‘คลัง’ดี๊ด๊ากนง.ลดดอกเบี้ย เร่งจ่ายซ้ำเงินหมื่นผู้พิการ

นายกฯ ถกกุนซือบ้านพิษณุโลกครั้งที่  2 ตรวจการบ้านขับเคลื่อนงานด้านต่างๆ เร่งหาช่องสร้างรายได้ให้ประเทศ "พิชัย" ดี๊ด๊า กนง.ลดดอกเบี้ย เศรษฐกิจดีขึ้นแน่ หวังทุกฝ่ายร่วมมือฟื้นสภาพคล่อง ลุ้น ธปท.พิจารณาเพิ่มกรอบเงินเฟ้อ  “คลัง” กระทุ้งผู้พิการยังไม่ได้รับเงินหมื่น เร่งแก้ไขให้ทัน 3 รอบจ่ายเงินซ้ำ

ที่บ้านพิษณุโลก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม เวลา 09.05 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เป็นประธานการประชุมหารือข้อราชการร่วมกับคณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษา,    นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานที่ปรึกษา, นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษา, นายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษา และนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่ปรึกษา  ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเป็นครั้งที่  2 ตามวงรอบปกติ โดยการประชุมครั้งแรก นายกฯ   ได้ให้แนวทางการทำงานในเรื่องต่างๆ กับที่ปรึกษาแต่ละด้าน ซึ่งที่ปรึกษาแต่ละด้านได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนงานให้นายกฯ ทราบ 

จากนั้น เวลา 12.00 น. นายพงศ์เทพเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มีการหารือในหลายๆ เรื่อง และเรื่องที่จะมีการแถลงต่อไป รวมถึงบางเรื่องเป็นการภายในขออนุญาตไม่เปิดเผย โดยได้เล่าให้ฟังว่าได้ทำอะไรไปบ้างแล้ว สำหรับการประชุมครั้งนี้  เรื่องที่สำคัญคือการหาช่องทางสร้างรายได้ให้กับประเทศ โดยสัปดาห์นี้คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรีจะเชิญหน่วยงานต่างๆ มาให้ข้อมูล

เมื่อถามว่า นโยบายที่จะเป็นประโยชน์กับประชาชนจะมีออกมาหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า  ทำแล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ว่าเป็นเรื่องอะไร ต้องรอให้ได้ข้อสรุปก่อน

นายธงทองกล่าวว่า ในส่วนของตนพูดคุยเรื่องของกฎหมายและแนวทางในการแก้ไขกฎหมายว่าจะทำอย่างไร เพราะมีที่ต้องแก้จำนวนมาก ต้องมาดูว่าเรื่องอะไรที่มีความสำคัญเร่งด่วน ทำแล้วจะอำนวยประโยชน์ให้กับการทำมาหากินของประชาชนในระยะยาวได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยนโยบาย จะมีผลต่อเศรษฐกิจอย่างไรว่า เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ ซึ่งการลดดอกเบี้ยเป็นการลดภาระ รวมถึงมีผลต่อความเชื่อมั่น เพราะบรรดาเงินกู้ที่อยู่ที่ในตลาด โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีลด์) น่าจะมีผลต่อผู้ที่ลงทุนรุ่นเก่า ดังนั้น ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นผลในทางบวก

นายพิชัยกล่าวว่า การที่ กนง.หยิบประเด็นที่เราควรพูดถึงคือหนี้บุคคลและหนี้เอสเอ็มอี ซึ่งชี้ถูกที่แล้ว แต่จะต้องมีสภาพคล่อง ดังนั้นต้องหาทางคุยกันต่อไป โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้มีการปล่อยสภาพคล่องเข้ามาในตลาดมากขึ้น ซึ่งธนาคารภาครัฐได้ทำเต็มที่แล้วทุกมิติ และทำจำนวนมาก จึงอยากเห็นทุกฝ่ายมาร่วมมือกันฟื้นฟูเศรษฐกิจและเพิ่มสภาพคล่อง ซึ่งการลดดอกเบี้ยลงน่าจะมีผลทำให้สภาพคล่องไหลกลับมาส่วนหนึ่ง

ทั้งนี้ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป คงต้องดู 2 เรื่องคือ 1.เราหนีไม่พ้นเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่คิดเฉพาะประเทศไทย ซึ่งต้องดูองค์ประกอบ แนวคิด วิธีคิด และแนวโน้มของประเทศที่มีผลต่อโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและยุโรป จึงหวังว่าไม่ใช่เฉพาะครั้งนี้ แต่ต้องมีการศึกษาติดตามอย่างใกล้ชิด และ 2.เงินเฟ้อปีนี้ คงไม่ถึง 1% ซึ่งหมายความว่าเราจะพลาดโอกาสในการทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีกเล็กน้อย เพราะเงินเฟ้อเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นภาคการผลิตทั้งหมดให้สามารถรองรับได้ ซึ่งคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาดู ต้องขอบคุณที่ดูอย่างละเอียดรอบคอบ และหวังว่าจะดูต่อเนื่อง

เมื่อถามว่า การประชุมครั้งหน้าคาดหวังหรือไม่ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องมากกว่า 0.25%  นายพิชัยกล่าวว่า เศรษฐกิจไทยผูกกับเศรษฐกิจโลกค่อนข้างมาก ต้องปรับปรุงภายในอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นต้องติดตามต่อเนื่องว่าสถานการณ์ในต่างประเทศจะมีแนวโน้มอย่างไร ซึ่งคณะกรรมการฯ ต้องคิดให้หนักว่าจะเป็นอย่างไร

ส่วนกรอบเงินเฟ้อควรปรับให้อยู่ที่ 2-3% หรือไม่นั้น นายพิชัยกล่าวว่า เราคาดหวังอย่างนั้น หากอยากช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้น ต้องตั้งให้สูงกว่าปัจจุบัน เพราะหากตํ่ากว่า 1% คงไม่ได้ ทั้งนี้ ปกติเราตกลงกันเป็นปีต่อปีอยู่แล้ว และช่วงนี้ใกล้สิ้นปี  ทุกฝ่ายต้องเตรียมข้อมูลเพื่อมาพิจารณาต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าปัจจัยอะไรทำให้ ธปท.พิจารณาลดดอกเบี้ย ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลขอให้ลดมาตลอด นายพิชัยกล่าวว่า ต้องไปถามคณะกรรมการ ธปท.

เมื่อถามยํ้าว่า เพราะมีความเชื่อมั่นต่อนโยบายหรือตัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ รองนายกฯ และ รมว.การคลังไม่ตอบคำถามนี้ แต่ระบุว่า คิดว่าจากนี้ไปทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ

วันเดียวกัน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีจำนวนผู้พิการที่ยังไม่ได้รับการจ่ายเงินตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 รายละ 10,000 บาท เนื่องจากยังไม่ได้ทำการต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ หรือยังไม่ได้ทำบัตรประจำตัวคนพิการให้สมบูรณ์ รวมทั้งมีผู้มีสิทธิที่กรมบัญชีกลางยังจ่ายเงินไม่สำเร็จ 381,287 ราย ดังนั้น กรมบัญชีกลางจึงได้กำหนดวันจ่ายเงินตามโครงการ ในรอบการจ่ายเงินซ้ำให้แก่ผู้มีสิทธิกลุ่มดังกล่าวให้เร็วขึ้น ดังนี้

รอบการจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 1 วันที่ 21 ต.ค.2567 สำหรับผู้ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการภายในวันที่ 10 ต.ค.2567 และสำหรับผู้ที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน/แก้ไขบัญชีภายในวันที่ 18 ต.ค.2567, รอบจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 2 วันที่ 21 พ.ย.2567 สำหรับผู้ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 12 พ.ย.2567  และสำหรับผู้ที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน/แก้ไขบัญชีภายในวันที่ 18 พ.ย.2567 และรอบจ่ายเงินซ้ำ ครั้งที่ 3 วันที่ 19 ธ.ค.2567 สำหรับผู้ทำบัตรหรือต่ออายุบัตรประจำตัวคนพิการ ภายในวันที่ 3 ธ.ค.2567 และสำหรับผู้ที่ผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขบัตรประจำตัวประชาชน/แก้ไขบัญชีภายในวันที่ 16 ธ.ค.2567 ทั้งนี้ เมื่อพ้นการจ่ายเงินซ้ำครั้งที่ 3 แล้ว จะยุติการจ่ายเงินให้แก่กลุ่มเป้าหมาย และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์รับเงิน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลงพื้นที่จชต. ยันไม่สู้เรื่องความรุนแรง แต่ต้องไปแก้ปัญหาหลายด้าน

นายกฯ บอกอย่ามองเหตุไม่สงบ ก่อนลงพื้นที่จชต. เป็นสัญลักษณ์ถึงรัฐบาล ยันไม่สู้เรื่องความรุนแรง แต่ต้องไปแก้ปัญหาทุกเรื่อง ชี้ เราโตช้า พร้อมซัพพอร์ตทุกจว.ให้สงบ

ลามหนัก! นายกฯอิ๊งค์ เผยโดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นผู้นำประเทศ หลอกให้โอนเงินบริจาค

นายกฯอิ๊งค์ เตือน ปชช. ระวังแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เผยโดนมาแล้วหลอกให้โอนเงินบริจาค ใช้ AI เอาเสียง อ้างเป็นผู้นำ แต่ไหวตัวทัน สั่ง 'ประเสริฐ' ช่วยดูต่อ

เปิดกำหนดการ นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 16 ม.ค.นี้

นายกฯ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 16 ม.ค.นี้ ร่วมมหกรรมแก้หนี้ -พบปะผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการ ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัด

ถามตรง นายกฯอุ๊งอิ๊ง ลาว กัมพูชา เมียนมา เปิดบ่อนกาสิโน มากมายนับสิบปี เศรษฐกิจดีจริงหรือ

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ถามตรงนายกอุ๊งอิ๊ง แบบไม่ต้องหันไปถามพ่อ