ดินเนอร์งดคุยนิรโทษกรรม

"เพื่อไทย" ปล่อยฟรีโหวตรายงานนิโทษกรรม แต่ขอเช็กชื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค.อีกครั้ง “โฆษก ภท.” ย้ำโหวตคว่ำตามเดิม หากยังดื้อดันปล่อยผีมาตรา 110 และ 112

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค.นี้ จะลงมติรับหรือไม่รับรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาพิจารณาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรมได้หรือไม่ว่า โหวตได้อยู่แล้ว แต่จะโหวตไปในทิศทางไหนนั้น เราไม่สามารถบังคับเขาได้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. ไม่ทราบว่าแต่ละคนจะโหวตแบบไหน ซึ่งหากโหวตเห็นด้วยกับข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญฯ ก็ส่งต่อให้รัฐบาล แต่รัฐบาลจะทำหรือไม่ทำก็ได้ถือเป็นสิทธิ์ของรัฐบาล แต่หากโหวตไม่ผ่านก็จบอยู่ที่สภา

 “ช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค. เราจะประชุมพรรคที่อาคารรัฐสภา เพื่อถามมติของ สส.ก่อนว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะเห็นด้วยกับ กมธ.หรือไม่” นายวิสุทธิ์กล่าว

ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรค พท. กล่าวถึงการรับประทานอาหารกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันจันทร์ที่ 21 ต.ค.จะพูดคุยเรื่องร่างรายงานนิรโทษกรรมหรือไม่ว่า การทานข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องปกติที่เคยปฏิบัติมา เพียงแต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการทานข้าวร่วมกัน หลังจากที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกฯ ส่วนเรื่องการพูดคุยนั้นมองว่าคงไม่มีอะไรที่เป็นข้อขัดแย้ง

ด้าน น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงท่าทีของพรรคภูมิใจไทยต่อการประชุมวันที่ 24 ต.ค.เพื่อพิจารณารายงานคณะ กมธ.นิรโทษกรรมว่า พรรคไม่สามารถลงมติรับรายงานดังกล่าวได้ เพราะเนื้อหาในรายงานมีความกำกวม ไม่ชัดเจน  และที่สำคัญที่สุดก็คือ พรรคเห็นว่าการนิรโทษกรรมต้องเป็นคดีที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง แต่เนื้อหาในรายงานกลับมีเรื่องการเสนอให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 110 กับคดีมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญาเข้ามาด้วย ซึ่งพรรคเห็นว่าทั้งสองกรณีไม่ใช่ความผิดที่เกิดจากการชุมนุมทางการเมือง จึงไม่สมควรมาอยู่ในรายงานดังกล่าวตั้งแต่แรก จึงเป็นรายงานที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ควรเอาบางเรื่องอย่างเรื่อง 112 มารวมไว้ด้วย เป็นรายงานที่มีปัญหาหาก กมธ.ไม่ยอมถอนรายงานกลับไปพิจารณาใหม่ แล้วจะให้ลงมติรับทราบรายงานและข้อสังเกตของ กมธ. พรรคก็จะลงมติไม่รับทราบหรือไม่เห็นชอบรายงานดังกล่าว

เมื่อถามถึงการที่แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลจะนัดคุยกันในวันที่ 21 ต.ค.นี้ จะมีผลต่อท่าทีของพรรค ภท.หรือไม่  น.ส.แนน บุณย์ธิดากล่าวว่า ไม่สามารถให้ความเห็นได้เพราะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ และการนัดดังกล่าวก็มีการนัดไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่รายงานผลการศึกษาต่างๆ ที่เข้าสภา มันไม่ได้มีผลทางกฎหมาย เป็นเหมือนรายงานเล่มหนึ่งที่ใช้อ้างอิงในการทำเรื่องต่างๆ ที่ผ่านมาสภาก็มีการทำรายงานผลการศึกษาต่างๆ มามากมาย โดยที่ผลการศึกษาไม่ใช่ตัวร่างพระราชบัญญัติจึงไม่มีผลทางกฎหมาย ดังนั้นหากรายงานของคณะ กมธ.ที่ส่งเข้ามาจะตกหรือจะผ่าน มันไม่มีผลทางกฎหมายในการจะบังคับใช้

“รายงานผลการศึกษาดังกล่าว หากผ่านสภาไปจะพบว่าในข้อสังเกตของรายงาน มีการระบุว่าให้ส่งรายงานไปให้ ครม. ซึ่งถ้าสภาเสียงส่วนใหญ่เห็นควรว่าไม่ต้องส่ง ครม. ก็เท่ากับเป็นรายงานของสภาที่ทำเสร็จแล้วหนึ่งเล่ม แต่หากสภาเห็นชอบแล้วมีการส่งให้ ครม. ตัวรายงานดังกล่าวก็อาจเป็นอีกหนึ่งเล่มรายงานที่นำไปอ้างอิงเพื่อให้เขาไว้ใช้ดู แต่มันก็ไม่มีผลทางกฎหมาย เพียงแต่ว่าเราเป็นห่วงในเนื้อหารายงานที่มันมีความไม่ชัดเจนอยู่” โฆษกพรรค ภท.กล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง