เพื่อไทยดันทุรังแก้รธน. อนุทินลั่นช่วยปชช.ก่อน

ไม่แผ่ว! ยังกระเหี้ยนกระหือรือแก้รัฐธรรมนูญกันต่อ "ชูศักดิ์" คาดสัปดาห์หน้าถกปมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล แต่ "อนุทิน" เผยยังไม่นัดคุย ลั่น! ช่วยประชาชนสำคัญกว่า ขณะที่เครือข่ายประชาชนร่าง รธน.ยื่นหนังสือให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็ว "ไอติม" ให้คำมั่นพรรคส้มก็ยื่นแก้รายมาตรา 7 แพ็กเกจแล้ว

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงการนัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลพูดคุยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญว่า คงจะนัดกันเร็วๆ นี้ คาดว่าน่าจะเป็นสัปดาห์หน้า หลังจากที่เราได้ดูปัญหาที่เกิดขึ้น ตนก็จะสรุปรวบรวมปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ตั้งแต่เรื่องการทำประชามติซึ่งโยงกับรัฐธรรมนูญ ก็จะคุยไปพร้อมๆ กันว่าจะเดินกันอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนตัวได้มีการตั้งธงไว้หรือไม่ว่าจะมีประเด็นอะไรบ้างที่จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล นายชูศักดิ์กล่าวว่า ก็คงต้องดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมันมีทางออกอย่างไร ตนก็จะเตรียมให้และเอาทางออกเหล่านี้ไปหารือร่วมกัน

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการนัดพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ยังไม่มีการนัดหมาย และขณะนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่อยู่  เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ต่างประเทศ จึงยังไม่มีกำหนดว่าจะนัดพูดคุยกันเมื่อใด เพราะเรามีเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไขให้พี่น้องประชาชนซึ่งสำคัญกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ที่รัฐสภา เครือข่ายภาคประชาชน ในนามกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ (Con for All) เข้ายื่นหนังสือต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยเร็วที่สุด ซึ่งมีนายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับแทน พร้อมนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกรรมการประสานงานพรรคการเมืองฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

โดยเครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันเหลือเวลาดำรงตำแหน่งในวาระอีกเพียง 2 ปี 8 เดือนเท่านั้น หากกระบวนการนี้เนิ่นช้าไป และไม่ได้เริ่ม ก็กลัวว่าจะไม่เสร็จในรัฐสภาชุดนี้ หรือกลัวว่าจะไม่เสร็จเลย เราจึงมาติดตามสถานการณ์ เพราะทราบอยู่ตลอดว่าพรรคเพื่อไทย โดยคณะรัฐมนตรีชุดนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มีแนวทางที่ประกาศออกมาแล้วว่าจะมีกระบวนการไปสู่รัฐธรรมนูญใหม่ โดยการทำประชามติ 3 ครั้ง ซึ่งเรากำลังรอการเริ่มครั้งแรกอยู่  แต่ สว.ก็ยังไม่ให้พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติผ่าน และกว่าจะรอ พ.ร.บ.ประชามติเสร็จ กว่าจะได้ทำประชามติครั้งแรก แล้วค่อยเริ่มกระบวนการ ทั้งหมดทั้งปวงนี้ก็น่าจะชัวร์แล้วว่าจะไม่ทันภายในรัฐสภาชุดนี้ หรือภายในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญกล่าวต่อว่า  เราจึงขอเสนอและยืนยันว่า เราไม่ได้คัดค้านการทำประชามติครั้งแรก แต่ถ้าไทม์ไลน์เป็นเช่นนี้ ไม่ต้องทำจะดีกว่า เพราะในปัจจุบันการทำประชามติครั้งแรกไม่ได้มีกฎหมายฉบับใดบังคับให้ทำ และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้บอกว่าต้องทำ

ดังนั้น เราควรจะเริ่มกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ได้โดยการเปิดสภา เพื่อบรรจุวาระร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อพิจารณาจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) แล้วเดินหน้าต่อไป ซึ่งสามารถทำได้เลยตั้งแต่วันนี้ โดยไม่จำเป็นต้องรอ พ.ร.บ.ประชามติก่อน เพราะนี่จะเป็นหนทางเดียวที่มีอยู่ ที่จะทำให้มีโอกาสได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ภายในรัฐสภาและรัฐบาลชุดนี้ ทั้งนี้ คาดหวังว่าการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา จะต้องคำนึงถึงสิทธิของประชาชนด้านต่างๆ ด้วย

ด้านนายมุขให้ความมั่นใจว่า ประธานสภาฯ   เห็นด้วย และยินดีให้ความร่วมมือ 1,000% จะรีบบรรจุกฎหมายฉบับนี้ให้เร็วที่สุด เพราะรัฐสภาก็อยากให้เรื่องนี้ประสบความสำเร็จ พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนว่า หากอยากให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เป็นอย่างที่ทุกคนมีความประสงค์ ก็ต้องช่วยกันผลักดันทำให้สภาสูงและสภาล่างมีความเห็นเหมือนที่ประชาชนต้องการ  เนื่องจากขณะนี้ยังมีบางฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย

ขณะที่นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนที่มาในวันนี้ เหมือนเป็นการให้กำลังใจพวกเราในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่หลายพรรคการเมืองให้สัญญาประชาคมเอาไว้ ทั้งการแก้ทั้งฉบับ และการแก้ไขรายมาตรา ถือเป็นกฎหมายแรกที่ทางรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกันตั้งแต่ต้น ยอมรับว่าขณะนี้มีอุปสรรค ทุกอย่างไม่ได้รวดเร็วเป็นไปตามที่เราหวังไว้ แต่ทางวุฒิสภาก็จะส่งร่างกลับมาเพื่อตั้งกรรมาธิการร่วมกันว่าสุดท้ายแล้วจะเอาอย่างไรกันแน่

นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งให้คำมั่นสัญญาประชาชนในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจุดยืนของพรรคประชาชนในฐานะแกนนำพรรคฝ่ายค้าน เรายืนยันมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหา และเห็นด้วยว่าต้องมีการเดินคู่ขนานกัน โดยหนทางที่หนึ่งซึ่งเราเห็นว่าดีที่สุดในการที่จะทำให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งปี 2570 คือการต้องลดขั้นตอนทำประชามติจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง แต่ก็อยู่ที่การตัดสินใจของประธานสภาฯ ว่าจะบรรจุวาระหรือไม่ ทั้งนี้ พรรคประชาชนได้ยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา 7 แพ็กเกจแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง