ละเมิดสิทธิตากใบ! กสม.แถลงซัดรัฐบาลปล่อยคนผิดลอยนวลซํ้าเติมเหยื่อ

นายกฯ อิ๊งค์ชิ่ง! ไม่ตอบต่ออายุคดีตากใบ ด้าน "ทวี" โบ้ยให้ไปถาม "ภูมิธรรม" เพราะดูแลความมั่นคง แบไต๋หากรัฐบาลทำได้ก็อยากทำ  แต่จะยืดอายุความแค่ 8 คน หรือทั้ง 4,000 คน    หรือผู้ที่ไม่ออกหมายจับอีกเป็นแสน “อนุทิน” ชี้คนหนีไม่ได้สบายเพราะมีโทษทางสังคมแม้คดีขาดอายุความ ขณะที่ กสม.ออกแถลงการณ์ เร่งนำตัวผู้ต้องหาทุกรายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2567 ที่พระลานพระราชวังดุสิต น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้ความเห็นถึงข้อเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนด หรือ​ พ.ร.ก.ต่ออายุคดีสลายการชุมนุมหน้า สภ.ตากใบ​ ที่จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้​ โดยระบุเพียงสั้นๆ ว่า​ ขอไปก่อนนะคะ

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ต้องไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งดูความมั่นคง เพราะการจะออกกฎหมายเรื่องใดเรื่องหนึ่งต้องมีการศึกษาว่าทำได้หรือไม่ เมื่อถามว่าเวลาที่เหลืออีก 2 วัน ก่อนที่คดีหมดอายุความ จะสามารถออก พ.ร.ก.ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า อายุความเป็นกฎหมาย แล้ว พ.ร.ก.จะใหญ่กว่ากฎหมายได้อย่างไร ย้ำว่าต้องถามรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แต่กระทรวงยุติธรรมไม่มีประเด็นนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่เคยให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าหวังจะมีปาฏิหาริย์ หมายความว่าอย่างไร รมว.ยุติธรรมตอบว่า เมื่อเราตั้งใจทำงานอะไรด้วยความพยายามก็อาจจะประสบผลสำเร็จได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามีสัญญาณอะไร เพียงแค่รับทราบจากฝ่ายสืบสวนว่ามีการไปพิสูจน์ทราบถึงที่อยู่แล้ว แต่ยังไม่พบตัว ตอนนี้ยังไม่ได้หมดหวัง ยังมีเวลา ต้องให้เขาทำงานอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า กังวลว่าจะกระทบกับฐานเสียงของพรรคประชาชาติในพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า อย่าเพิ่งกังวลเรื่องฐานเสียง เราต้องกังวลเรื่องความยุติธรรม เพราะความยุติธรรมที่ล่าช้าคือความอยุติธรรม สำหรับญาติผู้เสียหาย การเยียวยาก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่เขาต้องการคือไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น แต่ในการรื้อฟื้นคดีก่อนขาดอายุความก็มีการมาเริ่มเอาในปีสุดท้าย คือช่วงเดือน ม.ค.2567 ความพยายามของกระบวนการยุติธรรมก็ทำไปจนกระทั่งมีหมายจับ

 “ขอย้ำว่าคดีตากใบผ่านมาหลายรัฐบาลแล้ว แต่รัฐบาลนี้มีความรับผิดชอบด้วยซ้ำที่ไม่อยากให้คดีนี้ขาดอายุความ จึงได้รื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมา แต่เราไม่สามารถไปแทรกแซงศาลและอัยการได้ โดยในมุมของประชาชนที่ฟ้องร้องคดีก็จะมีความภูมิใจว่าครั้งหนึ่งเคยออกหมายจับอดีตแม่ทัพได้ เพราะที่ผ่านมาญาติพี่น้องผู้สูญเสียเคยถูกออกหมายจับอย่างเดียว แต่วันนี้เขาคืนความเป็นธรรมด้วยการทำให้กระบวนการยุติธรรมออกหมายจับฝ่ายราชการได้”

หากรัฐบาลทำได้ก็อยากทำ

พ.ต.อ.ทวีกล่าวต่อว่า หากมีช่องทางใดที่รัฐบาลสามารถทำได้ก็จะทำ รวมถึงข้อเสนอที่ให้  พ.ร.ก. ซึ่งก็ได้ศึกษาและพบว่าหากจะออก พ.ร.ก.จะยืดอายุความแค่ 8 คน หรือทั้ง 4,000 คน หรือผู้ที่ไม่ออกหมายจับอีกเป็นแสนคน จึงอาจถูกมองว่าเป็นการออกกฎหมายเพื่อใครคนใดคนหนึ่งหรือไม่  แต่หากรัฐบาลทำได้ก็อยากทำ

ถามถึงกรณีที่อาจจะมีผู้ต้องหาหลบหนีไปประเทศลาว รมว.ยุติธรรมชี้แจงว่า การตามจับผู้ต้องหาในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น กรณีของแป้ง นาโหนด ที่กระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปช่วยสนับสนุนข้อมูล แต่ในกรณีของคดีตากใบ ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่าผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการ  ผู้บังคับบัญชาควรนำตัวมาให้

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยปฏิบัติตามข้อกฎหมายทุกประการ  เราติดตามและพยายามทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการมากที่สุด ขอให้มองไปข้างหน้า อย่ามองไปข้างหลัง เขามีสุภาษิตว่า โกรธ 10 ครั้งไม่เท่าให้อภัยครั้งเดียว ดังนั้น ถ้าเราไปโกรธเราไปเคียดแค้นคิดถึงแต่อดีต ก็มีแต่ก่อให้เกิดการถดถอย แต่ถ้าให้อภัยได้ นึกถึงอนาคต จำบทเรียนในอดีต อย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกเป็นอันขาด น่าจะเป็นนิมิตหมายที่ดี และเชื่อว่าจะเกิดความสงบเดินหน้าต่อได้ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลพร้อมให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า คนที่หลบหนีมาโดยตลอด และต้องหลบอยู่ต่อไป แม้จะพ้นอายุความแล้วก็คงจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ คนที่หลบหนีคดีอย่างไรก็ไม่มีความสุข เหมือนเขาถูกลงโทษอย่างหนักหนามาก ทั้งสภาพจิตใจ ความกดดันต่างๆ ไม่ใช่ว่าเขามีความสุขสบายหรือไม่ต้องรับโทษอะไรเลย เพราะมีโทษทางสังคม และเรื่องความรู้สึกของพี่น้องประชาชนต่อผู้ที่มีโทษอยู่

สำนักงาน​คณะกรรมการ​สิทธิ​มนุษยชน​แห่งชาติ​ (กสม.)​ ออกแถลงการณ์​เรื่อง ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขเยียวยาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าคดีการสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2547 จะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.2567 นี้  โดยระยะเวลาเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับเหตุสลายการชุมนุมในครั้งนั้นถูกดำเนินคดีจากการกระทำความผิดที่เป็นเหตุให้มีประชาชนเสียชีวิตรวม 85 รายแต่อย่างใด

ข้อเสนอกรรมการสิทธิฯ

กสม.เห็นว่า การดำเนินคดีที่ล่าช้าและปล่อยปละละเลยจนระยะเวลาล่วงผ่านมาเกือบ 20 ปี  เป็นการซ้ำเติมความสูญเสียของครอบครัวและญาติผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตลอดจนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ตากใบอย่างไม่อาจยอมรับได้ การที่กระบวนการยุติธรรมยังไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษ และไม่สามารถทำความจริงให้กระจ่างได้ ถือเป็นการละเมิดต่อสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของผู้เสียหาย และเป็นการละเมิดต่อ “สิทธิในการรู้ความจริงเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของเหยื่อ” ตามกติการะหว่างประเทศที่ประเทศไทยได้ให้การรับรอง

กสม.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่ออำนวยความยุติธรรมกรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบ ดังต่อไปนี้

1.เร่งนำตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ทุกรายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อมิให้เกิดวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิดโดยอาศัยช่องว่างจากการดำเนินคดีล่าช้าและการขาดอายุความของคดี

2.ให้มีการเยียวยาความเสียหายที่มิใช่เฉพาะตัวเงิน การเยียวยานี้หมายรวมถึงการทำความจริงให้ประจักษ์ โดยญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้เสียหายต้องได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างสมบูรณ์และครบถ้วน อันเป็นการให้ความเคารพในศักดิ์ศรีของเหยื่อและผู้สูญเสีย

3.ผลักดันแก้ไขกฎหมายให้คดีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงจนเป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากเสียชีวิต เช่น คดีตากใบ เป็นคดีที่ไม่มีอายุความ

ทั้งนี้ กสม.หวังว่าในโอกาสที่รัฐบาลไทยได้รับเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญ คือ การเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council - HRC) วาระปี 2568-2570 รัฐบาลจะได้ให้ความสำคัญกับการอำนวยความยุติธรรมและการเยียวยาความเสียหายกรณีการสลายการชุมนุมที่ตากใบในทุกรูปแบบอย่างจริงจังและเร่งด่วน โดยไม่ปล่อยให้ประชาชนผู้เสียหายได้รับความไม่เป็นธรรมและหมดความหวังต่อกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย

ขณะที่ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์เฟซบุ๊กกรณีมีการเสนอให้รัฐบาลออกพระราชกำหนดขยายอายุความคดีตากใบว่า อย่ายัดความโง่ใส่หัวประชาชน การออกพระราชกำหนดขยายอายุความในความผิดทางอาญา มันทำไม่ได้ อายุความมันขึ้นกับอัตราโทษ แม้อายุความไม่ใช่โทษทางอาญา แต่อายุความที่ยาวขึ้นมันเป็นโทษกับผู้ต้องหาหรือจำเลย จะไม่มีผลย้อนหลัง ศาลฎีกาก็ยืนแนวนี้มาตลอด

อย่าหลอกประชาชน

วิงวอนรัฐบาลอย่าหลอกประชาชน และวิงวอนประชาชนก็อย่ายอมให้รัฐบาลหลอก รัฐบาลจับผู้ต้องหาไม่ได้แล้วยังมาหลอกประชาชนอีกว่าจะออก พ.ร.ก.ขยายอายุความ เป็นการหลอกหาคะแนนไปเรื่อยๆ ทั้งคดีตากใบ และไอคอนกรุ๊ป  ขยายอายุความไม่ได้

นายสมชัย ศรี​สุทธิ​ยา​กร​ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า กลไกของทางราชการได้ใช้ความพยายามอยู่ แต่เป็นความพยายามในช่วงท้ายๆ ของคดี ซึ่งไม่เกิดผลใดๆ ส่วนการประสานและค้นหาข้อมูลเชิงลึกไม่ทราบว่าได้ทำไปถึงขั้นไหน ซึ่งถ้าทำจริงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีเบาะแสที่อยู่ของผู้ต้องหาพอสมควร แต่ขณะนี้ก็ยังจับไม่ได้แม้แต่รายเดียว เชื่ออีก 2 วันที่คดีจะหมดอายุความ คงไม่เกิดอะไรเปลี่ยนแปลง

"ผลที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนใน 3 จังหวัด​ชายแดน​ภาคใต้​ที่จะเชื่อถือกลไกของทางราชการก็จะลดน้อยลง  ความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของประเทศก็ลดทอน เพราะไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาได้ ซึ่งทุกฝ่ายประเมินว่ามีแนวโน้มที่อาจจะเกิดความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ขึ้นได้ หรือสิ่งที่เป็นปัญหาก็อาจจะไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย ซึ่งปรากฏการณ์คราวนี้จะทำให้เกิดปัญหาที่สะสมมากขึ้น ก็คงจะต้องหาวิธีการสร้างความเชื่อมั่นกับประชาชนมากขึ้น ว่าจากนี้จะดูแลประชาชนอย่างไร ให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม" นายสมชัยกล่าว

ด้านกลุ่มเยาวชน กลุ่มนักปั่น และกลุ่มนักกิจกรรม ร่วมละหมาดบริเวณสนามเด็กเล่น หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส สถานที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมนับร้อยคนถูกสลายการชุมนุมเมื่อปี 2547  และถูกขนย้ายจากบริเวณนี้ไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระยะทางประมาณ 145 กิโลเมตร ทำให้เยาวชนและนักกิจกรรมร่วมทำกิจกรรมปั่นจักรยานในเส้นทางนี้เพื่อตามหาออกซิเจน ก่อนคดีหมดอายุในวันที่ 25 ต.ค.นี้

โดยในกิจกรรมนี้มีนักปั่นชาวมาเลเซียมาร่วมด้วย และในระหว่างเส้นทางปั่นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก คอยอำนวยความสะดวก

นายมูฮำหมัดอาลาดี เด็งนิ นักกิจกรรม บอกว่า สาเหตุที่มีผู้เสียชีวิตระหว่างการขนย้าย ถูกระบุในผลการไต่สวนการเสียชีวิตว่า เกิดจากการขาดอากาศหายใจ จึงจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อตามหาออกซิเจนต่อลมหายใจในช่วงเวลาที่เหลือ แม้จะไม่คาดหวังว่าผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 14 คนจะมามอบตัวหรือเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าการไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการของศาลของผู้ที่เกี่ยวข้อง อาจทำให้เหตุการณ์ตากใบสร้างความคับแค้น อัดอั้น และไม่สบายใจให้คนในพื้นที่ต่อไป และอาจกลายเป็นเงื่อนไขใหม่ของความขัดแย้งก็เป็นได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปชน.ขนทัพใหญ่ หาเสียงทิ้งทวน! หวังปักธง‘สีส้ม’

“ปชน.” ปูพรมโค้งสุดท้าย ขนทัพใหญ่ดาวกระจาย 6 สายทั่วพื้นที่ “ปิยบุตร” ขอโอกาสปักธงสีส้ม “พิธา” เชื่อคะแนนยังสูสี พรรคประชาชนมีโอกาสพลิกชนะ