เมียโจ๊กเข้ามอบตัว คดีลักทรัพย์6ล้าน อาจารย์‘รร.นรต.’

"ภรรยาบิ๊กโจ๊ก" เข้ามอบตัวคดีลักทรัพย์ หลังอาจารย์ รร.นายร้อยฯ แจ้งจับฉกทองคำและเงินสดมูลค่า 5.7 ล้านในคอนโดฯ ย่านสุขุมวิท    เผยพยายามทวงคืนแล้วยังบ่ายเบี่ยง จึงต้องให้  ตร.ดำเนินคดีและติดตามทรัพย์สินคืนมา "ศิรินัดดา" โบ้ยให้ทนายจัดการ ปัดมีความสัมพันธ์กับสามีคู่กรณี

ที่ สน.พระโขนง วันที่ 24 ตุลาคม จากกรณี น.ส.ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม อายุ 50 ปี อาจารย์พิเศษโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน เข้าแจ้งความกับ สน.พระโขนง เอาผิดนางศิรินัดดา หักพาล  ภรรยา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก”   อดีตรอง ผบ.ตร. ที่เข้าไปในคอนโดฯ ลักทรัพย์ในห้องพักของเธอสูญหายไปรวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท และยังได้มีการนำของกลางที่ผู้ถูกกล่าวหาทิ้งไว้ในห้องที่เกิดเหตุในคอนโดฯ ซอยสุขุมวิท 101   แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วยนาฬิกาหรูยี่ห้อปาเต็ก ฟิลิปป์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆ ของผู้ถูกกล่าวหาหลายรายการ

เมื่อเวลา 14.40 น. นางศิรินัดดา หักพาล ได้เดินทางพร้อมทนายความ เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายจับ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานและร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน เมื่อเจ้าตัวมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคีย์การ์ดที่นำไปเปิดห้อง รวมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัวกับสามีของคู่กรณี และประเด็นเรื่องการขโมยของ ซึ่งเจ้าตัวตอบเพียงว่า "ไม่ได้เป็นนะคะ เรื่องอะไรที่เสียหายจะมอบหมายให้กับทนายเป็นคนจัดการ"

ส่วนในประเด็นที่เจ้าตัวถูกกล่าวหานั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ก่อนที่จะเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยยังไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว

 ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา น.ส.ธณัฏฐาเดินทางมายัง สน.พระโขนง เข้าพบ พ.ต.ท.สิทธิเดช หาญจริง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางศิรินัดดา หักพาล ฐานความผิดลักทรัพย์ฯ สถานที่เกิดเหตุกรีนคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง โดย น.ส.ธณัฏฐาแจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุตนและนายภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่บริเวณบริเวณห้องเลขที่ 8/125 ชั้น 7 (กรีนคอนโด) ซอยสุขุมวิท 101 ต่อมาตนและนายภีมพจน์ได้ย้ายไปพักอาศัยอยู่ที่ (ไอคอนโดฯ) ห้องเลขที่ 82/60 ต.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เนื่องจากตนประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม และนายภีมพจน์ก็ได้ทำงานรับราชการอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ  โดยตนและนายภีมพจน์ได้มาพักผ่อนที่ห้องเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ

ต่อมา ในวันที่ 18 ส.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. ตนได้ใช้ให้นายพงษ์พัฒน์ วรเกตุ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน เข้ามาเอาของที่ห้องเลขที่ 8/125 ชั้น 7 กรีนคอนโด ซอยสุขุมวิท 101 เมื่อนายพงษ์พัฒน์เดินทางมาถึงคอนโดฯ ดังกล่าวและได้ขึ้นลิฟต์ไปบนชั้น 7 เมื่อออกจากลิฟต์แล้ว นายพงษ์พัฒน์ได้สังเกตเห็นนางศิรินัดดา ผู้ต้องหาในคดีนี้ ใช้กุญแจและคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้องเลขที่ 8/125 ซึ่งเป็นห้องพักของตนและนายภีมพจน์ นายพงษ์พัฒน์จึงได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องดังกล่าวให้กับตนทราบ ซึ่งขณะนั้นตนพักอยู่ที่ จ.นครปฐม จึงได้รีบเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุ ถึงห้องในเวลาประมาณ 16.00 น. เข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินที่ได้เก็บไว้ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้าประกอบด้วย ทองคำประเภทต่างๆ น้ำหนักรวม 120บาท เงินสดอีก 6 แสนบาท รวมมูลค่าประมาณ 5.7 ล้านบาท

ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ตนและนายภีมพจน์ซื้อร่วมกันเพื่อจะเอาไว้ใช้ในงานแต่งงานระหว่างตนและนายภีมพจน์ในเดือน ก.พ.68 (แต่ได้จดทะเบียนสมรสกันในเดือน พ.ค.67 แล้ว) ตนจึงได้พยายามติดต่อกับนางศิรินัดดาทางโทรศัพท์และทางแอปพลิเคชันไลน์แล้ว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เขียนจดหมายเพื่อทวงทรัพย์สินดังกล่าวคืน โดยตนได้นำไปให้กับนางศิรินัดดาที่บ้านพักวันที่ 17 ก.ย.67 เวลาประมาณ 18.40 น. แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านไม่ให้ตนเข้าไปส่งด้วยตัวเอง แต่ได้ประสานให้นายตำรวจที่คอยดูแลบ้านพักของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ชื่อ นนท์ ได้มารับเอกสารแทน แต่นางศิรินัดดาก็ไม่ได้นำทรัพย์สินดังกล่าวมาคืน

น.ส.ธณัฏฐาระบุว่า ตนได้พยายามติดต่อนางศิรินัดดาเรื่อยมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนางศิรินัดดา ผู้ต้องหาในคดีนี้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมาย และติดตามทรัพย์สินดังกล่าวมาคืนให้กับตน

ทางด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.) พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าพบ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระโขนง และได้เชิญตัว น.ส.ธณัฏฐา ผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดย พล.ต.ท.ไตรรงค์กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนงประสานมาให้ร่วมตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ทิ้งหลักฐานไว้ในห้องที่เกิดเหตุหลายรายการ ซึ่งได้ตรวจลายนิ้วมือแฝงไว้หมดแล้ว และจะได้ไปตรวจสอบในห้องที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพวงจรปิดในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.