ฟัน‘พิศาล’เซ่นตากใบ จับตาเพื่อไทยขับพ้นพรรค จี้รบ.บี้ตร.ออก‘หมายแดง’

จับตาที่ประชุม "กก.บห.เพื่อไทย" ขับ "พิศาล" พ้นพรรคหรือไม่ "สมคิด" ยันหากไม่ไขก๊อก พรรคต้องขับออก โยนเป็นเรื่องส่วนตัว แต่พรรคต้องรักษาสถาบัน เผย "นายกฯ อิ๊งค์" ไม่กำชับ-สั่งการอะไร ขณะที่  "เท้ง" ซัดรัฐบาลไม่ชัดเจนปม "คดีตากใบ" สส.ส้มตอก!  หัดละอายอ้างเรื่องส่วนตัว รู้ดีเกิดขึ้นยุคไหน "ปริญญา" จี้รัฐบาลไล่บี้ตำรวจออกหมายแดง

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2567 นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ผู้ต้องหาคดีตากใบ ที่คดีกำลังจะหมดอายุความ พรรคเพื่อไทยจะขับออกก่อนหรือไม่ว่า ได้ประสานกับพรรคเพื่อไทยไป พยายามเร่งรัดให้ พล.อ.พิศาลเข้าสู่กระบวนการ  อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) ต้องรอดูคณะกรรมการบริหารพรรคจะจัดการอย่างไร ทั้งนี้หาก พล.อ.พิศาลไม่ลาออกจากตำแหน่ง สส. เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยต้องขับออก  เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาลที่เกิดมานานแล้ว เราพยายามรักษาความเป็นพรรคการเมือง ไม่ใช่ว่าใครทำผิดแล้วปล่อย

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การขับออกจะไม่ใช่การตัดหางปล่อยวัดใช่หรือไม่ รองเลขาฯ นายกฯ ตอบว่าไม่แน่ใจ พล.อ.พิศาลอาจจะลาออกจากสมาชิกพรรคเองก็ได้ คงจะมีการพูดคุยกัน โดยขณะนี้เลขาฯ พรรคได้ประสานไปยัง พล.อ.พิศาลแล้ว คาดว่าวันที่ 15 ต.ค.นี้จะได้คำตอบว่าจะดำเนินการอย่างไร

  นายสมคิดกล่าวอีกว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้กำชับหรือสั่งการอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากยังไม่ได้พูดคุยกัน จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่สมัยพรรคไทยรักไทย เป็นคดีต่อเนื่องมานาน เราต้องเคารพกฎหมายและต้องรอ พล.อ.พิศาล

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในวันที่ 25 ต.ค.นี้ว่า รัฐบาลสามารถใช้กลไกหลายอย่างในการประสาน พล.อ.พิศาลได้ สำคัญที่สุดคือการแสดงเจตจำนงทางการเมือง รัฐบาลอาจจะแสดงเจตจำนงที่ไม่ชัดเจนเพียงพอ ถ้าใช้กลไกทุกอย่างเต็มที่อย่างน้อยยังเหลือเวลาอีกไม่กี่วัน ที่จะดำเนินการทุกอย่างได้อย่างเต็มที่ เพื่อติดตามให้พลเอกพิศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พลเอกพิศาลจะกลับมาหลังสิ้นสุดอายุความนั้น ถ้ารอถึงวันนั้นประชาชนคงตั้งข้อสงสัยว่า ระหว่างที่คดีจะขาดอายุความ รัฐบาลได้ดำเนินการอย่างเต็มที่แล้วหรือยัง ก่อนหน้านี้ตนได้เคยแถลงข่าวไปแล้ว  เชื่อว่ารัฐบาลมีกลไกอีกหลายอย่างในการเจรจาผ่านวิธีทางการทูต หรือรัฐบาลต่อรัฐบาล ยังสามารถดำเนินการส่งตัวพลเอกพิศาลกลับมาดำเนินคดีได้

 "การติดตามจำเลยมาดำเนินคดีก่อนคดีหมดอายุความ การที่ไม่ดำเนินการอย่างเต็มที่ปล่อยให้คดีหมดอายุความแล้วค่อยมาขับออก หากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริง สังคมสามารถตั้งข้อสงสัยได้ว่า รัฐบาลมีความจงใจในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด เราหวังว่าจะไม่เกิดขึ้น" ผู้นำฝ่ายค้านระบุ

น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า เวลานี้ตนเชื่อว่าสังคมไม่ได้ต้องการ หรืออยากทราบว่าพรรคเพื่อไทยจะขับ พล.อ.พิศาลพ้นพรรคหรือไม่ แต่สิ่งที่สังคมกำลังจับตาคือ พรรคเพื่อไทยจะมีความรับผิดชอบต่อคดีนี้อย่างไร พรรคเพื่อไทยมีความพยายามตามตัวจำเลยมารายงานตัวต่อศาล ก่อนคดีหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ได้หรือไม่ต่างหาก

 “วันนี้ท่านจะขับหรือไม่ขับ พล.อ.พิศาลเป็นเรื่องของท่าน แต่ท่านจะจับตัวจำเลยมาได้หรือไม่นั้นเป็นเรื่องของคนทั้งประเทศ หรือสุดท้ายจะปล่อยให้ประวัติศาสตร์บันทึกว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไร้ความรับผิดรับชอบต่อคดีตากใบ ปล่อยจำเลยหลบหนีไปจนคดีหมดอายุความโดยไม่ทำอะไรเลย”

น.ส.ภคมนกล่าวต่อว่า การที่นายสมคิดกล่าวว่า ขณะนี้เลขาธิการพรรคได้ประสาน พล.อ.พิศาล เพื่อหารือว่าจะลาออกจากพรรคเองหรือไม่ ก็หมายความว่ามีการติดต่อพูดคุยกันได้ แล้วเหตุใดจึงไม่ดำเนินการในสิ่งที่ถูกที่ควร  หากเป็นเช่นนี้ตนพูดได้หรือไม่ว่า ท่านไม่มีความพยายามในการตามตัวจำเลยมาเข้ากระบวนการ

รองโฆษกพรรคประชาชนกล่าวด้วยว่า อีกหนึ่งประเด็นที่พรรคเพื่อไทยพยายามสื่อสารคือ คดีดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัว ตนคิดว่าท่านต้องละอายและหยุดสื่อสารแบบนี้ เพราะคดีนี้ทุกคนทราบดีว่าเกิดขึ้นในรัฐบาลที่มีอำนาจในขณะนั้น ซึ่งพูดให้ถึงที่สุดก็คือรัฐบาลอดีตพรรคไทยรักไทย ดังนั้นอย่าปัดความรับผิดชอบต่อชีวิตของประชาชน เพียงเพราะจะฟอกขาวทางการเมืองเลย โดยสรุปอีก 10 วันข้างหน้า คดีตากใบกำลังจะหมดอายุความ ตนและประชาชนคนไทยทั้งประเทศต้องการเห็นการแสดงความรับผิดชอบของพรรคเพื่อไทยต่อคดีดังกล่าวอย่างถึงที่สุด

ขณะที่นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลจะต้องแสดงออกอะไรบางอย่าง เพราะหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของรัฐบาล จึงต้องกำชับเรื่องนี้เพราะเหลือเวลาอีกประมาณ 10 วันเท่านั้น แล้วรัฐบาลได้ดำเนินการเรื่องนี้ได้ตามความคาดหมายของประชาชนหรือไม่ สิ่งสำคัญคือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของ พล.อ.พิศาล โดยในส่วนการขึ้นศาลอาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่หน้าที่ของรัฐบาลซึ่งมีอำนาจในการสั่งการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใคร เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น รถคันแรกซึ่งขนมวลชนมาก็เห็นแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น แต่จนกระทั่งคันสุดท้ายในการขนมวลชนกลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถดำเนินคดีเอาผิดผู้กระทำได้

 “ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มีนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นผู้บัญชา พึงกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการออกหมายแดง  ประสานงานกับตำรวจประเทศอื่น ใน 10 วันนี้ถ้าหากรัฐบาลไม่ทำอะไรออกมา ตามที่ควรจะเป็นตามความคาดหวังของประชาชน หลัง 25 ต.ค.นี้จะเป็นเรื่องที่กระทบกับรัฐบาลได้ เพราะปล่อยให้อายุความขาดไปโดยไม่ทำอะไร  จะจับตัวได้หรือไม่ เอามาขึ้นศาลได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่รัฐบาลต้องแสดงออกว่าได้กระทำเต็มที่แล้ว หาไม่แล้วเรื่องนี้จะถูกมองทันที และจะนำไปโยงกับกรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ว่ามีเจตนาในการช่วยเหลือลูกน้องหรือช่วยเพื่อนหรือไม่ ดังนั้นควรแสดงออกว่ารัฐบาลได้ดำเนินการในสิ่งที่ควรกระทำแล้ว”

นายปริญญากล่าวว่า ขณะนี้คะแนนนิยมของ น.ส.แพทองธารก็ดีขึ้น ถ้าเรื่องนี้ไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาจะถูกมองทันทีว่าเป็นการช่วยผู้ต้องหา ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีของรัฐบาล จริงๆ ระยะเวลาที่เหลืออยู่ 10 วันนั้นเป็นเรื่องยากที่จะได้ตัวมาขึ้นศาล แต่สิ่งที่คนรอดูมากกว่าคือท่าทีของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง