“รัฐสภา” ตั้ง คกก.ศึกษาแนวทางการป้องกัน-ลดอุบัติเหตุทางถนน ประชุมนัดแรก 25 ต.ค. ยกเคสไฟไหม้รถบัส นร.เข้าเป็นวาระเร่งด่วน "ปชป." เปิดเวทีถอดบทเรียน "ดร.เอ้" ชงร่าง พ.ร.บ.ความปลอดภัยสาธารณะ ระดมผู้เชี่ยวชาญแก้ปัญหาระยะยาว "รมว.ดีอี" เต้น! สั่งตรวจสอบเพจปลอมรับบริจาค "รมช.ศธ." มอบ "สพป.อุทัยธานีเขต 2" ดูแลรับบริจาคจุดเดียว "สมศักดิ์" เผยน้อง นร.ป่วยอาการดีขึ้น ส่งทีมแพทย์เอ็มแคท 100 คนลงอุทัยฯ ฟื้นฟูจิตใจ ผงะ! อู่ถอดถังก๊าซบริษัทรถบัสเกิดเหตุไม่มีใบอนุญาตอีก
ที่รัฐสภา วันที่ 4 ต.ค. นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาและกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนนแห่งรัฐสภา แถลงว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้ลงนามในคำสั่งรัฐสภาที่ 42/2567 ปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการฯ จากกรรมาธิการสามัญฝั่งวุฒิสภาที่ตั้งขึ้นใหม่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค.67 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ผู้เป็นประธานคณะกรรมการฯ ได้มีคำสั่งให้มีการประชุมร่วมคณะกรรมการฯ ชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในวันศุกร์ที่ 25 ต.ค.นี้
นายนิกรกล่าวว่า กรณีรถบัสทัศนศึกษานักเรียนมีอุบัติเหตุเสียชีวิตจำนวนมาก และมีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานรับผิดชอบหลายฝ่าย รวมทั้งฝ่ายรัฐสภาด้วย และโดยที่องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ที่ตั้งขึ้นใหม่นี้ มีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องเกือบครบถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญคณะต่างๆ ของทั้ง 2 สภา เช่น กมธ.การคมนาคม, กมธ.การศึกษา, กมธ.การกฎหมายฯ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กรมป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัย อธิบดีกรมควบคมุโรค รวมทั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงกำหนดกรณีรถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเป็นวาระพิจารณาเร่งด่วนสำคัญในการประชุมในครั้งนี้ เพื่อสรุปเสนอแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ผลในการปฏิบัติ สร้างความปลอดภัยให้เกิดขึ้นกับเด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไป อันเป็นหน้าที่และอำนาจโดยตรงของคณะกรรมการฯ ต่อไป
"ประธานคณะกรรมการฯ ได้สั่งการไปให้ทุกหน่วยเตรียมแนวทาง มาตรการ และข้อเสนอที่เห็นว่าจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวเข้ามาพิจารณาในการประชุมวาระสำคัญที่สุด ผมในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม ใน กมธ.การคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว ที่ได้เสนอความเห็นเป็นข้อสังเกตที่ผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภาไปยังรัฐบาลในขณะนั้น โดยเฉพาะกรณีความปลอดภัยทางถนนของเด็กนักเรียนในการเดินทางไปทัศนศึกษาดังกล่าวนี้ กลับมานำเสนอในวาระการประชุมที่จะถึงนี้ เพื่อการปรับปรุงร่วมกัน" นายนิกรกล่าว
ถามถึงข้อเสนอแนะในการป้องกันดังกล่าว นายนิกรกล่าวว่า มีอยู่หลายข้อเสนอแนะในรายงานหลายด้าน เช่น ด้านยานพาหนะปลอดภัย ด้านรถโรงเรียนและรถรับ-ส่งนักเรียนที่ต้องควบคุมมาตรฐานของกฎหมายเพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน และในประเด็นนี้มีการเสนอควรควบคุมรถรับจ้างอย่างใกล้ชิด ทั้งมาตรฐานของรถ การตรวจสอบมาตรฐานรถ ตลอดจนอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถ ประตูฉุกเฉินและการซักซ้อมการใช้งานของอุปกรณ์ ด้านการศึกษา เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกรมการขนส่งทางบก เร่งพัฒนาระบบความปลอดภัยรถรับจ้างที่เกี่ยวกับการเดินทางของนักเรียน และที่สำคัญ เสนอให้กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายและกำกับดูแลการเดินทางไปทัศนศึกษาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ต้องจัดสรรงบประมาณการเดินทางทัศนศึกษาให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยมากกว่าความประหยัด ทั้งค่าเดินทางและค่าที่พักสำหรับนักเรียน นักศึกษาและครูผู้ควบคุม
เร่งถอดบทเรียนไฟไหม้รถบัส
“เชื่อว่าการประชุมพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันฯ ในครั้งนี้ จะเกิดเป็นคุณูปการขึ้นอย่างแน่นอน มิเช่นนั้นแล้วเราจะสูญเสียเด็กๆ และคุณครูผู้จากไปในกรณีนี้ที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย โดยไม่มีอะไรที่ดีกว่าเกิดขึ้นมาเลย แล้วเราจะรอให้เกิดความสูญเสียซ้ำซากเช่นนี้กันอีกครั้งถึงจะพอ” นายนิกรกล่าว
ที่พรรคประชาปัตย์ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวในเวทีเสวนา "ตั้งวงคิดกับ ดร.เอ้ สุชัชวีร์" เพื่อแก้ปัญหาจากเหตุการณ์อุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ ถึง พ.ร.บ.เพื่อความปลอดภัยสาธารณะ โดยได้เสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ทั้งที่จังหวัดขอนแก่นในปี 2564 หรือกรณีอื่นๆ ที่มีการใช้คำว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่สุดท้ายก็ยังเกิดขึ้น
นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ได้เสนอไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ให้ร่วมกันสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ หรือเสนอร่างกฎหมายคู่ขนานให้สภาผู้แทนราษฎรได้พิจารณา เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง เพราะแม้จะมีการระบุที่ผ่านมาประเทศไทยจะมีองค์หลายหน่วยงานเต็มไปหมดอยู่แล้วนั้น ก็เหมือนปลั๊กไฟภายในบ้านที่มีเต็มไปหมด แต่ไม่มีเซฟทีคัตตัดไฟ และมั่นใจว่าองค์กรตามพระราชบัญญัติเพื่อความปลอดภัยนี้ จะมีความกระชับเป็นมืออาชีพ และใช้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญตามความจำเป็น
"กระดุมเม็ดสำคัญขององค์กรนี้คือการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ชาติด้านความปลอดภัยสาธารณะ และการเข้าไปช่วยให้คำแนะนำการกู้ภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยการกู้ภัยในอดีตจนมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูงไปยังอาคารเพลิงไหม้ อาจทำให้โครงสร้างถล่มลงมาได้ หรือการฉีดน้ำเข้าไปในโรงงานสารเคมี แต่เชื้อเพลิงที่ติดไฟนั้นสามารถลอยอยู่บนผิวน้ำได้จนเกิดเหตุระเบิด ดังนั้นเมื่อมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ ก็จะช่วยลดการสูญเสียได้ รวมถึงการถอดบทเรียนที่มีมาตรฐานและส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการหาตัวผู้รับผิดชอบ" นายสุชัชวีร์กล่าว
นพ.ธนะพงศ์ จินวงษ์ ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน (ศวปถ.) เห็นว่า ปัญหาของผู้ประกอบการรถโดยสารยานพาหนะนั้น ส่วนหนึ่งก็ยังเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่ผู้ประกอบการเป็นรายย่อย มีจำนวนรถไม่มาก ซึ่งมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยต่างๆ ถือเป็นต้นทุนที่ผู้ประกอบการต้องการลดต้นทุน โดยหันไปใช้แก๊ส เมื่อต้องประหยัดก็ต้องติดหลายถัง พร้อมยังเห็นว่าเกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนต่อใบอนุญาตด้วย ซึ่งหากรถเก่าหรือเป็นการนำรถไปใช้ในการทัศนศึกษาของนักเรียน จำเป็นจะต้องเพิ่มความถี่ในการตรวจสภาพ หรือจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจประเมินรถก่อนการใช้งาน เพราะบางเรื่องคุณครูอาจไม่มีความรู้ เช่น ระบบรถ ระบบล้อ เป็นต้น
ส่วนนายปิยะบุตร วานิชพงษ์พันธุ์ อดีตนายกสภาวิศวกร สนับสนุนให้มีหน่วยงานที่เป็นกลางและเป็นอิสระในการถอดบทเรียนเพื่อความปลอดภัยในระยะยาว เพราะการสูญเสียแต่ละครั้งมีมูลค่ามหาศาล ทำให้เกิดความเสียหายด้านความเชื่อมั่นต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยว หรือความเชื่อมั่นผู้ประกอบการรถโดยสารเอง ดังนั้น จะต้องช่วยกันดูแลความปลอดภัยสาธารณะอย่างจริงจัง โดยจะต้องดำเนินการทั้งระบบ ตั้งแต่ระดับบุคคล ในการสาธิตขั้นตอนการปลอดภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยต่างๆ ต้องครบถ้วน และมีหน่วยงานกลางที่เป็นอิสระใช้หลักวิชาการอย่างจริงจังในการขับเคลื่อน รวมถึงรถจะต้องมีสภาพดี ปลอดภัย เพราะรถโดยสารส่วนใหญ่เป็นรถแฟชั่นที่ใช้วัตถุไวต่อการติดไฟทั้งหมด ทั้งผ้าม่านหรือเบาะรองนั่ง ซึ่งไม่สามารถประมาทได้แม้จะเล็กน้อย เพราะสามารถทำให้เกิดหายนะได้ทั้งหมด
มอบ สพป.อุทัยฯ เขต 2 ดูบริจาค
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงกรณีมีเพจปลอมออกมาเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กนักเรียนกรณีรถบัสทัศนศึกษาถูกไฟไหม้ว่า ได้สั่งการให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมตรวจสอบเพจที่หลอกลวงประชาชนจากกรณีมีรถบัสนักเรียนถูกไฟไหม้
"เราได้ตรวจสอบและเฝ้าระวังอยู่ตลอด ขอแจ้งประชาชนอย่าไปหลงเชื่อ เพราะอาจเป็นมิจฉาชีพเชิญชวนให้มาบริจาคเงิน ซึ่งกระทรวงดีอีจะต้องตรวจสอบอย่างต่อเนื่องต่อไป" นายประเสริฐกล่าว
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จ.อุทัยธานี เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตว่า เบื้องต้นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ตรวจสอบการเปิดบัญชีรับบริจาค ซึ่งต้องมีความชัดเจนว่าได้ยอดเท่าไหร่เพื่อกิจการนี้ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน
"ล่าสุด สพฐ.ได้แจ้งให้เป็นใช้บัญชีหลัก ซึ่งดำเนินการโดยกระทรวงเพียงบัญชีเดียวทั้งหมด โดยบัญชีดังกล่าวได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุทัยธานี เขต 2 (สพป.อุทัยธานี เขต 2) เป็นผู้รับผิดชอบเป็นหลัก ยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจมีการเปิดบัญชีหลายบัญชีจนทำให้เกิดความสับสน อาจด้วยความหวังดีจึงมีการเปิดบัญชีรับบริจาคหลายช่องทาง แต่เชื่อว่าทุกคนอยากจะทำให้กับผู้เสียชีวิต คงไม่มีใครอยากหาผลประโยชน์ ผมอยู่ตรงนี้ก็เข้าใจทุกฝ่าย" รมช.ศึกษาธิการกล่าว
ขณะที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 เรื่องอาการบาดเจ็บของเด็กนักเรียนที่ประสบอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ กรณีส่งตัวมารักษาต่อจำนวน 2 ราย ระบุว่า วันนี้เป็นการรักษาพยาบาลเป็นวันที่ 3 ซึ่งแพทย์ได้ประเมินอาการและให้การรักษาดังนี้ รายที่ 1 เด็กหญิงอายุ 7 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้าและลำตัว แผลไหม้ระดับที่ 2 ทั้งหมดประมาณ 13% สัญญาณชีพปกติ หยุดการให้ยากระตุ้นความดันโลหิต ผู้ป่วยหายใจผ่านท่อช่วยหายใจโดยการใช้เครื่องช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง ปัสสาวะออกปกติ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ได้รับการประเมินทางเดินหายใจด้วยการส่องกล้องทางเดินหายใจโดยกุมารแพทย์ด้านระบบทางเดินหายใจ พบทางเดินหายใจบวมลดลง ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน แผลดี ปากบวมลดลง ไม่พบการติดเชื้อของแผล และยังคงต้องทำความสะอาดแผลและป้ายยาต้านจุลชีพวันละครั้ง
ทีมแพทย์เวชศาสตร์ที่ใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูง เพื่อช่วยลดบวม และมีแผนใส่อุปกรณ์รัดลดแผลเป็นในลำดับถัดไป เปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลงสามารถหลับตาลืมตาพอได้ เยื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง
รายที่ 2 เด็กหญิงอายุ 9 ปี แพทย์ประเมินแล้วว่า ร่างกายถูกไฟไหม้บริเวณใบหน้า คอ แขน และมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง ทั้งหมดประมาณ 30% สัญญาณชีพปกติ แต่ยังคงต้องใส่ท่อช่วยหายใจ สามารถลดการช่วยเหลือจากเครื่องช่วยหายใจได้ เริ่มรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ ให้ยาแก้ปวด และให้ยานอนหลับต่อเนื่อง สามารถลดการให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทนเข้าทางหลอดเลือดดำได้ โดยประเมินสารน้ำในร่างกายมีภาวะน้ำเกิน เริ่มให้ยาขับปัสสาวะทางหลอดเลือดดำ บาดแผลบริเวณใบหน้ายุบบวมลง ความดันบริเวณแขนทั้ง 2 ข้างลดลง เนื้อเยื่อผิวหนังดีขึ้น กระบวนการอักเสบลดลง มีการฟื้นฟูของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง ทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูใช้เฝือกร่วมกับอุปกรณ์ประคองมือและแขนสูงเพื่อช่วยลดบวม ในส่วนของเปลือกตาและเยื่อตายุบบวมลง สามารถหลับตา ลืมตาพอได้ เชื่อหุ้มรก และ eye corneal shield อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมทั้ง 2 ข้าง
ทีมแพทย์เอ็มแคทลงฟื้นฟูจิตใจ
ท้ายแถลงการณ์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า จะดูแลรักษาผู้ป่วยทั้ง 2 รายอย่างเต็มที่ โดยทีมแพทย์เฉพาะทาง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติได้มากที่สุด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการรักษาครูและนักเรียนจากเหตุรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ว่า อธิบดีกรมการแพทย์รายงานอาการน้องนักเรียนที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเด็กแห่งชาติ อาการบาดเจ็บที่ผิวหนังยังไม่ต้องใช้การรักษาด้วยบัวหิมะ แต่จะใช้วิธีการรักษาด้วยวิธีการนำผิวหนังในส่วนอื่นมารักษาทดแทนผิวหนังที่ถูกทำลายจากเปลวไฟ อาการโดยรวมน้องนักเรียนมีอาการดีขึ้น ตอบสนองได้ดี สามารถพูดคุยได้ ส่วนน้องที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีอาการดีขึ้น แต่ทีมแพทย์ยังคงดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ยังคงใส่ท่อช่วยหายใจเพื่อความปลอดภัย
"นายกฯ มีความห่วงใยอย่างมากทั้งผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เน้นย้ำทุกรายต้องได้รับการดูแลทั้งทางด้านจิตใจและร่างกายอย่างใกล้ชิด ซึ่ง สธ.ได้ส่งทีมแพทย์ ทีมเอ็มแคท เพื่อติดตามเยียวยาจิตใจ ประกอบด้วยนักวิชาการทางด้านสาธารณสุข นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์เข้าไป ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีแล้วมากกว่า 100 คน เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ" นายสมศักดิ์กล่าว
จ.อุทัยธานี นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางมาที่โรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พบปะพูดคุยให้กำลังใจและร่วมแสดงความเสียใจกับครอบครัวของครูและนักเรียนทั้ง 23 ราย พร้อมมอบเงินช่วยเหลือให้กับครอบครัวด้วยจำนวนหนึ่งผ่านสำนักงานคลังจังหวัดอุทัยธานี
จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่อู่กังการช่าง ในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา พบภายในมีรถบัสจำนวน 2 คัน ถูกจอดทิ้งไว้ โดยไม่พบคนอยู่ในอู่ บริเวณด้านหน้าอู่พบถังก๊าซ CNG ถูกวางทิ้งไว้จำนวนทั้งหมด 6 ถัง จากการตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่บริเวณถังพบว่า 3 ใน 6 ถัง ระบุทะเบียนรถในเอกสารเอาไว้ว่า 30-0411 สิงห์บุรี ซึ่งตามเอกสารนั้นถูกระบุว่านางปาณิสรา ชินบุตร เป็นเจ้าของรถ ซึ่งเป็น 1 ในรถทั้ง 5 คัน ที่มาลักลอบถอดถังก๊าซออกก่อนที่จะนำไปตรวจสภาพตามกำหนดการเดิมที่จังหวัดลพบุรี ส่วนอีก 3 ถังที่เหลือนั้น ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากรถคันใด เนื่องจากเอกสารถูกขูดทำลายทำให้ไม่เห็นรายละเอียดต่างๆ
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังเทศบาลตำบลโคกกรวด ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณที่อู่รถตั้งอยู่เพื่อไปตรวจสอบการยื่นจดทะเบียนและการเสียภาษี ว่าอู่ดังกล่าวนั้นได้มีการยื่นจดทะเบียนประกอบกิจการถูกต้องหรือไม่ ซึ่งในระหว่างพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ของเทศบาล ก็ได้มีการพยายามติดต่อไปยังเจ้าของอู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเจ้าของไม่อยู่ที่บ้าน ทางเทศบาลตำบลโคกกรวดจึงได้ค้นข้อมูลพบว่าอู่ดังกล่าวมีชื่อนายจีราวัฒน์ จารุรัตน์ธันญา เป็นเจ้าของ โดยไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่แต่อย่างใด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉระบบเด็กฝาก ทำลายองค์กรตร. ดับฝัน‘ดาวฤกษ์’
เช็ก 41 รายชื่อแต่งตั้งนายพลสีกากี ระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช.
ยธ.เมินแจงกมธ. ปมนักโทษเทวดา รพ.ตำรวจชั้น14
ชั้น 14 น่าพิศวง "โรม" กวักมือเรียก “ทักษิณ” ไปสภา เข้าแจง กมธ.มั่นคงฯ
แจกเฟส2เอื้อเลือกอบจ. เตือนร้องถอดถอนครม.
นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ยันไทยสงบ สันติ หวังแม้รัฐบาลเปลี่ยน
ฟ้อง9บิ๊กมท.ทุจริตที่เขากระโดง
เรื่องถึงศาล "ณฐพร" ฟ้องกราวรูด "บิ๊ก ขรก.มหาดไทย"
ลุ้นศาลรับคดีล้มล้าง ตุลาการถก6ประเด็น‘ทักษิณ-พท.’/ดันแก้ประชามติไม่รอ180วัน
"ทักษิณ-พท." ระทึก! 9 ตุลาการศาล รธน.ยืนยันนัดประชุมวาระพิเศษ 22 พ.ย.นี้
แจกเฟส 2 หวังผลการเมือง ส่อผิดกฎหมายหลายกระทง?
ปี่กลองอึกทึกครึกโครม ในสนามเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่จะมีการเลือกตั้งทั่วประเทศในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ช่วงนี้จึงอยู่ในช่วงงัดไม้เด็ดเดิมพันให้ได้คว้าชัยชนะ เพื่อเป็นอีกก้าวปูทางไปสู่สนามการเลือกตั้งใหญ่