เนวินผูกข้อมืออวยพรเสี่ยหนู มาดามแพเตรียมทัวร์ลาวต่อ

"บิ๊กเน" จัดงานวันเกิดครบ 66 ปี บุรีรัมย์คึกคัก ทั้งรัฐมนตรี สส. สว.สีน้ำเงินแห่ร่วมงาน "ครูปะกำ" ผูกข้อมือให้ "อนุทิน" ฮือฮา "เนวิน" อวยพร  "ผูกให้เป็นนายกฯ​ ผูกให้ยิ่งใหญ่​ ผูกให้แข็งแรง"  ​  ขณะที่เจ้าตัวลั่น เป็นนายกฯ ตลอดอยู่แล้วไม่มีใครแย่ง นายกสมาคมเกลียมัว​แห่งประเทศไทย

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่สนามช้างอารีน่า  จ.บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้จัดงานทำบุญวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 66 ปี โดยมีคนใกล้ชิด คนดังจากหลากหลายวงการ รวมถึงนักการเมือง ข้าราชการระดับสูง เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ แกนนำและ  สส.พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ ​รมว.มหาดไทย, น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา​ วิทยาศาสตร์​ วิจัย​และนวัตกรรม, พล.ต.อ.เพิ่มพูน​ ชิดชอบ​ รมว.ศึกษาธิการ, นายศักดิ์สยาม​ ชิดชอบ​ อดีต รมว.คมนาคม, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย,  น.ส.ซาบีดา​ ไทยเศรษฐ์​ รมช.มหาดไทย,​ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์

ขณะที่ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) สายสีน้ำเงิน มีนายพรเพิ่ม​ ทองศรี​ สว., พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว. เป็นต้น รวมถึงนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา, พล.ต.อ.จักรทิพย์​ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ,  ​ นางนวลพรรณ​ ล่ำซำ​ นายกสมาคมฟุต​บอล​แห่งประเทศไทย,​ นายหิมาลัย​ ผิวพรรณ​ ที่ปรึกษานายพีระ​พันธุ์​ สาลี​รัฐ​วิภาค​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ ​รมว.พลังงาน ที่สวมเสื้อแจ็กเกตพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

สำหรับข้าราชการที่เป็นผู้บริหารระดับสูงที่เดินทางมาร่วมงาน อาทิ กระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์​ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา​สาธารณภัย​ (ปภ.​), นายขจร​ ศรีชวโนทัย​ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.), นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน (ทด.), นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.), นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา​ ขณะกระทรวงศึกษาธิการพบว่ามี ว่าที่ ร.ต.ธนุ​ วงษ์จินดา​ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน​ (สพฐ.) มาร่วมงาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลาประมาณ​ 09.00​ น.​ ได้มีพิธีปะกำช้าง ซึ่งเป็นพิธีที่ตระกูลชิดชอบได้มีการสืบทอดมายาวนาน​ โดยมีคนในตระกูลชิดชอบ ได้แก่​ นายเนวิน​, พล.ต.อ.เพิ่มพูน, ​​ นายศักดิ์สยาม​ และครอบครัว ร่วมในพิธี หลังจากนั้นบรรดาผู้ร่วมงานได้นำกล้วยน้ำว้า​มาป้อนช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล​ตามความเชื่อ​ และได้มีพิธีผูกข้อมือเรียกขวัญเพื่อขอพรจากครูปะกำ​

หลังจากที่ครูปะกำ​ได้ผูกข้อมือให้นายเนวินแล้วเสร็จ​ นายเนวินได้หันมาบอกครูปะกำให้ผูกข้อมือ​ให้​นายอนุทินด้วย​ ก่อนที่จะกล่าวด้วยเสียงดังว่า "ผูกให้เป็นนายกฯ​ ผูกให้ยิ่งใหญ่​ ผูกให้แข็งแรง" ขณะที่นายอนุทินมีทีท่าเขิน จากนั้นนายเนวินยังได้ผูกข้อมือให้นายอนุทินด้วย และอวยพรให้แข็งแรง​ ให้สมหวัง​

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอนุทินว่านายเนวินได้อวยพรให้เป็นนายกฯ​ จะขานรับหรือไม่  นายอนุทินกล่าวว่า “นายกฯ เป็นตลอดอยู่แล้วไม่มีใครแย่ง นายกสมาคมเกลียมัว​แห่งประเทศไทย ยังไม่เคยมีใครชิงตำแหน่งนี้จากผมได้”

เมื่อถามย้ำว่า แล้วคำว่านายกรัฐมนตรี  นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่คิด ตอนนี้ขอเป็นรัฐมนตรี ทำหน้าที่ให้ดีก่อน ขอเป็นรองนายกรัฐมนตรี ทำงานให้ น.ส.แพทองธาร​ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประสบความสำเร็จ ให้รัฐบาลของท่านมีแต่ความก้าวหน้า ทำประโยชน์ให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด ซึ่งตำแหน่งนายกสมาคมเกลียมัวที่ว่านี้ ตนมั่นใจว่ามีความมั่นคงแน่นอน ไม่มีใครเกลียมัว มากกว่าตนอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.​ธนนนท์​ นิรามิษ​ ภริยา​นายอนุทิน​ว่า นายอนุทินบอกว่าเป็นนายกสมาคมเกลียมัวแห่งประเทศไทย​ น.ส.ธนนนท์ถึงกลับกล่าวว่า “ขอให้จริงนะคะ บอกไว้คำเดียวว่าขอให้จริง” ก่อนที่จะยิ้ม

จากนั้นนายเนวินและคณะได้ขึ้นไปทำพิธีทำบุญเลี้ยงพระและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังบริเวณด้านบนปราสาทหินพนมรุ้งจำลองเป็นการส่วนตัว​  โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าบันทึกภาพแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ผู้ที่มาร่วมงานส่วนใหญ่สวมเสื้อสีโทนกรมท่า ทั้งเสื้อด้านหลังสกรีน ฅนบุรีรัมย์​ และสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด    นอกจากนี้ ภายในงานดังกล่าวนายเนวินได้แจ้งงดรับดอกไม้และของขวัญทุกชนิด แต่หากใครประสงค์จะร่วมทำบุญ ก็ให้บริจาคเงินให้กับโรงพยาบาลบุรีรัมย์ได้แทน

วันเดียวกันนี้ เวลา 06.00 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงประเทศไทย  ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมารอรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ต้องหาตามหมายจับของ สน. เตาปูน ในคดีลักทรัพย์เวลากลางคืน ถืออาวุธปืนบุกเข้าไปในบ้านของชาวบ้านภายในซอยอินทามาระ 29 กรุงเทพฯ ซึ่งมีคนอยู่ในบ้าน 2 คน โดยมีการยิงปะทะกับตำรวจ ภายหลังตำรวจได้ช่วยผู้ที่ติดอยู่ออกมาได้ และคนร้ายหลบหนีไปเมื่อช่วงหัวค่ำคืนวันที่ 3 ต.ค.67

โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมระบุว่าโหดมาก และเรื่องนี้มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐได้รายงานว่า สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้วที่ธัญบุรี ก่อนออกวังน้อยก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงได้ไม่นาน และจะมีการตรวจสอบเรื่องสารเสพติดรวมถึงการสอบปากคำ

นายกรัฐมนตรียังกล่าวกับรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่า เวลามีเหตุการณ์แปลกๆ มักจะมีเรื่องสารเสพติดเข้ามาด้วย ก่อนจะขอบคุณ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ที่มารายงานสถานการณ์ให้ทราบตั้งแต่ช่วงเช้า

ทั้งนี้ ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมเตรียมการในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 และ 45 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคมนี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีการกล่าวหาว่าเป็นพี่เลี้ยงของ น.ส.แพทองธาร มีความรู้สึกอย่างไรว่า ตนไม่ได้เป็นพี่เลี้ยงนายกฯ  ตนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา นายกรัฐมนตรีมีศักยภาพที่เหมาะสม ช่วงที่เข้ามาทำงานไม่กี่เดือนก็ต้องรับเรื่องหนักเรื่องใหญ่ ท่านก็รับมือได้เป็นอย่างดี ตนคิดว่าเราต้องมีความเชื่อมั่นในนายกรัฐมนตรีของเรา หากเรามัวแต่คิดว่าท่านไม่มีความสามารถต่างๆ นานา มันจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของประเทศ ตนคิดว่าต้องให้เวลาท่าน ทำงานยังไม่ถึงเดือนเลย ก็ได้พิสูจน์ความสามารถและศักยภาพในการเป็นผู้นำ ก็ลองดูต่อไป ยืนยันว่าท่านเป็นตัวของตัวเอง อย่าไปคิดว่าใครจะเป็นพี่เลี้ยงใคร ตนมิบังอาจ

ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานศูนย์นโยบายและวิชาการของพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการทำงานการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐว่า เมื่อเราตัดสินใจมาทำงานการเมือง เราไม่ได้เริ่มจากว่าเราจะได้หรือเป็นอะไร แต่เราควรจะทำงานการเมืองเพื่อเป็นต้นแบบหรือเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังที่อยากทำงานการเมือง  เพราะฉะนั้นวันนี้ถึงคนจะมองว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังเผชิญกับปัญหารุมเร้า

"ยอมรับว่ามีคนชวนผมให้ไปร่วมงานด้วยเยอะ  แต่ผมมองตรงข้ามว่า วันนี้คือวันที่ยากลำบาก เรามีโอกาสช่วยได้ต้องช่วยกัน เมื่อบ้านไฟไหม้ เราต้องช่วยกันดับ ไม่ใช่โดดหนีไฟไปก่อน” นายสนธิรัตน์กล่าวทิ้งท้าย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง