‘คลัง’ลั่นแจกหมื่นรอบสอง!

“คลัง” ฟุ้งเปิดขายหวย N3 ฉลุย ปิดยอดจำหน่ายวันแรก 1 แสนใบ “จุลพันธ์” ยันดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 2 มีแน่นอน รอรับเงินหมื่นได้ แต่อาจแบ่งจ่ายหรือให้ก้อนเดียว ช่วงปีใหม่มีมาตรการกระตุ้นพรึ่บ

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก (สลาก N3) ภายหลังเปิดจำหน่ายวันแรก เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ในแบบทดสอบระบบปิดว่า การจำหน่ายเป็นไปอย่างราบรื่น ได้รับความสนใจและตอบรับเป็นอย่างดี โดยปิดยอดขายวันแรกได้ถึง 100,000 ใบ จากจุดขายร้านสลาก 80 ทั่วประเทศ กว่า 800 จุด จากเป้าหมายการจำหน่าย 5 ล้านใบต่องวด

 “2-3 เดือนหลังจากเปิดแซนด์บ็อกซ์แล้วจะประเมินผลกระทบในทุกมิติ โดยเฉพาะผลกระทบกับสลากกินแบ่งรัฐบาลปกติ ทั้งที่จำหน่ายแบบใบและออนไลน์ และผ่านช่วงแซนด์บ็อกซ์ 6 เดือนไปแล้ว ก็จะทำการเปิดจำหน่ายทั่วประเทศในช่วงเดือน เม.ย.2568 ซึ่งมั่นใจว่า N3 จะช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคาได้ รวมถึงยังจะช่วยดึงเงินจากหวยใต้ดินให้ขึ้นมาอยู่ในระบบมากขึ้น” นายจุลพันธ์กล่าว

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า ได้หารือกับสำนักงานสลากฯ เบื้องต้น ว่าอยากให้มีการเปิดรับตัวแทนจำหน่ายสลาก N3 เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับประชาชน และให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยเฉพาะคนที่ต้องการมีรายได้ใหม่ๆ โดยยังอยู่ในขั้นตอนการหารือต้องรอสำนักงานสลากฯ สรุปสุดท้ายอีกครั้ง ขอเวลาในการพิจารณารายละเอียดอย่างรอบคอบก่อน

วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ยังกล่าวถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ว่ามีมาแน่นอน รัฐบาลมีเม็ดเงินที่เตรียมไว้รองรับแล้ว 1.87 แสนล้านบาท แต่รายละเอียดของโครงการต้องหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเตรียมจะนัดประชุมในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ถึงต้นเดือน พ.ย.2567 โดยในการประชุมดังกล่าวจะหารือเกี่ยวกับการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเพื่อขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วย รวมไปถึงจะรายงานเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งมาตรการที่ได้ดำเนินการไปแล้วอย่างซอฟต์โลน วงเงิน 100,000 ล้านบาท ของธนาคารออมสิน และมาตรการใหม่ๆ ที่เตรียมจะนำเสนอ

“ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 มาแน่นอน รัฐบาลคิดโครงไว้หมดแล้ว ส่วนกระบวนการพัฒนาระบบหลังจากที่เลื่อนมา เราเห็นกรอบเวลา เห็นภาพที่จะดำเนินการแล้วว่าจะได้ประมาณช่วงไหน แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ขอไปหารือในที่ประชุมก่อน หลังจากนั้นจะชี้แจงรายละเอียดอีกครั้ง แต่รัฐบาลยืนยันชัดเจนว่าเม็ดเงิน 10,000 บาทจะถึงมือประชาชนครบถ้วนแน่นอน ส่วนจะจ่ายแบบก้อนเดียวหรือทยอยจ่ายเป็นล็อต ต้องรอไปหารือก่อน”รมช.การคลังระบุ

สำหรับผลของการใช้จ่ายจากโอนเงิน 10,000 บาท ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ วงเงิน 1.45 แสนล้านบาทนั้น ค่อนข้างกระจายตัวได้ดี มีการใช้จ่ายดี เม็ดเงินหมุนเข้าสู่ระบบค่อนข้างเร็ว สะท้อนจากการค้าขายในพื้นที่ต่างๆ ที่คึกคักมากขึ้น ซึ่งรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในความสำเร็จตรงนี้ โดยได้เตรียมการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกำลังเร่งพิจารณาวางกรอบอยู่ว่าจะทำอะไรเพิ่มเติม โดยหนึ่งในมาตรการที่เตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาคือ มาตรการเที่ยวไทยไปต่อ ซึ่งเป็นชื่อเบื้องต้น โดยหลักการจะให้ประชาชนและบริษัทห้างร้านสามารถนำรายจ่ายจากการท่องเที่ยว จัดประชุมสัมมนาในพื้นที่ประสบอุทกภัยตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สามารถมาหักลดหย่อนภาษีได้ เบื้องต้นเสนอไว้ 2 เท่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และดึงกำลังซื้อให้กลับไปในพื้นที่ดังกล่าว โดยหากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบ ก็จะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป

นายจุลพันธ์กล่าวอีกว่า จะมีการเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล สำหรับประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม รวมถึงมาตรการภาษีสำหรับการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย และยานพาหนะ สำหรับค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ค่าซื้อวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมอาคาร หรือทรัพย์สินที่ติดตั้งกับตัวอาคารที่อยู่ในที่ดินมาหักลดหย่อนภาษีได้ ส่วนรายละเอียดขอให้รอการพิจารณาของ ครม.อีกครั้ง

“รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่ต้องรอจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยช่วงก่อนปีใหม่คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา และช่วงปีใหม่ก็จะมีออกมาเพิ่มเติมอีก ส่วนรายละเอียดของมาตรการทั้งหมด ยืนยันว่ายังต้องรอหารือและสรุปในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจก่อน” นายจุลพันธ์กล่าว และว่า ข้อเสนอของภาคเอกชนเกี่ยวกับโครงการคนละครึ่ง และโครงการคูณสองนั้น รัฐบาลพร้อมรับมาพิจารณา ไม่ได้ปิดกั้น ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ยึดติดกับศักดิ์ศรีอะไรขนาดนั้น หากต้องนำโครงการเก่าๆ มาดำเนินการ เพราะเรามองที่ประโยชน์ของชาวบ้านเป็นหลัก.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง