“แพทองธาร” ตื่น! เรียกผู้เกี่ยวข้องถกสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน “สภาสูง” ชงญัตติด่วน ซูเปอร์โพลเผยคนกว่า 99% ต้องการปฏิรูประบบความปลอดภัยโดยรวม 81% โพลเผยถกสร้างความปลอดภัยบนท้องถนน "ชี้บริษัทรถบัสต้องรับผิดชอบ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2567 เวลา 10.40 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมในทุกรูปแบบ หารือเรื่องความปลอดภัยทางถนน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับฟังปัญหาการคมนาคมในทุกรูปแบบของประเทศ ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ รวมถึงแนวทางแก้ไขป้องกันทั้งระบบ โดยเฉพาะการเดินทางทางถนนให้มีความปลอดภัยได้มาตรฐานการคมนาคม
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 7 ต.ค. มีวาระพิจารณาที่สำคัญ คือญัตติด่วน เรื่องขอให้วุฒิสภาพิจารณาหาแนวทางในการป้องกัน แก้ไข และช่วยเหลือเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากกรณีเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียน เพื่อเสนอไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาดำเนินการ ซึ่งเสนอโดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. นอกจากนั้นในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคมนาคม ที่มีนายวุฒิชาติเป็นประธาน ได้นัดประชุม กมธ. ในวันที่ 7 ต.ค. เวลา 13.30 น. เพื่อพิจารณากรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ได้แก่ กรมการขนส่งทางบก สมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) และผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วม
วันเดียวกัน สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความปลอดภัยรถทัศนศึกษา ใครต้องรับผิดชอบ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ รวม 1,006 ตัวอย่าง โดยผลสำรวจเมื่อถามถึงความต้องการให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของโรงเรียน พบว่า 98% ต้องการ และ 2% ไม่ต้องการ ทั้งนี้ เมื่อถามความจำเป็นต้องมีทัศนศึกษานอกสถานที่ พบว่า 66.8% บอกยังจำเป็นต้องมีทัศนศึกษานอกสถานที่ และ 33.2% ไม่จำเป็น
ถามถึงความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ต่อความปลอดภัยของรถทัศนศึกษา พบว่า 81.4% เจ้าของรถบัสทัศนศึกษา บริษัทบริการขนส่ง, 79.9% โรงเรียนที่จัดทัศนศึกษา, 67.9% กรมขนส่ง, 64.2% กระทรวงศึกษาธิการ และ 2.3% อื่นๆ
สอบถามถึงมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความไม่ปลอดภัยของรถทัศนศึกษา ผลสำรวจพบว่า 98.6% ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบความปลอดภัย, 97.6% เตรียมความพร้อมและมีมาตรการรับมือฉุกเฉิน, 97.4% อบรมพนักงานขับรถให้มีมาตรฐานความปลอดภัย, 96.5% อบรมคณะครู ควบคุมการเดินทางปลอดภัย, 95.8% อบรมนักเรียน รู้จักเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ 94.3% ประเมินความเสี่ยงและตรวจสอบก่อนเดินทาง
“สุดท้ายเมื่อถามถึงความต้องการให้ปฏิรูปความปลอดภัยในการเดินทางทั้งระบบครอบคลุมทุกกลุ่ม พบว่า 99.2% ต้องการให้ปฏิรูปความปลอดภัยทั้งระบบครอบคลุมทุกกลุ่ม ไม่ใช่เฉพาะนักเรียน มีเพียง 0.8% ไม่ต้องการ”
สำนักวิจัยซูเปอร์โพลยังมีข้อเสนอแนะว่า 1.การตรวจสอบและบำรุงรักษา ควรมีการตรวจสอบความพร้อมของรถทัศนศึกษาอย่างสม่ำเสมอ และใช้ขั้นตอนมาตรฐานในการประเมินความเสี่ยงก่อนการเดินทาง 2.การอบรมและเตรียมความพร้อม ควรมีการอบรมพนักงานขับรถ คณะครูและนักเรียน เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและการเตรียมพร้อมรับมือฉุกเฉิน และ 3.การปฏิรูประบบความปลอดภัยโดยรวม เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มและทุกสถานการณ์การเดินทาง ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนักเรียนเท่านั้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หั่นค่าไฟ3.99บ. บ้านเพื่อคนไทย ฉลุย4โครงการ
ครม.สั่งลดค่าไฟงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.2568 ไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย
สั่งทำแผนรับมือภัยพิบัติ-เยียวยา
"นายกฯ อิ๊งค์" ขอให้ทุกคนเข้มแข็ง ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน สั่ง 8 กระทรวงเร่งหามาตรการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทุกมิติ
คดีพิเศษ!ตึกสตง.‘ฮั้ว-นอมินี’
นายกฯ อิ๊งค์ขึงขังกู้ภาพพจน์ประเทศ บอกตึก สตง.ถล่ม
จับตา‘อิ๊งค์’บุกถิ่นเนวิน/แม้วอ้อนป๋าเหนาะ
นายกฯ “อิ๊งค์” บุกถิ่นบุรีรัมย์ 3 เม.ย.นี้ จับตาพบ “เนวิน” ผ่านงานให้นโยบาย
กาสิโนด่วนจี๋3เม.ย. ปธ.สภาสนองบรรจุวาระ นักวิชาการ-ม็อบฮือต้าน
“อิ๊งค์” บอกต้องคุยกันก่อนส่งร่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้าสภา “ชูศักดิ์” วอนอย่ามองเร่งรัด อ้างเป็นเรื่องที่แถลงต่อสภาไว้ไม่ได้ทำโดยพลการ รับ สว.อาจไม่เห็นด้วย
‘อิ๊งค์’เรตติงร่วง‘เท้ง’แซง คุก1ปี‘สิระ’ลักไก่สมัครสส.
สวนดุสิตโพลเผย "ดัชนีการเมืองไทย" หลังศึกซักฟอก "อิ๊งค์" เรตติงร่วง! "เท้ง" แซง 10%