ตื่น!ล้อมคอกรถบัส คลอด5กฎเหล็กเข้ม/เคลื่อน23ร่างถึงบ้านจ่ายเยียวยา2.4ล้าน

"ในหลวง-พระราชินี" ทรงเสียพระราชหฤทัยเหตุรถบัสทัศนศึกษานักเรียนเกิดไฟไหม้  ทรงรับผู้สูญเสียไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จนท.เคลื่อน 23 ร่าง "ครู-นร." กลับอุทัยธานี นำญาติทำพิธีเชิญดวงวิญญาณจุดเกิดเหตุ "นายกฯ อิ๊งค์"  แต่งดำไว้อาลัย ประชุมแผนป้องกัน ลั่นไม่อยากให้แก้ปลายเหตุ ชี้ทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก สภาพรถเป็นต้นเหตุ "สุริยะ" งัด 5 มาตรการสังคายนาระบบรถสาธารณะภายใน 60 วัน ผงะ! ตร.พบรถบัสติดแก๊ส 11 ถัง 5 ถังไม่จดทะเบียน ฟัน 5 ข้อหาหนักคนขับ พร้อมจ่อเอาผิดบริษัทเจ้าของ "สภา"  ถกญัตติด่วนหาทางป้องกัน เสนอรัฐบาลเข้มผู้ประกอบการ-สภาพรถ

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  ทรงเสียพระราชหฤทัยเป็นอย่างยิ่ง และทรงห่วงใยต่อเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า บริเวณหน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา  จังหวัดปทุมธานี เป็นเหตุให้มีนักเรียนและครูได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก อันนำมาซึ่งความเสียใจต่อครอบครัวของผู้สูญเสียอย่างไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ ด้วยน้ำพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ต้องประสบกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่เด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และทรงรับไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ดังนี้

เวลา 14.00 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลตำรวจตรีชัยทัต บุญขำ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปกครองของเด็กหญิงอารดา จิรายุกต์ และเด็กหญิงพิมฐาดา เพ็งไพทูร ที่ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลโดนไฟลวกตามร่างกาย และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

เวลา 14.30 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ คุณหญิงจันทนี ธนรักษ์ เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ผู้ปกครองของเด็กหญิงนฤภร รัตนเกาศัลย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แขวงพญาไท เขตราชเทวี  กรุงเทพมหานคร

ในการนี้ ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยไปกล่าวแก่ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ  และพระราชทานกำลังใจแก่ครอบครัวผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมทรงรับผู้บาดเจ็บไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานพวงมาลาวางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิต พระราชทานเพลิงศพแก่ผู้เสียชีวิตเป็นกรณีพิเศษ รวมทั้งพระราชทานเงินช่วยเหลือและพระราชทานทุนการศึกษาแก่บุตรของครูที่เสียชีวิตผ่านมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ยังความซาบซึ้งและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงช่วยบรรเทาความทุกข์โศกของผู้ที่ได้รับผลกระทบและสูญเสียอย่างปัจจุบันทันด่วนให้ดีขึ้นตามลำดับ

ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ    นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์  ปลัดกระทรวงมหาดไทย, นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.พรรคภูมิใจไทย จ.อุทัยธานี เดินทางมาติดตามรับฟังรายงานการชันสูตรและพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้

เคลื่อนร่าง 'นร.-ครู' กลับอุทัยฯ

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้ต้องจัดการในเรื่องของการชันสูตรพลิกศพ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นไปตามอัตลักษณ์บุคคลหรือไม่  โดยขอชื่นชมสถาบันนิติเวชวิทยา ที่ทำการชันสูตรทุกรายแล้ว ถือว่ามีความรวดเร็วมาก เพราะถ้าคืนร่างน้องๆ และคุณครูให้กับครอบครัวได้เร็วเท่าไหร่  พวกเขาจะได้นำกลับไปประกอบพิธีกรรมได้เร็วยิ่งขึ้น ญาติที่ได้กลับบ้านก็จะเจอครอบครัวเพื่อคลายความเศร้าได้

"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี มีพระมหากรุณาธิคุณที่จะรับร่างทุกร่างเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ดังนั้นจะมีการพระราชทานเพลิงศพให้กับทุกคน โดยได้มีการประสานให้โรงเรียนได้ตั้งทำพิธีสวดศพด้วยกัน เพราะเขามาด้วยกันก็อยากให้ไปด้วยกัน ทราบเบื้องต้นว่าจะสวดทั้งหมด 5 คืน หลังจากนั้นก็จะมีพิธีพระราชทานเพลิง" นายอนุทินกล่าว

เวลา 14.40 น. เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนขบวนนำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 23 ราย ที่ยืนยันตัวบุคคลและอัตลักษณ์บุคคลเสร็จสิ้นแล้วออกจากสถาบันนิติเวชฯ   โดยมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวน แบ่งเป็น 5 ชุด 5 คัน และตามด้วยรถของเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูที่บรรจุร่างใส่โลง และปิดท้ายขบวนด้วยรถยนต์ของตำรวจท่องเที่ยว รวมทั้งมีนักเรียนพยาบาลตำรวจจำนวน 67 นาย ยืนเรียงแถวเพื่อส่งดวงวิญญาณด้วย

ทั้งนี้ ขบวนรถมุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ หน้าอนุสรณ์สถานแห่งชาติ เพื่อให้ญาติทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตกลับไปยังภูมิลำเนา จ.อุทัยธานี

ส่วนที่ห้องรับรอง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข,  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร., นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข, ปลัดกระทรงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงเหตุการณ์รถบัสทัศนศึกษาของคณะครูและเด็กนักเรียนเกิดเหตุเพลิงไหม้

น.ส.แพทองธารแถลงว่า ได้คุยกับกระทรวงคมนาคมในเรื่องมาตรฐานรถบัสรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งจะต้องมีการวางแพลนกัน จริงๆ แล้วทัศนศึกษาคือการเปิดโลกให้เด็กๆ เราไม่อยากจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่ได้ถูกดูแลหรือถูกตรวจคือสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ต้องมาแก้ปัญหาในส่วนคมนาคม จะวางกฎและกรอบอย่างไร เราใช้โอกาสนี้ที่จะสามารถวางระบบให้ชัดเจนขึ้นได้

"การตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง ต้องเช็กให้ครบว่าทุกอย่างเป็นอย่างไร พร้อมสำหรับการเดินทางหรือไม่ และก่อนเดินทางทุกครั้งก็ควรตรวจเช็กสภาพทุกครั้ง โดยเฉพาะการเดินทางไกล" นายกฯ กล่าว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า ในเรื่องการสอบสวนขณะนี้มีความคืบหน้าไประยะหนึ่ง ซึ่งเมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค. ได้ตัวผู้ต้องหามาแล้ว และสอบปากคำไว้แล้ว ตอนนี้ยังอยู่ในความควบคุมที่ สภ.คูคต การตรวจพิสูจน์รถขณะนี้พิสูจน์หลักฐานกับกรมการขนส่งอยู่ระหว่างร่วมกันตรวจสภาพรถว่าเป็นอย่างไร

"เรื่องการสอบสวนคนขับรถ เดี๋ยวจะเข้าไปดูในรายละเอียด แต่เบื้องต้นยืนยันว่าดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งตัวบุคคลและบริษัทเจ้าของรถ" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว

รรท.ผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับผลการสอบสวนและการตรวจพิสูจน์รถ สิ่งเหล่านี้ที่นายกฯ ได้กรุณานั่งประชุมจะนำไปสู่การวางมาตรฐานกฎเกณฑ์ต่างๆ โดยเฉพาะจะเน้นไปที่เรื่องเด็ก เยาวชน นักศึกษา ที่จะต้องไปทัศนศึกษาดูงาน ซึ่งมีความจำเป็นสำหรับเด็ก เราจะมีมาตรการทั้งส่วนกรมการขนส่ง ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ที่จะช่วยกันดูสภาพรถ การตรวจพนักงานขับรถ บริษัทเอกชนที่ให้บริการรถสาธารณะ จะต้องทำอย่างไร ระหว่างทางจะต้องมีการหยุดตรวจสภาพคนขับและรถอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเคร่งครัดและวางกันในอนาคตต่อไป

สังคายนาระบบรถสาธารณะ

ส่วนนายสุริยะกล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการ 1.ให้กรมการขนส่งทางบกเรียกรถโดยสารสาธารณะประจำทางและไม่ประจำทางที่ใช้เชื้อเพลิง CNG ทั้งหมดเข้ารับการตรวจสภาพรถ จำนวน 13,426 คัน ภายใน 60 วัน 2.ให้ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่งรถโดยสารไม่ประจำทาง ให้เข้ารับการตรวจสภาพเพื่อดูเรื่องการให้บริการ ซึ่งถือเป็นการสังคายนารถโดยสารสาธารณะทั้งหมดเพื่อให้เกิดความปลอดภัย 3.ให้กรมการขนส่งทางบกบูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาทั่วประเทศ ในกรณีที่จะนำรถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทางไปใช้บริการ ให้ประสานงานกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

4.พนักงานขับรถและผู้ประจำรถต้องได้รับการอบรมและทดสอบการเผชิญเหตุช่วยเหลือผู้โดยสารตามหลักสูตรการเผชิญเหตุและการช่วยเหลือผู้โดยสาร (Crisis Management) ทุกคนต้องได้รับการฝึกอบรม และ 5.จะออกกฎหมาย ระเบียบ เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องมีการแนะนำข้อมูลและแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการเช่นเดียวกับสายการบิน โดยเมื่อผู้โดยสารขึ้นรถพนักงานต้องให้การแนะนำการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินกรณีมีเหตุ และเส้นทางการหนีภัย เพื่อให้ผู้โดยสารเตรียมพร้อมหากมีเหตุฉุกเฉิน

"จากนี้กระทรวงคมนาคมจะเข้าไปดูการออกแบบรถโดยสาร ว่าจำนวนที่นั่งเหมาะสมหรือไม่  ทางออกควรเพิ่มเติมอย่างไร รวมถึงกรณีต้องเดินทางไกลควรต้องมีคนขับรถ 2 คน เป็นมาตรการที่กระทรวงจะทำตั้งแต่วันนี้" นายสุริยะกล่าว

ถามว่า สำหรับอายุรถยนต์ต้องกวดขันหรือไม่ เพราะคันที่เกิดเหตุพบว่ามีอายุกว่า 54 ปี รมว.คมนาคมกล่าวว่า ถือว่าเป็นโอกาสที่เราจะต้องใช้  เพราะในอดีตเวลาที่กระทรวงจะออกมาตรการบังคับ ผู้ประกอบการทั้งหลายก็จะไม่ยินยอมและมาขอร้องมาประท้วง แต่จากนี้ไปเราคงยอมไม่ได้ ตนจะใช้โอกาสนี้ออกมาตรการอย่างเด็ดขาด จะให้เป็นเช่นเดิมต่อไปไม่ได้แล้ว และตนมองรวมไปถึงรถโดยสารสาธารณะ รถตู้ทั้งหลาย ถ้าอายุเกินเราจะไม่ต่อให้เด็ดขาด ไม่ว่าจะมาประท้วงหรือมาขอร้อง จะถือโอกาสครั้งนี้ไม่ยอมกันอีกแล้ว

ซักว่า แนวคิดจะให้มีการยกเลิกการใช้แก๊ส NGV แต่มีเรื่องราคาพลังงานจะแก้ปัญหานี้อย่างไร รมว.คมนาคมกล่าวว่า ไม่ได้หมายความว่าจะยกเลิกการใช้ NGV แต่ขอให้มีการตรวจสอบความปลอดภัยใหม่ทั้งหมด เพื่อจะได้ดูว่าตรงไหนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดได้ง่าย เชื่อมบริเวณข้อต่อที่เชื่อมกับถังแก๊ส ซึ่งขณะนี้กรมการขนส่งทางบกเข้าไปตรวจสอบรถที่เกิดเหตุและรถที่ร่วมขบวนอยู่ เพื่อจะได้นำมาออกแบบบังคับและประกาศเป็นกฎกระทรวงใช้ต่อไป

นายสุริยะกล่าวถึงเรื่องการเยียวยาว่า ขณะนี้ทางบริษัทประกันภัยที่ทางกระทรวงมีกฎหมายบังคับให้ทำประกันทุกครั้งนั้น ผู้เสียชีวิตจะได้รับเงิน 1 ล้านบาท ส่วนที่เพิ่มเติมวันนี้ได้ประชุมกองทุนช่วยเหลือสาธารณภัย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จะให้เพิ่มอีกรายละ 1 ล้านบาท รวมเป็น 2 ล้าน และมีจากกระทรวงยุติธรรม รวมแล้วผู้เสียชีวิตแต่ละรายจะได้รับเงิน 2.4 ล้านบาท อีกทั้งได้ประสานกระทรวงศึกษาธิการให้ตรวจสอบรายละเอียดเพื่อจะได้เร่งส่งมอบเงินเยียวยา ซึ่งคาดว่าจะได้ภายในสัปดาห์หน้า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จะได้รับเงินเยียวยาคนละ 7 แสนบาท บาดเจ็บเล็กน้อยได้คนละ 2 แสนบาท

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่า  ขณะนี้อยู่ในห้องไอซียูที่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ 1 คน ผิวหนังไหม้พุพอง 11% และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ 2 คน มีอาการหนัก ผิวหนังไหม้พุพอง 13% 1 คน และอีก 1 คน ผิวหนังไหม้พุพอง 20-30% ซึ่งทั้ง 3 คนถือเป็นผู้ป่วยอาการหนัก โดย สธ.ได้รับการประสานงานจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนจะส่งบัวหิมะมาช่วย ซึ่งเป็นบัวหิมะที่มีการขึ้นทะเบียนภายในประเทศไทยแล้ว ทางการจีนจะจัดส่งมาให้ใหม่ โดยจะมาถึงไทยวันเดียวกันนี้เวลา 15.00  น. ซึ่งตนจะไปรับด้วยตัวเอง ทั้งนี้ บัวหิมะมีคุณสมบัติทำให้แผลพุพองน้อยลง

"การดูแลประชาชนที่เกี่ยวข้องจะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นกลุ่มผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิต, กลุ่มที่สอง เป็นกลุ่มญาติของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ, กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มของนักเรียนและบุคคลที่เกี่ยวข้องในโรงเรียน และกลุ่มที่สี่ คือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีนักจิตวิทยาและจิตแพทย์ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับประชาชนทั้ง 4 กลุ่ม" นายสมศักดิ์กล่าว

บัสติดแก๊ส 11 ถังไม่จดทะเบียน 5

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า น.ส.แพทองธาร, นางนฤมล, นายชัชชาติ แล ะคณะทำงานนายกฯ ได้สวมชุดสีดำเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

ต่อมา ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พร้อมด้วย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. และตำรวจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งนายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าคดีดังกล่าว

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า หลังจากนายสมาน คนขับรถคันเกิดเหตุเข้ามาตัว พนักงานสอบสวน สภ.คูคตได้สอบปากคำและแจ้ง 5 ข้อหา ได้แก่ 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 2.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 43 (4) 3.พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 157 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 43 (4) 4.ขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล และไม่หยุดรถให้การช่วยเหลือ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 78 และ 5.พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 160  ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา 78 จนเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ สอบพยานที่เกี่ยวข้องแล้วหลายปาก, วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ, ภาพบันทึกกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะผลตรวจพิสูจน์สภาพรถคันเกิดเหตุทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบตามกฎหมาย ส่วนรถบัสคันเกิดเหตุ สพฐ.ตร.ได้ร่วมกับกรมการขนส่งทางบกตรวจสภาพและรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาสาเหตุที่เกิดไฟลุกไหม้ขึ้น

"เบื้องต้นพบว่ารถบัสคันดังกล่าวมีถังก๊าซเชื้อเพลิงจำนวน 11 ถัง จดทะเบียนถูกต้องเพียง 6 ถัง ส่วนที่เหลือ 5 ถัง ไม่อยู่ในรายการจดแจ้งกับเจ้าหน้าที่ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ จะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป หากพบว่ามีบุคคลหรือบริษัทใดเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนในการกระทำความผิด สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด" พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว

ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เปิดให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ ซึ่ง  สส.แต่ละคนที่ลุกขึ้นมาหารือเริ่มต้นด้วยการแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี ทั้งนี้ สส.พรรคเพื่อไทยและ สส.พรรคอื่นส่วนใหญ่ได้แต่งกายชุดดำเข้าประชุมสภา  เพื่อไว้อาลัยให้กับเด็กที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า สส.พรรคเพื่อไทยเราได้แต่งกายชุดดำ 2-3 วัน เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้โศกนาฏกรรมรถบัสทัศนศึกษาไฟไหม้ และอยากเห็นสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นฝ่ายสำคัญฝ่ายหนึ่งของบ้านเมือง มีกิจกรรมอะไรที่เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น หรือให้มีการไว้อาลัย​ แสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต

นายวันมูหะมัดนอร์ชี้แจงว่า ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภา จะมีการพูดคุยกันถึงเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษาที่เกิดขึ้น โดยจะเปิดให้หารือ และยืนยันว่าจะมีการจัดกิจกรรมอย่างแน่นอน เพราะนอกจากเป็นความเสียใจของผู้ปกครอง​แล้ว รัฐบาลและรัฐสภาก็เสียใจ และมีส่วนที่จะต้องช่วยกันแก้ปัญหาด้วย

สภาจี้เอาจริงมาตรฐานรถโดยสาร

จากนั้นเวลา 10.44 น. หลังการหารือเสร็จสิ้น นายวันมูหะมัดนอร์ได้กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา เพื่อเป็นการแสดงความไว้อาลัยและเพื่อเป็นการแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกคนที่เกิดเหตุในครั้งนี้ ขอเชิญสมาชิกทุกคนลุกขึ้นยืนนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที

"ในฐานะสภาฯ ผมขอมอบให้นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ คนที่สอง ช่วยเป็นเจ้าภาพแทนผมและพวกเราในการดำเนินการไปเยี่ยมเยียนครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บตลอดจนเรื่องอื่นๆ เพราะเราต้องมีเจ้าภาพดำเนินการ และผมเห็นว่ารองประธานสภาฯ คนที่สองอยู่อ่างทอง ซึ่งใกล้กับจังหวัดอุทัยธานี ท่านจะรีบไปดำเนินการทันที สำหรับ สส.ที่อยู่ใกล้ๆ จังหวัดอุทัยฯ ก็ควรที่จะไปเยี่ยมครอบครัวทุกครอบครัว  โรงเรียนหรือผู้เกี่ยวข้อง สมาชิกมีอะไรก็หารือกับผมและสภาฯ ได้ เราพร้อมที่จะร่วมมือ” ประธานสภาฯ กล่าว

ทั้งนี้ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย และนายครูมานิตย์ แจ้งว่า ขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเพื่อเสนอแนะแนวทางป้องกันการเกิดเหตุการณ์รถบัสโดยสารที่ไม่มีมาตรฐานความปลอดภัยต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ​ก็เห็นด้วยที่จะให้มีการพิจารณาญัตติด่วนดังกล่าว เพราะถือว่าวันนี้ไม่มีฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล มีแต่ตัวแทนประชาชน

ต่อมา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม พิจารณญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาศึกษาแนวทาง เสนอข้อคิดเห็น และการยกระดับมาตรฐานการป้องกันการเกิดขึ้นกรณีรถบัสทัศนศึกษาเกิดเหตุเพลิงไหม้ และหาแนวทางช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ที่เสนอโดยนายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย, นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย และ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.  พรรคประชาชน

นายเจเศรษฐ์แถลงหลักการด้วยน้ำเสียงสะอื้นตลอดเวลาว่า วันนี้พวกเราขอเก็บความเจ็บซ้ำนั้น  ขอให้เป็นพวกเราที่รวบรวมเอาความเจ็บซ้ำนั้นเก็บไว้กับเรา และขอให้เป็นสิ่งที่ได้รับการเรียนรู้ การแก้ไข การยกระดับการป้องกัน เพื่อจะไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก

"วันนี้พวกเราไม่ขอเป็นบทเรียนหรือไม่ให้ใครมาถอดบทเรียนแล้ว เพราะมีการวนลูปซ้ำๆ หลายเหตุการณ์เกินไป แต่ขอเกิดเป็นการเรียนรู้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดการตื่นตระหนัก เพื่อให้พวกเราทุกคนตระหนักถึงมาตรการที่จะมาป้องกัน สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องของการเมือง ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของเราทุกคนที่จะต้องช่วยกันระดมความคิด แล้วเอาประสบการณ์มาสู่การแก้ไขจริงๆ สักครั้ง สุดท้ายนี้ ผมขอสดุดีคุณครูทั้ง 3 คนที่ได้ปฏิบัติหน้าที่จนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แต่พวกผมให้คำมั่นสัญญาว่าพวกผมจะสืบทอดเจตนารมณ์ของคุณครูที่พร้อมพลีกาย ปกป้องชีวิตน้องๆ นักเรียน” นายเจเศรษฐ์กล่าว

ด้าน นพ.ทศพรกล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งที่ประชาชนพูดถึงคือควรยกเลิกการทัศนศึกษาดีหรือไม่ นี่คือสิ่งที่พวกเราต้องช่วยกันคิด ซึ่งการไปทัศนศึกษาเป็นความผิดหรือไม่ เป็นความบกพร่องหรือไม่ ต้องยกเลิกการไปทัศนศึกษาหรือไม่ ความผิดความบกพร่องอยู่ที่กระบวนการทัศนศึกษาหรืออยู่ที่รถ หรืออยู่ที่คน นักเรียนระดับไหนถึงจะสามารถไปทัศนศึกษาได้ ที่สามารถจะดูแลตัวเองเมื่อมีเหตุฉุกเฉินได้ เด็กอนุบาล เด็กประถมศึกษาเล็กเกินไปหรือไม่ รวมถึงเด็กได้มีการฝึกซ้อมหากพบเจออุบัติเหตุฉุกเฉินหรือไม่ รถที่ใช้เดินทางมีความพร้อมหรือไม่ และรถบัสที่มีความสูง ที่แทบจะมีอยู่ประเทศเดียวคือในประเทศไทย ควรจะมีใช้ต่อไปหรือไม่ และรถใช้แก๊สรถดัดแปลง ไม่ว่าจะเป็นรถโดยสารขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กมีความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ คนขับรถมีศักยภาพ มีสุขภาพ มีความแข็งแรงและมีความสามารถในการควบคุมขับรถ มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเมื่อมีเหตุเพียงพอหรือไม่

"หากเราไม่อยากเห็นเหตุการณ์แบบนี้และความเศร้าโศกเสียใจแบบนี้ เราต้องช่วยกันคิด และต้องช่วยกันระดมความคิด พร้อมส่งมาตรการให้กับรัฐบาลไปดำเนินการ และพวกเราต้องช่วยกันตรวจสอบติดตามกันอย่างเข้มข้นว่ามาตรการที่เราส่งไปแล้วจะได้รับการปฏิบัติหรือไม่" นพ.ทศพรกล่าว

น.ส.ศศินันท์กล่าวว่า ขอชื่นชมการจัดการเหตุการณ์สถานการณ์วิกฤตได้อย่างทันท่วงทีของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ตนทราบดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเจ็บปวดร่วมกันของพี่น้องประชาชนทุกคน และในวันนี้เราไม่ได้มาหาคนผิดหรือมาติติงอะไร แต่เรากำลังมาหาทางออกร่วมกันว่าจะทำอย่างไรไม่ให้เราต้องเผชิญเหตุการณ์แบบนี้ ถอดบทเรียนซ้ำๆ ในเรื่องสะเทือนใจแบบนี้อีกในอนาคต ซึ่งสาเหตุในการเกิดอุบัติเหตุโดยหลักมาจากการประมาทเลินเล่อของผู้ขับรถ สภาพรถที่ไม่ปลอดภัย ขาดการจัดการที่เป็นระบบ สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาในเชิงโครงสร้างที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน

สส.กทม.พรรค ปชน.กล่าวว่า มีข้อเสนอในเหตุการณ์นี้ถึงแนวทางป้องกันเหตุ 4 ประเด็นคือ 1.เรื่องมาตรฐานของรถโดยสารสาธารณะที่ต้องมีมาตรฐานความปลอดภัย 2.การนำเสนอข่าวในสถานการณ์แบบนี้มีความเปราะบางมาก รวมถึงการเคารพสิทธิของผู้ประสบเหตุ เราจะพบเจอหลายครั้งมากที่สื่อมวลชนเข้าไปถึงตัวเด็ก เข้าไปถึงตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เร็วกว่าจิตแพทย์ เร็วกว่าแพทย์ด้วยซ้ำ 3.การเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างรวดเร็วและทั่วถึง ตนขอชื่นชมรัฐบาลที่ทำหน้าที่ได้รวดเร็ว และจะเป็นการดีมากว่าในอนาคตจะมีแนวทางชัดเจนเป็นรูปธรรม และ 4.เรื่องทัศนศึกษา คิดว่าเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้เห็นโลกกว้าง

นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ย้ำว่าเราต้องไม่ยกเลิกการทัศนศึกษา เพราะเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากต่อเด็กไทย ให้เขารู้จักการวางตัวเองให้มีประสบการณ์ เพียงแต่เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้นว่าควรไปที่ใด ไปไกลแค่ไหนอย่างไร อย่าแก้ปัญหาด้วยวิธีหนีปัญหา หรือต่อไม่พาเด็กไปแล้ว ขอให้ผู้ปกครองและโรงเรียนทั้งหลายทำความเข้าใจ อย่าหนีปัญหา เราต้องเผชิญปัญหา เพียงแต่เราใช้เหตุการณ์นี้เป็นวิธีการในการหาทางป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นมาอีก

"สิ่งนี้น่าจะเป็นบทเรียนที่ทำให้เกิดความระมัดระวังและดูแลให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์กติกาดีขึ้น และผมขอให้กำลังใจกับครอบครัวของนักเรียน และญาติพี่น้องที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ หวังว่ามีการดูแลผู้เสียชีวิตต่อไป และต้องดูแลผู้บาดเจ็บไปตลอดด้วย” นายชวนกล่าว

จากนั้น สส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลอภิปรายเห็นด้วยกับญัตติดังกล่าวว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และเห็นว่าเจ้าของรถต้องรับผิดชอบด้วย เพื่อเป็นการกระตุ้นไม่ให้เจ้าของรถละเลยไม่ดูแลรถให้อยู่ในสภาพดี รวมถึงผู้ประกอบการต้องใส่ใจการตรวจสภาพรถ และเห็นว่าทัศนศึกษาเป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ปัญหาเกิดจากการยานพาหนะ ซึ่งรถบัสเป็นฉนวนสำคัญ ทั้งนี้ ทางสภาจะได้รวบรวมการแสดงความคิดเห็นของ สส.ส่งต่อรัฐบาล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'แพทองธาร' โชว์วิชั่น การเมืองมีเสถียรภาพ ประเทศไทยจะดีขึ้น!

นายกฯ โชว์วิชั่น Forbes ไทยสงบ สันติ หวังรัฐบาลเปลี่ยน นายกฯเปลี่ยน แต่นโยบายเพื่อปชช.เดินหน้า บอกต่างชาติเจอคำถามแรกถามพ่อ-อาเป็นอย่างไร ย้ำการเมืองมั่นคง มีเสถียรภาพแน่นอน