พอลนอนคุกต่อ/ว.วชิรเมธีระอุ

"ผบ.ตร." สั่งเปิดศูนย์ทั่ว ปท. รับแจ้งความคดีดิไอคอนกรุ๊ป "ปคบ." ประสาน "อสส." ส่งอัยการร่วมเป็นที่ปรึกษาดูแลสำนวนสอบสวน "พงส." นำตัว "บอสพอล" ส่งศาลฝากขัง "ทนาย" ไม่ขอประกันโดนส่งเข้าเรือนจำ อึ้ง! ส่อตัดตอน "จุลพันธ์" เผยสรรพากรสอบภาษีผู้ต้องหาพบบางรายแสดงรายได้ไม่ครบ "บิ๊กป้อม" ไฟเขียว "ไพบูลย์" เซ็นคำสั่ง "สามารถ" พ้นรองโฆษกพรรค “ชูศักดิ์” โยน “พศ.” สอบคลิป "ว.วชิรเมธี" เอี่ยวธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป "พศ.เชียงราย" เร่งตรวจข้อเท็จจริง

ความคืบหน้าการขยายผลดำเนินคดีกลุ่มผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหา 18 ราย ซึ่งเป็นระดับบอส พร้อมนำตัวส่งฝากขังผู้ต้องหาที่เรือนจำแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมติดตามการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม พร้อมทั้งประชุมทางไกลไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1-9

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐสั่งการให้ทุกหน่วยทั่วประเทศจัดตั้งศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ในคดีดังกล่าว เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับแจ้งความของผู้เสียหายที่อยู่ต่างจังหวัด โดยไม่ต้องเดินทางมายังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) โดยวันนี้เป็นการเปิดศูนย์รับแจ้งความร้องทุกข์ฯ พร้อมกันทั่วประเทศ

มีรายงานว่า พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ได้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) ขอให้มอบหมายพนักงานอัยการเข้าร่วมให้คำแนะนำปรึกษาคดีดิไอคอนกรุ๊ป เพื่อให้การสอบสวนมีประสิทธิภาพ เป็นการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน

ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เวลา 09.00 น. พนักงานสอบสวน บก.ปคบ. คุมตัวนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ออกจากศูนย์รับแจ้งความ บช.ก. ขึ้นรถนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา  รัชดาภิเษก

นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล กล่าวว่า วันนี้จะยังไม่ยื่นขอประกันตัว เนื่องจากเห็นคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัว 3 ผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งศาลให้เหตุผลว่าคดีดังกล่าวกลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะกระทำกันเป็นขบวนการ หากอนุญาตให้ประกันตัวแล้วเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน

ส่อตัดตอน! พอลปัดจ่ายส่วย

"พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เข้ามาสอบปากคำนายวรัตน์พลเกี่ยวกับกรณีคลิปเสียงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายวรัตน์พลให้ข้อมูลว่าคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวนั้นเป็นเสียงของตัวเองจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใดตามที่มีการถูกกล่าวอ้าง ซึ่งในส่วนที่มีการพูดถึงเทวดานั้น ยืนยันว่าเทวดาที่หมายถึงคือเทวดาจริงๆ ไม่ใช่เทวดาบนโลกมนุษย์" นายวิฑูรย์กล่าว

ถามถึงกรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุเคยมีคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงดิไอคอนกรุ๊ป แปลงทรัพย์สินเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพื่อจ่ายสินบน นายวิฑูรย์ยืนยันว่า  ไม่เป็นความจริง เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทมีหมื่นล้านบาท หากจะนำไปจ่ายเป็นเงินสินบนทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

"เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลที่นายเอกภพอ้างอิงถึงนั้นไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ แต่อย่างใด" นายวิฑูรย์กล่าว

เมื่อถึงศาลอาญา พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอฝากขังบอสพอลครั้งเเรก เป็นเวลา 12 วัน โดยคำร้องฝากขังบรรยายพฤติการณ์ทางคดีของผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัว  โดยเหตุผลลักษณะเดียวกับที่ยื่นคัดค้านประกันตัว 17 ผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ โดยในวันนี้ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นสอบสวนต่อศาลอาญา

หลังจากนั้นเวลา 11.45 น. เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวบอสพอลไปควบคุมตัวยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รรท.ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กล่าวถึงการถูกคุมตัวคืนแรกของกลุ่มบอสดิไอคอนกรุ๊ปชายจำนวน 10 ราย ว่าทุกคนถูกดำเนินการตามขั้นตอนตามปกติเหมือนนักโทษทั่วไป คือการตรวจร่างกาย ซักประวัติ ดูประวัติรักษาโรคต่างๆ ก่อนควบคุมเข้าพื้นที่แดนกักโรคเป็นเวลา 5 วัน เบื้องต้นจากการตรวจร่างกายพบ 2 ราย มีโรคประจำตัวคือ นายธวิณทร์ภัส หรือบอสวิน เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มีใบเอกสารรักษาตัวและใบยาชัดเจน ส่วนนายจิระวัฒน์ หรือโค้ชแล็ป เป็นโรคไต มีใบเอกสารรักษาตัวและใบยาชัดเจนเช่นกัน

ส่วนภาพรวมบอสคนอื่นๆ โดยเฉพาะบอสดาราอย่าง บอสแซม-ยุรนันท์ และบอสกันต์-กันต์ กันตถาวร ก็ตามสภาพ เบื้องต้นทราบว่าเครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ รวมถึงยังเอ่ยปากพูดร้องขอ อยากเจอญาติ แต่ก็ยืนยันไปว่าต้องเป็นไปตามระเบียบก่อน เนื่องจากต้องเข้าสู่กระบวนการแยกกักโรคสำหรับผู้ต้องขังแรกรับ ซึ่งกลุ่มบอสนอนรวมกันทั้งหมด เพราะรองรับผู้ต้องขังรายใหม่ได้มากสุด 15 คน ซึ่งภายในห้องก็จะมีกล้องวงจรปิดและเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าสังเกตอาการอยู่ตลอดเวลา

นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา รรท.ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง กล่าวถึงการถูกคุมตัวคืนแรกของกลุ่มบอสผู้หญิงว่า ผู้ต้องหาหญิงทั้ง 7 คน มาถึงเรือนจำประมาณ 2 ทุ่มกว่า เมื่อเข้ามาแล้วก็มีการพิมพ์ลายนิ้วมือ ซักประวัติ ตรวจสุขภาพ มี 3-4 คนมีโรคประจำตัว บางคนมีไข้ และมีความดันโลหิตสูง ซึ่งช่วงเช้าพาไปพบแพทย์ตรวจอีกครั้ง

ทั้งนี้ ผู้ต้องขังหญิงทั้ง 7 คนให้อยู่ในแดนแยกกักโรค 5 วัน ซึ่งจะให้อยู่ด้วยกันทั้ง 7 คน ไม่ได้แยกใครออกจากกัน เนื่องจากดูพฤติกรรมแล้วทั้ง 7 คน น่าจะช่วยเหลือกัน ไม่ได้มีพฤติกรรมทะเลาะหรือ โยนความผิดอะไร ซึ่งในแดนแยกกักโรคจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา มีกล้องวงจรปิดคอยตรวจสอบตลอด

"คืนแรกทั้งหมดก็พอนอนได้ เช้าตื่นมาตามปกติ อาบน้ำ ทานข้าวกันแล้ว ส่วนน้องมิน-พีชญา ได้สอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องว่าญาติหรือทนายจะเข้าเยี่ยมได้เลยหรือไม่ และจะเอาของมาฝากได้หรือไม่ ซึ่งได้อธิบายว่าทนายความหรือพนักงานสอบสวนสามารถเข้าเยี่ยมได้ตลอดตั้งแต่วันนี้ ส่วนญาติจะเยี่ยมได้หลังกักโรค 5 วัน ซึ่งน้องมินก็เข้าใจ ไม่ได้เครียดมาก แต่คิดว่าก็คงมีความเครียดบ้าง" นางกนกวรรณกล่าว 

ทนายความของ น.ส.พีชญา หรือบอสมิน กล่าวหลังเข้าเยี่ยมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ว่า มินยังปรับตัวไม่ได้ แต่กำลังใจดี ยืนยันไม่ได้ทำอะไรผิด ตอนนี้รับประทานอาหารได้น้อย เนื่องจากเป็นโรคกระเพาะ เบื้องต้นติดต่อให้ญาตินำยามาให้แล้ว รวมทั้งทุกคนยังไม่ได้ตัดผม เนื่องจากยังเป็นผู้ต้องขังใหม่ แต่ใส่ชุดนักโทษ

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมว.การคลัง กล่าวถึงการตรวจสอบการยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้นิติบุคคลของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ และการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ต้องหา 18 รายว่า กรมสรรพากรตรวจสอบพบผู้ต้องหาบางรายไม่ได้ยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือบางรายยื่นแบบแสดงเงินได้ไม่ครบถ้วน โดยจะส่งชุดข้อมูลดังกล่าวให้กับหน่วยงานสืบสวนต่อไป

ปลด 'สามารถ' พ้นรองโฆษก

ส่วนนายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง  สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวถึงการเพิกถอนใบอนุญาตของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐาน และความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของบริษัททั้งหมด เพื่อที่จะเพิกถอนใบอนุญาตให้เร็วที่สุด ภายใน 2-3 วัน เพราะเป็นเหตุเร่งด่วน

"ที่สังคมตั้งข้อสังเกตเหตุใด สคบ.ยังไม่เพิกถอนในอนุญาต จุดนี้ต้องทำให้รอบคอบ เนื่องจากบริษัทเอาใบอนุญาตประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ไปใช้ประโยชน์ในการชักชวนคนให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง โดย สคบ.ก็ได้มีการหารือกับหน่วยงานกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานกฤษฎีกา เป็นต้น" ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคฯ ระบุ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป คาดว่าพนักงานสอบสวนจะมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งอาจจะมีการสอบสวนพาดพิงไปถึงบุคคลในพรรค พปชร.อย่างใดหรือไม่ ดังนั้นตนในฐานะเลขาธิการพรรค จึงเสนอหัวหน้าพรรคออกคำสั่งให้นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พ้นจากการดำรงตำแหน่งรองโฆษกพรรค พปชร.  ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

"การขับออกจากพรรคตามข้อบังคับยังไม่สามารถทำได้ เพราะต้องใช้มติของที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค โดยจะมีการประชุมวันที่ 29 ต.ค.นี้ ขณะนี้พยายามให้คนใกล้ชิดไปพูดคุยกับนายสามารถ แต่นายสามารถยืนยันจะไม่ลาออกจากพรรค พปชร.” นายไพบูลย์ระบุ

ที่รัฐสภา นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธาน กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต กล่าวถึงกรณีนาย ส. มีชื่ออยู่ใน กมธ.ว่า ในคณะนี้ นาย ส.อยู่ในลักษณะที่เป็น กมธ. เสนอชื่อโดยพรรค พปชร. ถ้าพรรคมองว่าไม่เหมาะสมที่จะอยู่ต่อคงต้องให้ทำหนังสือแจ้งลาออก และเสนอเปลี่ยนคนเข้ามา หรือไม่เช่นนั้นต้องมีผู้ใดในสภาเสนอเป็นมติให้มีการปรับเปลี่ยน

อย่างไรก็ตาม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ยื่นหนังสือให้ตรวจสอบและปลดนายสามารถออกจาก กมธ.ทุกคณะหลังปรากฏมีเสียงคล้ายคนในคลิปเรียกรับผลประโยชน์ผู้บริหารดิไอคอนว่า ตนได้เซ็นหนังสือให้ประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ ได้ตรวจสอบบุคคลที่แต่งตั้งเป็นคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับการสร้างความเสียหาย ทั้งการเรียกรับเงิน การแอบอ้าง ขอให้ถอดถอนออกได้ทันที เพราะเป็นหน้าที่ของประธานกรรมาธิการแต่ละชุดที่สามารถทำได้

"อีกทางรัฐสภาจะมีการตรวจสอบในทางลึกอีกครั้งว่ามีกรรมาธิการชุดใดที่มีคณะทำงานหรือที่ปรึกษา ที่สร้างความเสียหายในทำนองนี้เกิดขึ้น ก็สามารถลงโทษได้ในเรื่องของจริยธรรม แต่ถ้ามีความเสียหาย มีผู้ร้องเรียน เป็นคดีอาญา ก็สามารถดำเนินการได้ ซึ่งได้ตักเตือนไปแล้ว เพราะจริยธรรมของสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกกรรมาธิการมีอยู่ชัดเจนแล้ว หากประพฤติก่อให้เกิดความเสียหาย คนแต่งตั้งคือประธานกรรมาธิการต้องรับผิดชอบ ซึ่งบทลงโทษค่อนข้างสูง เพราะต้องส่งเรื่องไป ป.ป.ช. และ ป.ป.ช.ก็ส่งต่อศาลฎีกา ถ้าผิดก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง" ปธ.สภาฯ กล่าว

ชูศักดิ์โยน พศ.สอบ 'ว.วชิรเมธี'

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีโซเชียลเผยแพร่คลิปพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ที่เคยไปบรรยายธรรมะที่สำนักงานบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ โดยช่วงหนึ่งพระ ว.วชิรเมธี ได้พูดอวยดิไอคอนกรุ๊ป ถือว่าไม่เหมาะสม ในฐานะกำกับ พศ.จะต้องมีการตรวจสอบอะไรหรือไม่ ว่าเป็นเรื่องของพระ ตนเป็นฆราวาสคงไม่มีอำนาจไปตรวจอะไรพระ เป็นเรื่องขององค์กรพระที่จะดูแล

  ถามว่า เรื่องบานปลายจะกำชับ พศ.อย่างไร นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตนบอกไปว่าถ้ามีเรื่องเข้ามาก็ให้พิจารณา และส่งเรื่องมาว่าเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ต้องดูว่าเป็นอย่างไร เราคงไม่สามารถตัดสินได้เวลานี้ เว้นแต่จะมีเรื่องส่งเข้ามาที่ พศ. ก็ต้องทำรายงานมาว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และเบื้องต้นเมื่อ 2 วันที่ผ่านมาตนได้สั่งให้ พศ.ติดตามเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ให้ดูให้ละเอียด ถ้ามีปัญหาอะไรก็ส่งมา

 “ผมยังไม่สามารถไปตัดสินหรือชี้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร พูดง่ายๆ ว่าเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องให้คนที่เขาเกี่ยวข้องดูแลพิจารณากันไป” นายชูศักดิ์

ถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเรียกทาง พศ.เข้ามาหารือในเรื่องนี้ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ตนก็บอกไปแล้วว่าเมื่อมีคลิปปรากฏก็ให้ลองดู หากมีเรื่องอะไรก็สรุปมาให้ฟังว่าเป็นอย่างไร

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเข้าไปถวายรายงานสมเด็จพระสังฆราชในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า คิดว่าองค์กรนี้มีคนดูแลอยู่แล้ว ก็ดูว่าอะไรเป็นอะไร ที่สำคัญคือต้องดูว่ามีคนว่ากล่าวร้องเรียนอะไรหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายชูศักดิ์ ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล กรณีคลิปเสียงพระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) เทศนาเชิงสนับสนุนโฆษณาดิไอคอนกรุ๊ป และกรณีมีเอกสารปรากฏระบุผู้เขียน พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ลงวันที่ 17 ต.ค.67 ในสื่อออนไลน์ มีลักษณะกล่าวถึงบุคคลที่ 3 อันอาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ถูกพาดพิง และอาจส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของพุทธศาสนิกชนนั้น

ขณะนี้ทาง พศ.ได้มีการดำเนินการแจ้งไปยัง พศ.เชียงรายแล้วว่ามีกรณีดังกล่าวนี้เกิดขึ้น ขอให้มีการเร่งตรวจสอบ และหากผลตรวจสอบข้อเท็จจริงของ พศ.เชียงรายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้รายงานมายัง พศ. เพื่อแจ้งให้กับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลทราบต่อไป

นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการ พศ. กล่าวว่า ในเอกสารที่ ว.วชิรเมธี โพสต์ พศ.ยังไม่ขอยืนยันว่าเป็นเอกสารจริงที่จัดทำขึ้นมาเองหรือไม่ ซึ่งในเอกสารหน้าแรกจะเป็นการอธิบายและชี้แจงกรณีที่เป็นกระแสสังคมของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ทั้งหมด 6 ข้อ โดยเป็นเรื่องปกติที่พระควรจะออกมาชี้แจงหลังจากสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

นายบุญเชิดกล่าวว่า หน้าที่ของ พศ.คือการทำหนังสือลงนามเพื่อประสานไปยังเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย และผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) เชียงราย ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเอกสารที่โพสต์เป็นเอกสารที่ ว.วชิรเมธี จัดทำขึ้นจริงหรือไม่ เพราะมีการกล่าวพาดพิงนายกรรชัย กำเนิดพลอย ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 ในเอกสารหน้าที่ 2

"ส่วนนี้อาจจะทำให้พุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสเกิดความไม่สบายใจได้ เนื่องจากพระสงฆ์ย่อมอนุเคราะห์คฤหัสถ์ ในฐานะที่เป็นทิศเบื้องบน ตามหลักปฏิบัติดังนี้ 1.ห้ามปราม สอนให้เว้นจากความชั่ว 2.แนะนำสั่งสอนให้ตั้งอยู่ในความดี 3.อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี 4.ให้ได้ฟังได้รู้สิ่งที่ยังไม่เคยรู้ไม่เคยฟัง 5.ชี้แจงอธิบายทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้เข้าใจแจ่มแจ้ง 6.บอกทางสวรรค์ สอนวิธีดำเนินชีวิตให้มีความสุขความเจริญ การที่พระไปกล่าวพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 อาจจะเลยเถิดไปจากคำว่าสมณะ เพราะสมณะจะต้องมีคุณสมบัติ 3 อย่าง คือ 1.สงบกาย 2.สงบวาจา 3.สงบใจ" นายบุญเชิดกล่าว

ทนายกุ้งบุกแจ้ง ตร.ดำเนินคดี

รอง ผอ.พศ.กล่าวว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นหากเป็นเอกสารที่ ว.วชิรเมธีจัดทำขึ้นมาเองจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจแทนพระรูปนี้ และตนเองมองว่าเป็นการไม่เหมาะสม พศ.จึงได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังเจ้าคณะจังหวัดเชียงรายที่เป็นผู้บังคับบัญชาของ ว.วชิรเมธีโดยตรง เพื่อให้พิจารณาตามความเหมาะสมและระเบียบมหาเถรสมาคม (มส.) ว่าด้วยการปกครองสงฆ์ โดยในส่วนของการผิดวินัยสงฆ์ ทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงรายอาจจะมีการว่ากล่าวตักเตือน หากเป็นเอกสารที่จัดทำขึ้นจริง แต่ในส่วนของบุคคลที่ 3 ที่ถูกพาดพิง ถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลกับ ว.วชิรเมธี" นายบุญเชิดกล่าว

สำหรับกรณีที่ปรากฏคลิปและภาพของ ว.วชิรเมธี รับกิจนิมนต์เข้าไปแสดงธรรมเทศนาที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และทางบริษัทมีการถวายเงินให้ 1 ล้านบาทนั้น ในตอนนี้ พศ.ได้ส่งเอกสารบทเทศน์ไปให้ทางเจ้าคณะจังหวัดเชียงรายเพื่อให้พิจารณาแล้วส่วนหนึ่งตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา

ด้าน น.ส.สกุณา สาระนันท์ สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีพระเมธีวชิโรดมว่า ขณะนี้ทาง กมธ.ยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว และยังไม่ได้มีการพิจารณาใดๆ ทั้งสิ้น

ถามว่า จะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาภายหลังด้วยหรือไม่นั้น น.ส.สกุณากล่าวว่า ด้วยหลักการทำงานของ กมธ. จะมีระเบียบข้อบังคับว่าเรื่องใดๆ ที่จะนำเข้าพิจารณาใน กมธ. ต้องได้รับเรื่องร้องเรียนจากภาคประชาชน จากบุคคลทั่วไปก่อน และเพื่อให้เป็นไปด้วยความถูกต้องในเรื่องของศาสนา เกี่ยวกับพระสงฆ์ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงมีความจำเป็นจะต้องทำตามขั้นตอน และในห้อง กมธ.ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้

ต่อข้อถามว่า ในประเด็นสังคม ทั้งเรื่องการโพสต์เฟซบุ๊กของท่าน ว.วชิรเมธี การปรากฏภาพว่ารับเงินจากบริษัท ดิไอคอนฯ และเรื่องการเทศนาให้กับบริษัทมองเรื่องนี้อย่างไร น.ส.สกุณากล่าวว่า ในฐานะ กมธ. ตนยังไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวได้ แต่ส่วนตัวเชื่อมั่นในการที่ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านเป็นพระสงฆ์ที่หลายคนให้ความเคารพนับถือ มีวุฒิภาวะ แน่นอนว่าเราต้องเคารพในการกระทำของท่านอยู่แล้ว

 “ยืนยันว่า กมธ.ทุกคนยังเห็นตรงกันที่จะยังไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณา ส่วนความคิดเห็นของ กมธ.สัดส่วนพรรคประชาชน ก็เป็นความเห็นส่วนตัว จึงทำให้วันนี้ต้องมาแถลงข่าวเพื่อความชัดเจน” น.ส.สกุณากล่าว

ด้านนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ กล่าวถึงกรณีท่าน ว.วชิรเมธี เทศนาให้กับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ว่า ตนได้คุยกับนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา โดยทราบว่านายเดชาจะไปแจ้งความดำเนินคดี และได้มีการชวนตนไปด้วย

"ตอนนี้ได้เปิดให้ผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายจากท่าน ว. ให้ไปให้ข้อมูลกับนายเดชา เพื่อที่จะไปให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป หากมีการดำเนินคดีจนไปถึงการออกหมายจับ  ทันทีที่ท่าน ว. กลับมาถึงประเทศ ก็สามารถรวบตัวที่สนามบินได้" นายษิทรากล่าว

ถามว่า ส่วนตัวมองเข้าข่ายความผิดหรือไม่  นายษิทรากล่าวว่า หากผู้เสียหายแจ้งว่าเข้าข่ายชักจูงหรือเชิญชวน เท่าที่ตนได้ดูคลิปก็ถือว่าหมิ่นเหม่ เพราะมีการชวน และท่านเองก็ได้ปัจจัยรอบละประมาณ 1 ล้านบาท ถือว่าได้ผลประโยชน์ ทั้งนี้ มีการเทศน์ว่าบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ เป็นบริษัทที่ดี ก็ถือว่าสุ่มเสี่ยง

เมื่อถามว่า มหาเถรสมาคมและสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติควรจะเข้ามาร่วมด้วยหรือไม่ นายษิทรากล่าวว่า ควรเข้ามาตรวจสอบ เพราะเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ควรเข้ามาจัดการในเรื่องนี้ ที่มีพระเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจ การเมืองต่างๆ ซึ่งพระหลายรูปเป็นพระที่ดี และมีพระอีกหลายรูปที่อยากมาทำการเมืองหรืออยากทำธุรกิจ

 วันเดียวกัน นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ในฐานะทนายกลุ่มผู้เสียหายคดีดิไอคอน กล่าวว่า ได้มอบหมายให้ทนายกุ้ง น.ส.อำนวยพร มณีวรร์ ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพระเมธีวชิโรดม หรือพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน โดยมีหลักฐานคลิปที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ไปเทศนาชักชวนประชาชนลงทุน และให้รีบตัดสินใจถ้าอยากเป็นเศรษฐีเพียงวันเดียวต้อง The icon เท่านั้น

ต่อมาทนายกุ้งได้นำหลักฐานเป็นคลิปที่พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ไปเทศน์ที่บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจ บก.ปคบ.ดำเนินคดี ในข้อหาสนับสนุนให้เกิดการฉ้อโกงประชาชน

น.ส.อำนวยพรกล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะการเทศน์ดังกล่าวจะทำให้คนที่กำลังลังเลที่จะตัดสินใจลงทุนได้ตัดสินลงทุน เนื่องจากมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวของพระอาจารย์

เตือนอย่าวิ่งเต้นเสียเงินฟรี

ด้านนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง  กล่าวถึงกรณีพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี เผยแพร่เอกสารชี้แจงกรณีดิไอคอนกรุ๊ป โดยมีเนื้อหาถึงหนุ่ม-กรรชัย ในฐานะพิธีกรและเคยเป็นศิษย์อาจารย์กันนั้นว่า ต้องบอกว่าท่าน ว. หวดแรงมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่บอกว่าหนุ่มใกล้ๆ จะทำตัวเป็นศาลเตี้ย ยังเป็นพิธีกรหรือเปล่า หรือเป็นฆาตกรต่อเนื่อง ฯลฯ ฟังแล้วสะดุ้งกันเลยทีเดียว

นายกรรชัยกล่าวว่า อันดับแรกผมต้องกราบเรียนท่านพระอาจารย์ ว. แบบนี้นะครับ ผมยืนยันว่าผมไม่ได้เป็นศาลเตี้ยนะครับ เพราะผมไม่ได้มีกฎหมายในมือ ผมไม่ได้เป็นตำรวจ ผมไม่ใช่ศาล ผมเป็นแค่กระบอกเสียงที่อยากจะช่วยเหลือคนตัวเล็กๆ ที่ถูกคนตัวใหญ่ๆ รังแก หรือคนยากคนจนที่ถูกเขาหลอกลวง ชักจูงไปในทางที่ผิด หรือไม่ถูกไม่ควร ผมแค่อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้พวกเขา  อันนี้คือข้อแรก"

ส่วนข้อที่สองที่อยากจะชี้แจงคือ ตกใจมากนะครับ และผิดหวังมากที่เห็นพระอาจารย์มีการพิมพ์มาแบบนี้  ผมต้องบอกว่าอยู่กับพระอาจารย์มา อาจจะไม่ได้นานมากมาย แต่สิ่งที่พระอาจารย์สอนผมคือสอนให้มีสติ ให้ผมไม่มีโมหะ  โทสะ โลภะ แต่เห็นพระอาจารย์โพสต์อันนี้ ไม่ทราบจริงๆ ว่าพระอาจารย์โพสต์จริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นแอดมิน หรือออกมาจากใจพระอาจารย์จริงๆ หรือเปล่า  เสียใจที่เห็นแบบนี้นะครับพระอาจารย์

นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง สะพัดแก๊งบอสวิ่งเต้นหนัก ระวังตีนพลิก ตอนหนึ่งระบุว่า ในระหว่างนี้เชื่อว่าต้องมีการวิ่งเต้นกันอุตลุด เพราะกลุ่มผู้ต้องหามีอิทธิพลทางการเงินสูง มีข่าวสะพัดว่าต้องทำทุกช่องทางเพื่อให้ศาลมีสั่ง อนุญาตให้ประกันตัวให้ได้ กรณีเช่นนี้ย่อมสร้างความกดดันให้กับผู้พิพากษาที่อำนาจในการสั่งประกันอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เพราะฉะนั้นการสั่งคดีแต่ละครั้งย่อมต้องเคร่งครัด รัดกุม และตรวจสอบได้

"ส่วนตัวเชื่อว่าหนทางที่จะได้กลับมามองโลกภายนอกของผู้ต้องหาดิไอคอนริบหรี่เต็มที จนกว่าคดีถึงที่สุด และรับโทษทัณฑ์ตามคำพิพากษา ที่คิดจะวิ่งเต้นกันอย่าทำเลยครับ ระวังจะตีนพลิก โดนหลอกเสียเงินเพิ่ม" นายเชาว์ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง