"จุรินทร์" แนะแก้รัฐธรรมนูญปมจริยธรรม โยนระเบิดทิ้งไปแล้ว อย่าเก็บเอามากอดไว้อีก ด้าน "อัครเดช" ย้ำไม่จำเป็นต้องเร่ง ชี้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนสำคัญกว่า ขณะที่ "นันทนา" เผยร่าง พ.ร.บ.ประชามติยังไม่ถูกส่งกลับให้ สส. ข้องใจเป็นแผนเตะถ่วงของ สว. ชี้ประชามติรอบแรกต้นปี 68 ไม่ทันแน่
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราเรื่องจริยธรรมว่า การที่หลายพรรคการเมืองตัดสินใจยุติการเดินหน้าเรื่องนี้เพื่อลดการถูกกล่าวหาว่าแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง เป็นเรื่องที่ดีและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่ประเทศยังมีปัญหาเฉพาะหน้าที่จะต้องเร่งแก้ไขจำนวนมาก โดยเฉพาะในเรื่องน้ำท่วมและเศรษฐกิจ ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่คุกคามประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเมื่อหมดแรงขับจากการแจกเงินหมื่นแล้วปัญหาเดิมก็จะกลับมาปะทุอีก จึงควรมีแนวทางที่ชัดเจนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจคู่กับการแก้ปัญหาไว้ล่วงหน้าที่ตรงจุด
นายจุรินทร์กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราปมจริยธรรมว่า การถอยเรื่องนี้จากการแสดงออกของหลายพรรคการเมืองคือการถอดสลักระเบิด แต่ถ้าจะเดินหน้าต่อไปอีกให้ได้ มันก็จะเหมือนไปเอาระเบิดที่พร้อมระเบิดมากอดไว้กับตัวอีก เพราะนอกจากจะเป็นการตอกย้ำการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตัวเองที่ประชาชนไม่ได้อะไรแล้ว ยังเป็นการแก้ที่ทำมาตรฐานการเมืองที่กำลังสูงขึ้นให้ลดต่ำลงไปอีกด้วย
ด้านนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี ในฐานะโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า จากที่มีการรายงานข่าวถึงความเห็นของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นสามารถรอได้ ตนเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับความคิดเห็นดังกล่าว เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ทุกภาคส่วนควรเร่งใช้สรรพกำลังในการแก้ไขปัญหาและช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม รวมถึงเตรียมแนวทางการแก้ไขปัญหาหากเกิดเหตุซ้ำ
“สุดท้ายนี้ผมขอย้ำว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หรือเรื่องการเมืองนั้น มีระยะเวลากระบวนการทำงานของการแก้รัฐธรรมนูญอยู่ ไม่จำเป็นต้องไปเร่งรัดแต่อย่างใด สิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนคือปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม” นายอัครเดชกล่าว
ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การออกเสียงประชามติ พ.ศ..… วุฒิสภา กล่าวถึงกรณีวุฒิสภามีมติเห็นชอบให้แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประชามติ กลับไปใช้เสียงข้างมากสองชั้นในการแก้รัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ทางวุฒิสภายังไม่ได้ส่งร่างที่แก้ไขกลับไปให้สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ หากส่งไปแล้ว สส.มีท่าทียืนยันจะใช้เสียงข้างมากแบบง่าย ก็ต้องกลับมาตั้ง กมธ.ร่วมเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งตนมองว่าเป็นการเตะถ่วง แทนที่จะรีบส่งไป เพราะ สว.มีมติตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่า สส.และ สว.จะตกลงกันในชั้น กมธ.ร่วมได้หรือไม่ สว.ผู้นี้ตอบว่า อำนาจอยู่ที่ สส. หาก สส.ยืนยันเรื่องเสียงข้างมากแบบง่าย กฎหมายฉบับนี้ก็ต้องรอไปอีก 180 วัน เพื่อยืนยันและประกาศใช้
เมื่อถามย้ำว่า หากเป็นเช่นนี้ก็ไม่ทันกรอบเวลาทําประชามติครั้งแรกในต้นปี 68 ใช่หรือไม่ น.ส.นันทนากล่าวว่า หากต้องตั้ง กมธ.ร่วม ก็ไม่ทันแล้ว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สั่งประหารชีวิต ‘แอม ไซยาไนด์’ คุกผัวเก่า-ทนาย
ศาลพิพากษาประหารชีวิต "แอม ไซยาไนด์" วางยาฆ่าก้อย พร้อมชดใช้ 2.3 ล้าน
ธ.ค.เปิดชื่อแจกหมื่นเฟส2 หั่นเงินส่งFIDFแลกแก้หนี้
“คลัง” ปักธงแจกหมื่นเฟส 2 เป็นเงินสด ให้กลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป 4 ล้านราย
ผบ.ทร.ดันฟริเกต2ลำ ลุ้นไฟเขียว‘เรือดำน้ำ’
ผบ.ทร.ดันฟริเกต 2 ลำ งบปี 69 เล็งใช้อู่ในประเทศต่อเรือ
พท.ขู่ฟ้องกลับธีรยุทธ
"นายกฯ อิ๊งค์" วางคิวแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 100 วัน 12 ธ.ค.
พลิก!สยามผบช.น. สันติไปปส.น้องเสธ.หิคุมไซเบอร์/ประสบการณ์ใหม่‘อิ๊งค์’
"นายกฯ" นั่งหัวโต๊ะ ก.ตร. ลากยาว 4 ชม. ถกแต่งตั้ง 41 นายพลสีกากีระดับรอง
สส.แพ้! กมธ.ประชามติ ฝั่ง สว. โหวตชนะ ใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น แก้รัฐธรรมนูญ
นายกฤช เอื้อวงศ์ สว. พร้อมด้วย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ แถลงผลการประชุมครั้งที่ 3 เพื่อหาข้อยุติในมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.