"กมธ.กฎหมาย-มั่นคง" เชิญหน่วยงานแจงความคืบหน้าคดีตากใบ รุมจี้เดือดปม 2 จำเลยออกนอกประเทศจริงหรือไม่ ตร.แจงส่งหมายจับไปยังกองการต่างประเทศเพื่อประสานอินเตอร์โพลเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ 7 ต.ค. รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยเสนอนายกฯ และผู้นำฝ่ายค้านควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชน
เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่มีนายกมลศักดิ์ ลีวาเมะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ เป็นประธาน โดยมีวาระพิจารณาศึกษาการติดตาม จับกุมจำเลยและผู้ต้องหา ตามหมายจับของศาลกรณีคดีการสลายการชุมนุมที่อำเภอตากใบ และแนวทางการเตรียมรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคดีหมดอายุความ ร่วมกับ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ส่งตัวแทน 3 คนเข้าร่วม พร้อมทั้งเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลต่อ กมธ.
ช่วงหนึ่งในการประชุม พ.ต.ท.เสกสันต์ คงคืน รองผู้กำกับการ (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ชี้แจงไทม์ไลน์ในการดำเนินการของคดีตากใบ และได้ย้ำว่ารักษาการผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ลงพื้นที่ไปประชุมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และได้มีการสั่งการกำชับการปฏิบัติ และมีหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เร่งรัดการจับกุมส่งไปยังทุกหน่วยงานทั่วประเทศเพื่อดำเนินการตามหมายจับ
จากนั้น นายวิทยา แก้วภราดัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามถึงบุคคลที่อยู่ในหมายจับได้ส่งรายชื่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) แล้วหรือไม่ ด้าน พ.ต.อ.รังษี มั่นจิตร ผู้กำกับการซักถาม 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า มีหนังสือแจ้งไปแล้ว หากบุคคลที่มีหมายจับจากศาลนราธิวาสและศาลปัตตานีมีการออกนอกประเทศ ตม.ก็จะมีการแจ้งเตือนเข้ามา ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานไปยังอินเตอร์โพล ทั้งนี้ ขออนุญาตไม่เปิดเผยรายละเอียด
จากนั้นนายกมลศักดิ์จึงถามว่า สามารถแจ้งต่อที่ประชุมได้หรือไม่ว่าขณะนี้มีผู้ต้องหาเดินทางออกนอกประเทศไปกี่ราย เพราะตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไม่ลับ โดย พ.ต.อ.รังษีกล่าวว่า สามารถตอบได้ว่ามี 2 ราย แต่ไม่สามารถระบุชื่อบุคคลได้
โดยนายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ ได้ตั้งคำถามว่า คำถามที่ประชาชนสงสัยคือผู้ต้องหาทั้ง 14 คนอยู่ที่ไหน อีกทั้งจากการที่ตนทราบข้อมูล มีบุคคลที่อยู่ต่างประเทศจำนวน 2 ประเทศ ได้แก่คนแรกอยู่ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ อีกคนอยู่ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จึงอยากให้ช่วยยืนยันว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงนี้ใช่หรือไม่
นายรอมฎอนกล่าวต่อว่า ถ้าใช่ตามข้อเท็จจริง ท่านได้มีความพยายามสื่อสารไปถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบการจับกุมในต่างประเทศหรือไม่อย่างไร พร้อมตั้งคำถามอีกว่า ในกรณีคดีอาญาที่ร้ายแรงแบบนี้ ถ้าไม่สามารถทำได้จริงๆ ช่วยชี้แจงว่าประชาชนจะสามารถช่วยจับกุมผู้ต้องหาอย่างไรได้บ้าง
จากนั้น พ.ต.อ.รังษีได้ตอบคำถามนายรอมฎอนว่า ผู้ต้องหาทั้ง 14 รายอยู่ที่ไหนนั้น ถ้าวันนี้ทราบเราคงจับได้ไปแล้ว ซึ่งเรากำลังตามอยู่ และไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน ส่วนคำถามที่ให้ยืนยันว่ามีบุคคลหลบหนีไปประเทศอังกฤษและญี่ปุ่นนั้น ถือว่าเป็นการให้เบาะแส
ขณะที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช ในฐานะที่ปรึกษา กมธ.ความมั่นคงฯ กล่าวว่า ในบรรดาผู้ที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด โดยเฉพาะบุคคลที่หนีออกนอกประเทศ หากเป็นไปตามข้อมูลที่ปรากฏว่าอยู่ที่สหราชอาณาจักร 1 คน และประเทศญี่ปุ่น 1 คน ซึ่งเราสามารถขอความร่วมมือผ่านกลไกอินเตอร์โพลกับ 2 ประเทศดังกล่าวได้ด้วยการออกหมายแดง
ด้าน พ.ต.อ.รังษีกล่าวว่า เราได้ส่งหมายจับไปยังกองการต่างประเทศเพื่อประสานไปยังอินเตอร์โพลเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
จากนั้น นายคุณากร มั่นนทีรัย สส.นนทบุรี พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ. ได้ถามย้ำถึงขั้นตอนการดำเนินการจับกุมว่าขณะนี้ไปถึงไหนแล้ว ด้าน พ.ต.ท.เสกสันต์กล่าวว่า คดีความมั่นคงที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนใต้ ณ วันนี้ มีทั้งหมด 10,593 คดี และมีหมายจับผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงอีกกว่าพันหมาย ซึ่งเราสืบสวนและจับกุมมาตั้งแต่ปี 47 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม้จะผ่านมา 20 ปี เราก็ยังจับไม่ได้ เพราะผู้ต้องหามีการเคลื่อนไหวแต่ละวันคนละที่ ดังนั้นเราไม่สามารถประเมินเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ว่าใครจะหลบหนีไปที่ใด แต่ยืนยันว่าแนวทางการสอบสวนต้องเป็นเรื่องลับ จากนั้นนายคุณากรจึงตอบกลับว่า จากที่ตนได้ฟัง หากเปรียบเทียบการดำเนินการเป็น 5 ระดับ ตนประเมินว่าอยู่ในระดับแค่ 0-1
วันเดียวกันนี้ นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ แถลงผลการประชุม กมธ.ว่า ที่ประชุมพิจารณาติดตามผู้ต้องหาคดีตากใบ หลังจากที่ศาลจังหวัดนราธิวาสมีการประทับฟ้องและออกหมายจับจำเลย 7 คน และอัยการสูงสุดเห็นแย้งกับพนักงานสอบสวน ที่มีคำสั่งสั่งฟ้องผู้ต้องหา 8 คน รวมทั้งหมด 14 คน ซ้ำกับจำเลยเดิม 1 คนนั้น คดีดังกล่าวมีผู้ต้องหาจำนวน 14 คน โดยมีผู้ต้องหาที่อยู่ในประเทศไทย 12 คน เป็นข้าราชการและยังรับราชการอยู่ 2 คน ซึ่งทางตำรวจได้ประสานกับผู้บังคับบัญชาของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว และคาดว่ามีผู้ต้องหาอีก 2 คนอยู่ต่างประเทศ โดยได้ประสานไปยังกองการต่างประเทศเพื่อออกหมายติดตามตัวแล้ว
“ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ก่อนวันที่ 25 ตุลาคม หรือภายในวันที่ 25 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันหมดอายุความในคดีดังกล่าว ทางอัยการยืนยันว่าพร้อมเตรียมประทับรับฟ้อง และยื่นฟ้องเรียบร้อยหากจับคนไหนมาได้แม้ในวันสุดท้ายก็ตาม” นายกมลศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า จำเลยกับผู้ต้องหาที่หนีคดี และไม่ยอมไปขึ้นศาลจนกระทั่งหมดอายุความ เช่น พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 จะต้องลาออกจากตำแหน่ง สส.หรือไม่ นายกมลศักดิ์กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความสำนึกของแต่ละบุคคลว่าเขาจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หาก พล.อ.พิศาลทราบอยู่แล้วว่ามีหมายจับ แทนที่จะมามอบตัวสู่คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลับหันหลังให้กับกระบวนการเพื่อให้ขาดอายุความ
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรค และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชน (Public Apology) ต่อเหตุการณ์ "คดีตากใบ" ในอดีต แม้เหตุการณ์จะผ่านพ้นไปนานเพียงใดก็ตาม การให้ความเห็นดังกล่าวตนนำมาจากรายงานการศึกษาของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เรื่องแนวทางการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ
"ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน ฯลฯ ควรกล่าวขอโทษต่อสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศขณะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง และนายกรัฐมนตรีที่บริหารประเทศอยู่ในปัจจุบัน ควรแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะต่อเหยื่อของความรุนแรง เนื่องจากรัฐมีความบกพร่องและขาดกลไกที่มีประสิทธิภาพในการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองให้ดำเนินไปตามสันติวิธี จนเกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และความรู้สึกของประชาชนอย่างมาก" นายชวลิตกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กังขาเก็บ‘MOU44’ไว้หาประโยชน์
"สนธิญา" บุกทำเนียบฯ จี้ "นายกฯ-ครม." ยกเลิก MOU 44
สนอง‘พ่อนายกฯ’ คลังแจกเงินหมื่น คนอายุ60ปีขึ้นไป
รมว.คลังรับลูก "ทักษิณ" แจกเงินหมื่นคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เผยใช้งบไม่มาก
รฟท.จี้กรมที่ดินทบทวนมติ มท.โบ้ยต้องไปยื่นศาลแพ่ง
"อนุทิน" ลั่นปัญหาเขากระโดงจบในกรม อย่าโยง รมว.มหาดไทย
ตร.รอคำสั่งศาล จ่อตั้งรองผบ.ตร. สอบวินัยบิ๊กโจ๊ก
“บิ๊กต่าย” ขอไม่ก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลปกครองสูงสุด แจงไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรพร้อมปฏิบัติตาม
‘แม้ว’โทษม.112 ชงแก้การบังคับใช้
"ทักษิณ" เผยธาตุแท้ อ้างพรรคร่วมรัฐบาลลงสัตยาบันไม่แตะ ม.112 แต่ ม.112
จวกทักษิณลวงโลก! ลืมสัจจะวาจาไม่ยุ่งการเมืองจะกลับมาเลี้ยงหลาน
ฮึกเหิม! "สทร." บอกเห็นมวลชนมาเยอะหัวใจพองโต ซัดพวกอิจฉาหาครอบงำ