบะ 4 ประตู ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน กค 4052 ปัตตานี ซึ่งเป็นรถของ อบต.บ้านน้ำบ่อ ที่ถูกขโมยมาทำเป็นรถคาร์บอมบ์น้ำหนัก 20 กก. จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบ เพราะหวั่นจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อส.ซึ่งกำลังเฝ้าเวรที่ป้อมมีอาการหูอื้อเท่านั้น

พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า เหตุระเบิดซอยระหว่างสถานีตำรวจภูธรปะนาเระกับที่่ว่าการอำเภอปะนาเระ หมู่ที่ 2 บ้านนาพร้าว ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี สืบเนื่องจากเวลา 23.30 น. คนร้าย 10 คน แต่งกายชุดดำปิดบังใบหน้า ปล้นรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กค 4052 ปัตตานี ขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อ จับลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลน้ำบ่อมัดมือมัดขาไว้ก่อนทำการปล้นรถยนต์คันดังกล่าวไป จากนั้นเวลา 00.15 น. คนร้าย 1 คนนำรถประกอบระเบิดมาจอดไว้จุดดังกล่าว ก่อนจะเกิดระเบิดขึ้น

"กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะเร่งติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลพื้นที่" โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าระบุ

พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ว่า รมว.กลาโหมได้เน้นย้ำให้ดูแลในพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุ และการกระทำต่างๆ ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมายที่สามารถจะทำได้ ซึ่งการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ทั่วไปทำอยู่แล้ว แต่อาจจะยกระดับความปลอดภัยให้สูงขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุคาร์บอมบ์ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เพิ่มความเข้มงวด โดย พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง สั่งตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมทั้งตรวจสอบตรวจค้นบุคคลต้องสงสัยที่เดินทางเข้า-ออกพื้นที่ อ.เบตง และด่านพรมแดนไทย-มาเลเซีย รวมทั้งดูแลความเรียบร้อยช่วงก่อนคดีสลายการชุมนุมตากใบหมดอายุความในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์นี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กำชับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมเตรียมความพร้อมและแผนเผชิญเหตุ ร่วมกันจัดการสถานการณ์กับฝ่ายความมั่นคง ตำรวจ ทหาร อย่างเต็มที่.