‘กลาโหม’ กำชับ กำลังพลไม่แผ่ว ฟื้นฟูภัยนํ้าท่วม

"บิ๊กอ้วน" กำชับเหล่าทัพ ระดมกำลังในการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เน้นย้ำ ศปช.สน.  ประสานงานร่วมกับทุกภาคส่วน พร้อมเร่งดูแลบริบาลสัตว์ของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างฯ ให้ปลอดภัย "อนุทิน" ลงพื้นที่แม่สายอีกรอบ ยอมรับถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันหนักขนาดนี้

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า  ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย  บางส่วนเข้าสู่การฟื้นฟู แต่บางพื้นที่ต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในขณะที่ จ.เชียงใหม่ มีฝนตกหนักตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงเพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าสู่ลำน้ำสาขา ประกอบกับมวลน้ำใหม่ไหลไปสมทบกับมวลน้ำก้อนเดิม ส่งผลให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเขตเทศบาลนครเชียงใหม่และพื้นที่ลุ่มต่ำ

จากสถานการณ์ดังกล่าว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศปช. ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์และผลกระทบ รวมถึงสั่งการให้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงใหม่อย่างเต็มขีดความสามารถ รวมถึงติดตามการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ พร้อมกำชับให้เหล่าทัพระดมสรรพกำลัง ยุทโธปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ เข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การป้องกัน ช่วยเหลือและฟื้นฟูหลังอุทกภัย

พล.ต.ธนาธิปกล่าวอีกว่า ได้มีการบูรณาการร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกองบัญชาการกองทัพไทย โดย สนภ.3 นทพ., กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 3, กองทัพเรือ โดย นรข.เขตเชียงราย  และกองทัพอากาศ โดย บน.41 และ บน.46 ระดมกำลังพลรวมกว่า 30,000 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ของกองทัพ อาทิ รถยนต์บรรทุก-รถโดยสารขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ รถขุดตัก รถโกยตัก รถปั้นจั่น รถครัวสนาม รถสุขา กว่า 1,772 คัน เรือชนิดต่างๆ 134 ลำ ตลอดจนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สะพาน ชุดประปาสนาม เครื่องวัดความลึก เครื่องสูบน้ำ รวมกว่า 283 เครื่อง ซึ่งจากการนำยุทโธปกรณ์ดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการช่วยเหลืออุทกภัยในครั้งนี้ ถือเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์ต่อประชาชนสูงสุด

พร้อมกันนี้ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้เน้นย้ำให้ ศปช.ส่วนหน้า เร่งบูรณาการ ประสานการปฏิบัติกับทุกภาคส่วนอย่างเป็นระบบ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว โดย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ในฐานะประธาน ศปช.ส่วนหน้า ได้อำนวยการและมอบหมายการแบ่งพื้นที่ พร้อมกำหนดผู้รับผิดชอบให้มีความชัดเจน ขณะที่ รมช.กลาโหม ในฐานะที่ปรึกษาฯ  ได้ให้คำแนะนำในการจัดกำลังยุทโธปกรณ์ เครื่องจักรสนับสนุนภารกิจ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างประสานสอดคล้องและรวดเร็ว

โดยวานนี้ รมช.มหาดไทยและ รมช.กลาโหม  ได้ลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลืออพยพเจ้าหน้าที่และสัตว์ของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ไปยังที่พื้นที่ปลอดภัย ประกอบด้วย ช้าง 124 เชือก, แมว 1,600 ตัว, สุนัข 700 ตัว, โค 90 ตัว, กระบือ 100 ตัว โดยได้สั่งการให้หน่วย ร.17 พัน.2, บน.41 ร่วมกับ สบอ.16, บก.ตชด.ภาค 3 เจ้าหน้าที่ป่าไม้ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปศุสัตว์เชียงใหม่ และ ปภ.เชียงใหม่ จัดกำลังพลพร้อมรถบรรทุก เรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้สามารถเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่รวมถึงสัตว์ในมูลนิธิฯ แมว สุนัข โค กระบือ ทั้งหมดไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้เรียบร้อยแล้ว โดยวันนี้คาดว่าจะสามารถทำการอพยพช้างที่เหลือไปยังพื้นที่ปลอดภัยได้ พร้อมกับได้เตรียมการขนส่งอาหาร เวชภัณฑ์ ไปช่วยเหลือช้างและสัตว์เล็กในพื้นที่แล้ว

เริ่มคลี่คลายแต่ยังต้องเฝ้าระวัง

“ถึงแม้แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือหลายส่วนอยู่ในระดับเริ่มคลี่คลาย-เฝ้าระวังในบางจุด แต่ยังคงมีบางพื้นที่ต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ที่ระดับน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีฝนตกหนัก ทำให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงได้มีการนำเครื่องสูบน้ำแรงดันสูงไปติดตั้งประจำทุกจุดที่มีความเสี่ยง โดยเช้านี้บางพื้นที่มีระดับน้ำลดลง สามารถเดินทางสัญจรได้ จึงได้บูรณาการจัดกำลังทหารเข้าช่วยเหลือประชาชน ฟื้นฟูบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย อีกทั้งได้จัดกำลังเฝ้าระวัง-ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชม. เพื่อเตรียมพร้อมรับมือและให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที” โฆษกกลาโหมกล่าว

ที่สะพานด่านแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการฟื้นฟูในพื้นที่ พร้อมฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ ซึ่งพบว่าการอุดรอยรั่วตามแนวบิ๊กแบ็กมีบางจุดเกิดรอยรั่ว ตามแนวใต้ถุนอาคารที่ยังไม่สามารถซีนแนวน้ำได้ เจ้าหน้าที่รายงานด้วยว่ามีการปลูกสิ่งก่อสร้างรุกล้ำแนวลำน้ำ ทำให้พื้นที่การระบายน้ำเหลือน้อยลง เป็นเหตุให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง ขณะที่สถานการณ์น้ำ​ในแม่น้ำสาย บริเวณสะพานข้ามด่านแม่สาย​ ปริมาณน้ำลดลงจากเมื่อวานแล้ว​ ส่งผลให้ตลาดสายลมจอยและพื้นที่ชุมชนเกาะทรายที่ถูกน้ำหลากเข้าท่วมเริ่มกลับมาสู่สภาวะปกติ​ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเร่งกำจัดดินโคลน​และสูบน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่​

จากนั้นนายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ได้ระดมหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งทหาร พลเรือน และภาคประชาชน เข้าทำการฟื้นฟูในพื้นที่มาเป็นสัปดาห์แล้ว ซึ่งที่จังหวัดเชียงรายไม่น่าห่วง เพราะส่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยมาทำหน้าที่รักษาการผู้ว่าราชการจังหวัด เพราะจังหวัดเชียงรายไม่มีรองผู้ว่าฯ ที่ติดภารกิจอื่นๆ หรือจะเกษียณอายุราชการ พร้อมกับขอบคุณนายอำเภอแม่สาย ที่แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการไปแล้วแต่ก็ยังมาช่วยงาน ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งแต่งตั้งนายอำเภอแม่สายเพื่อคอยกำกับดูแลสถานการณ์ประสานงานให้เรียบร้อย และจากการดำเนินงานน่าจะเคลียร์ทุกอย่างได้ไม่เกินสิ้นเดือนตุลาคม แต่เราก็จะทำให้เร็วที่สุด หนักหน่อยก็ตลาดสายลมจอย เพราะเกิดจากข้างล่างมีช่องโหว่มาก ทะลักสร้างความเสียหายหนัก ผู้ประกอบการทั้งหลายก็น่าเห็นใจ เพราะทั้งร้านค้าและสินค้าก็ถูกทำลาย ซึ่งจะต้องไปดูว่าจะต้องเยียวยาอย่างไร

'อนุทิน' เห็นกับตาหนักมาก

นายอนุทินกล่าวว่า การเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม จะปรับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้เป็นไปตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี ว่าจะให้มีการเยียวยาสูงสุด 9,000 บาทต่อหลังคาเรือน และยังมีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกรมบัญชีกลาง ให้เงินค่าล้างโคลนบ้านละ 10,000 บาท เราจะพยายามช่วยเหลือประชาชนมากที่สุด ขณะที่ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่รับตำแหน่งก็ยังไม่ได้เข้ากระทรวง เพราะมาลงพื้นที่เชียงใหม่ เชียงรายอยู่ตลอด และได้บัญชาการประสานงานขอความช่วยเหลือสนับสนุนต่างๆ  ทำให้สิ่งที่จำเป็นทั้งหมดมาถึงรวดเร็ว นี่คือการบูรณาการอย่างจริงจัง ซึ่งจะเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

เมื่อถามถึงกรณีน้ำท่วมปางช้างที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุทินกล่าวว่า ทราบเรื่องแล้ว ซึ่งพบว่าล้ม 1 ตัว โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เร่งทำงานอยู่ตลอด ตอนนี้พยายามเร่งแล้วช่วยเหลือทั้งเชียงใหม่และเชียงราย ยืนยันว่ามีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ นายอนุทินและคณะยังเดินทางไปยังชุมชนเกาะทราย​ อ.แม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบ เงินให้กับอาสาสมัครคนละ 1,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ พร้อมระบุว่า​ เงินเดือน มท.1  เดือนนี้​ยกให้ อส. แต่ดูแล้วไม่น่าพอนะ

ขณะเดียวกัน นายอนุทินยังได้แวะให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ พร้อมกับกล่าวเป็นภาษาเหนือว่า "ดีใจที่ประชาชนยิ้มสู้​​ ขอสุมาเต๊อะด้วยเน้อ ตอนนี้กำลังเร่งช่วยเหลือ หันว่ายังยิ้มได้ ผมนิอายนัก"

นายอนุทินยังได้พบกับ​อาสาสมัครรักษาดินแดนจากจังหวัดบุรีรัมย์ที่มาร่วมช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้ ก่อนที่นายอนุทินจะเข้าไปช่วยล้างสิ่งของภายในบ้านเรือนประชาชนที่อยู่บริเวณซอยดังกล่าวด้วย ซึ่งเป็นร้านขายเครื่องประดับหยกจากพม่า​

นายอนุทินได้อุดหนุนและล้างหยกหมู 1 คู่​ พร้อมกับกล่าวว่า เผื่อจะทำอะไรหมูๆ พร้อมให้กำลังใจแม่ค้า ก่อนที่จะอุดหนุนช้างอีก 1 คู่ จากนั้นทางด้านแม่ค้าได้มอบหยกสีเขียว ซึ่งจะช่วยเรื่องของเงินทอง ทำให้นายอนุทินถึงกับนำหยกใส่กระเป๋ากางเกงและกล่าวว่า ขอพกไว้กับตัว จะได้มีตังค์

ในช่วงหนึ่ง นายอนุทิน​ได้หันกลับมาพูดกับคณะว่า​ วันนี้ถ้าไม่ได้มาเห็นด้วยตัวเองก็ไม่รู้ว่ามันหนักขนาดนี้​ สิ่งที่เราตั้งเป้าไว้สิ้นเดือน​นี้จะแรงมันก็ต้องวางไว้ แต่ก็ยอมรับว่าสถานการณ์หนัก ถ้าได้เครื่องจักรหนักเข้ามาก็คิดว่าน่าจะเร็ว แต่ปัญหาคือตักออกไปแล้วต้องหาพื้นที่ทิ้ง ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปเห็นประชาชนที่ยืนอยู่บนหลังคาบ้านชั้น 2 บอกว่าตอนนี้ทุกหน่วยงานกำลังเร่งคลี่คลายสถานการณ์ ขอโทษด้วยที่มันเกิดขึ้นแบบนี้.