ไม่รอด!6บอสดิไอคอนเป็นผู้ต้องหา

"จิราพร" เผยดีเอสไอกำลังพิจารณา  "ดิไอคอนกรุ๊ป" เป็นคดีพิเศษ เตรียมตั้งคนนอกสอบปม "สคบ." มีเอี่ยว พร้อมจ่อเรียกคืนรางวัล เหยื่อแห่แจ้งความทะลุ 740 ราย เสียหาย 266 ล้านบาท ตำรวจยัน 6 บอสตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว "บิ๊กต่าย" กำชับ ตร. ต้องเป็นที่พึ่งประชาชน

ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับผู้ได้รับความเดือดร้อนจากดิไอคอนกรุ๊ปว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เปิดให้เข้ามาร้องทุกข์ ขณะนี้มีคนมาร้องทุกข์ 504 ราย ยอดความเสียหาย 118 ล้านบาท ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สคบ. ได้เข้าไปร่วมสอบสวน เพื่อเร่งสืบหาข้อเท็จจริงให้เร็วที่สุด เสาร์-อาทิตย์ไม่ได้หยุดทำงาน

 ผู้สื่อข่าวถามว่า จำนวนผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายเข้าเงื่อนไขเป็นคดีพิเศษ จะให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้เข้ามาช่วยดูแลคดีนี้ แม้หลักเกณฑ์จะเข้าเงื่อนไข แต่จะยกเป็นคดีพิเศษอยู่ที่การพิจารณาของดีเอสไอ ตอนนี้ดีเอสไอเข้ามาร่วมตรวจสอบ แต่ขณะนี้ถือว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติทำหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพในการดูแลคดีอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียหายไม่ว่าอยู่พื้นที่ใด สามารถร้องเรียนได้ที่สถานีตำรวจในท้องที่ของตนเอง และสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599

ส่วนกรณีมีกรณีคลิปเสียงปริศนาพาดพิง สคบ. โดยระบุว่ามีการติดสินบนเทวดา สคบ.นั้น  รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานหน่วยงานที่จะมาตรวจสอบ  เพราะอยากให้คนนอกเข้ามาร่วม เพื่อให้โปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด วันที่ 15 ต.ค.นี้ คงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีมีการมอบโล่รางวัลให้กับดิไอคอนกรุ๊ป กลายเป็นการการันตีบริษัท จะมีนโยบายกับเรื่องนี้อย่างไร น.ส.จิราพรกล่าวว่า บริษัทดังกล่าวได้บริจาคหน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ในช่วงโควิดปี 63 และในช่วงการสัมมนาของคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง สคบ.ส่งตัวแทนเข้าไปเป็นวิทยากรร่วม มีการเสนอชื่อรับรางวัลในปี 64 แต่เนื่องจากมีโควิด จึงมีการรับรางวัลในปี 65 เป็นรางวัลในการสร้างสาธารณประโยชน์ ไม่ได้เป็นรางวัลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแต่อย่างใด จึงให้ สคบ.กลับไปดูข้อเท็จจริงว่าบริษัทนำรางวัลไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น ทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าประกอบธุรกิจได้ดีจนได้รับรางวัล หากผิดลักษณะนี้จะขอให้เรียกรางวัลคืน

สำหรับกรณีนักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ดิไอคอนกรุ๊ป พยายามออกมาให้ข้อมูลว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จะทำให้พ้นผิดหรือไม่ น.ส.จิราพรกล่าวว่า เป็นสิทธิในการชี้แจง แต่ทุกคนต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ตำรวจกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริง หากมีข้อหาที่ชัดเจนคงมีการขยายผลต่อไป อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเช่นนี้เคยมีปัญหาในอดีต และมีการพัฒนาตามสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป หน่วยงานราชการต้องพัฒนาตัวเองตาม

สั่ง สคบ.รื้อ กม.ล้าสมัย

"สคบ.เร่งทำประเด็นที่เกี่ยวข้องกับตัวเองให้ชัดเจนที่สุด เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนโดยเร็ว ระยะยาวหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมาบูรณาการรับมือสิ่งที่เกิดขึ้น และดูกฎหมายบางตัวที่ล้าสมัยไม่ทันเหตุการณ์ ได้กำชับ สคบ.ไปว่า เราถือกฎหมายขายตรงและตลาดแบบตรง และกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากอนุญาตในการประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ต้องตรวจสอบอยู่ตลอด เพราะเท่าที่ดูเป็นลักษณะให้บริษัทแจ้งงบการเงินเข้ามา แต่ไม่ได้มีการตรวจสอบเชิงรุก ตรงนี้อยากให้มีการแก้ไขในอนาคต" รมต.ประจำสำนักนายกฯ ระบุ

ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่าหลังจากเปิดศูนย์รับแจ้งความ รวมถึงการบริการให้ความสะดวกในการแจ้งความทั่วประเทศ ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความตลอด 3 วันที่ผ่านมา พนักงานสืบสวนสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานคืบหน้าไปพอสมควร ในส่วนความคืบหน้าคดีนั้น ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อัคราเดช มอบหมายให้ พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เท่านั้นเป็นผู้แถลงต่อสื่อมวลชน เพื่อจะได้นำเสนอข่าวให้ประชาชนทราบ

"คดีดังกล่าวได้กำชับนโยบายไปกับคณะพนักงานสอบสวน โดยได้ปลูกฝังความคิดกับตำรวจทุกนายที่มีหน้าที่ในคดีนี้ว่า เราต้องทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทุกกรณี แม้ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาจะแก้ต่างอย่างไร ถือเป็นสิทธิตามกฎหมาย และการนำทนายความมาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างไร เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่ประชาชนที่ต้องสูญเสียเงินไปเขาไม่มีทนาย แต่เขาต้องมาแจ้งความมีความทุกข์ร้องทุกข์ด้วยตนเอง ซึ่งบรรดาประชาชนเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องหาเงินเลี้ยงดำรงชีพตัวเองโดยไม่คาดคิดว่าเงินดังกล่าวจะต้องสูญเสียไป ตำรวจต้องยืนยันให้ได้ว่า ในความเป็นตำรวจ  จะเป็นที่พึ่งที่ต้องดำรงความยุติธรรมในกระบวนการยุติธรรม และตำรวจต้องสวมบทบาทเป็นทนายให้แก่ประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย ที่จะว่าความให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประชาชน จนกว่าผู้กระทำความผิดจะได้รับโทษตามกฎหมาย หรือจนกว่าผู้เสียหายจะได้รับการชดใช้เยียวยาตามสมควร" ผบ.ตร.ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณชั้นสอง อาคารกองบังคับการปราบปราม ซึ่งจัดเป็นศูนย์รับแจ้งความการหลอกลงทุนของดิไอคอนกรุ๊ป ตั้งแต่ช่วงเช้ามีผู้เสียหายเดินทางเข้ามาแจ้งความและลงบันทึกกับเจ้าหน้าที่เป็นจำนวนมาก พบว่ามีประชาชนรอเข้าแจ้งความจนเก้าอี้เต็มทุกที่นั่ง และพนักงานสอบสวนที่จัดเตรียมไว้ถูกใช้ในการสอบปากคำผู้เสียหายเต็มทุกช่อง และยังมีประชาชนทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อแจ้งความอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ตำรวจจะจัดให้ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความจนกว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงเวลา 16.00 น. และจะเปิดรับแจ้งความอีกครั้งในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 09.00 น. พร้อมย้ำว่าสามารถแจ้งความคดีนี้ได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หากไม่รับแจ้งความจะมีความผิดขัดคำสั่ง เจ้าพนักงานมีโทษกักเวรกักยามหรือกักขัง

ต่อมาเวลา 15.30 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) แถลงความคืบหน้า ภายหลังจากมีผู้บริหารแม่ข่ายในเครือดิไอคอนกรุ๊ปเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ข้อมูลและแสดงความบริสุทธิ์ใจ

6 บอสเป็นผู้ต้องหาแล้ว

พล.ต.ต.โสภณกล่าวว่า วันนี้มีผู้แจ้งความ 240 ราย ที่เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ยอดรวมช่วง 4 วัน อยู่ที่ 740 ราย มูลค่าความเสียหายรวมประมาณ 266 ล้านบาท โดยได้มีการจัดพนักงานสอบสวน 70 นายต่อวัน แต่มีปัญหาติดขัดบ้าง เช่น เมื่อวันที่ 12 ต.ค. รายสุดท้ายที่มีการสอบปากคำเสร็จประมาณ 23.30 น. จึงต้องฝากย้ำประชาชนให้รับทราบว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางมาที่ บช.ก. เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มีหนังสือวิทยุสั่งการให้ทุกสถานีดำเนินการรับคำร้องทุกข์ของพี่น้องประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

รอง ผบช.ก.กล่าวว่า มีผู้เสียหายบางรายที่ไปฟ้องคดีเองพร้อมด้วยทนายความ ซึ่งในส่วนนี้มีจำนวนมาก เมื่อรวมกับผู้ที่เดินทางมาร้องทุกข์ คาดว่าวันนี้จะถึงประมาณ 800 ราย ทั้งนี้ มีกลุ่มผู้ต้องหาบางส่วนที่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และกลุ่มของบริษัทคือ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารดิไอคอนกรุ๊ป ส่วนของดารานักแสดงและผู้มีชื่อเสียงจำนวน 4 ราย ได้แก่ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือแซม, น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือมิน, นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือหมอเอก และนายกลด หรือปีเตอร์ และวันนี้ (13 ต.ค.) นายกันต์ กันตถาวร มาให้ปากคำแล้ว รวมเป็น 5 ราย ส่วนแม่ทีมมี 8 ราย ได้แก่ ปัน, สวย, จอย, โซดา, โอม, วิน, หญิง และป๊อป ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์และเจ้าตัวได้เข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจแล้ว

 “โดยสถานะของทั้ง 6 คน ได้แก่ บอสพอล, แซม, มิน, กันต์, บอสเอก และบอสปีเตอร์ ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว เนื่องจากมีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา” พล.ต.ต.โสภณกล่าว และว่า ตอนนี้ต้องดูในภาพรวมทั้งหมด ซึ่งคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 6 คนที่ให้การ เป็นสิทธิของผู้ต้องหาและเป็นความลับในสำนวน และการสอบสวนส่วนใหญ่บอกว่าจะชี้แจงเพิ่มเติม และขอให้การเพิ่มเติมเป็นเอกสารด้วย

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี อธิบายเพิ่มเติมว่า ขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานของผู้กล่าวหา คือสอบปากคำผู้เสียหาย แล้วจึงพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดฐานใด โดยต้องพิจารณาร่วมกับพยานหลักฐานข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ต้องนำมาประกอบการจนได้ข้อยุติ ทุกวันนี้ทำอยู่ ไม่ได้ล่าช้าอะไร อยู่ในขั้นตอนที่รวบรวมพยานหลักฐาน เมื่อรวบรวมแล้วมีหลักฐานมั่นคง แน่นอนตาม 134 วรรคสอง ดำเนินการขั้นตอนต่อไปว่าจะพิจารณาออกหมายจับอะไรต่อไป

ทั้งนี้ จากที่เมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการขออนุมัติหมายค้น 8 จุด ซึ่งต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม และมีความจำเป็นต้องนำวัตถุพยานและเอกสารที่ได้มา รวมทั้งข้อมูลในคอมพิวเตอร์มาประมวล และนำมาเชื่อมโยงกับข้อมูลพยาน ส่วนเข้าข่ายความผิดอันไหน ทางคณะพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ด้วยความรอบคอบ ทุกอย่างดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนกรณี นางอัยดา กันตถาวร หรือพลอย ภรรยาของนายกันต์ ถือว่าเป็นผู้ที่จะต้องตกเป็นผู้ต้องหาหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ต้องขออนุญาตไปตรวจสอบก่อน เพราะมีรายละเอียด มีผู้เสียหายจำนวนมาก วันนี้ยังมีบางคนที่มาให้การอยู่ บางคนกำลังเดินทางมา และยังมีคำร้องทุกข์ที่ประชาชนได้ไปร้องทุกข์อย่างพนักงานสอบสวนในท้องที่ตามภูมิลำเนา สำหรับบัญชีม้าได้รับการโอนเงิน ต้องมีการตรวจสอบ และข้อมูลที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีดารานักแสดงที่เป็นพรีเซนเตอร์ของสินค้าในเครือดิไอคอนกรุ๊ปประสานมาว่าจะเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจ

'กันต์' ให้ปากคำ 3 ชม.

ขณะที่ นายกันต์ กันตถาวร พร้อมนายวีรวัฒน์ สุขเกษา ทนายส่วนตัว ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ภายหลังเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกว่า 3 ชั่วโมงว่า วันนี้มาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ  นำข้อมูลมาแจ้งกับตำรวจ ให้ความร่วมมือกับตำรวจทุกอย่าง รวมทั้งได้นำหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับตำรวจเช่นเดียวกัน แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้  ซึ่งตอนนี้เรื่องเข้าสู่กระบวนการของคดีเรียบร้อยแล้ว ทางตำรวจจะดำเนินตามขั้นตอนทุกกระบวนการ ตนยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ ขอไม่แสดงความรู้สึกหรือความคิดเห็นใดๆ  เพราะตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายแล้ว ต้องขอโทษสื่อด้วย

"เรายินดีให้ข้อมูลทุกอย่าง เรายืนอยู่ข้างความถูกต้องเสมอ ผิดว่าไปตามผิด ถูกว่าไปตามถูก

ความเสียหายที่เกิดขึ้นผมขอโทษจากใจจริง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากอะไรก็แล้วแต่ และเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งก็จะได้ความชัดเจนออกมาโดยเร็วที่สุด” นายกันต์ระบุ

วันเดียวกัน บอสพอลได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ผมได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยการไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ในขณะนี้มีข้อมูลข่าวสารต่างๆ บนโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งเรื่องที่เป็นความจริงแค่บางส่วน แต่หลายข้อมูลเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง และคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงไปไกล ผมขอความร่วมมือจากพี่น้อง #TheiCon ทุกท่านที่ยังรักและเชื่อมั่นในบริษัทหลายคนยังมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจขายสินค้าต่อไป ไม่แปลกเลย เมื่อท่านได้เห็นข่าวสาร หรือข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ที่ถูกแชร์โดยสื่อต่างๆ อาจทำให้ทุกท่านรู้สึกไม่สบายใจ และมีความต้องการที่จะตอบโต้หรือชี้แจง และแสดงความคิดเห็นในอีกแง่มุมหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ผมขอความร่วมมือจากทุกท่าน ไม่ตอบโต้ด้วยอารมณ์ หลีกเลี่ยงการคอมเมนต์ที่พาดพิงหรือกระทบกระเทียบผู้อื่น หรือกล่าวถึงใครในทางที่ไม่ดี เราควรดำเนินการทุกอย่างด้วยความสุภาพและอยู่ในกรอบที่เหมาะสมครับ ผมยังคงเชื่ออยู่เสมอว่า ความถูกต้องจะคุ้มครองเรา"

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ต.ค. เวลา 10.00 น. ที่ บช.ก. (ตึกหน้า) ตนเอง, ทนายแก้ว มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล, ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต,  ทนายเกิดผล แก้วเกิด, สายไหมต้องรอด, มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม, ทนายรัชพล ศิริสาคร, ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์, ทนายพัฒน์ ทนายเมียหลวง จะพาผู้เสียหายจากการกระทำของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ แจ้งความดำเนินคดีบอสทุกคน ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้เงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และความผิดฐานฟอกเงิน.