ควํ่า‘สุราก้าวหน้า’ไฟเขียว2ฉบับรบ.

ต่างประเทศงานแรก! "แพทองธาร"   บินร่วมประชุม ACD กรุงโดฮา เตรียมแสดงวิสัยทัศน์รับไม้ต่อเป็นประธาน ACD วาระปี 2568  สร้างความเข้มแข็งและอำนาจต่อรองแก่ประเทศสมาชิกภูมิภาคเอเชีย ขณะที่สภารับหลักการ กม.สุราก้าวหน้า 2 ฉบับ ตีตกฉบับต้มเหล้าเถื่อนเสรีของ "เท่าพิภพ" พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญ 32 คน

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในเวลา 13.30 น.   ไปยังกรุงโดฮา รัฐกาตาร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 3 (3rd Asia Cooperation  Dialogue: ACD) ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2567 นับเป็นครั้งแรกในการเดินทางไปต่างประเทศภายหลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

โดยในวันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงโดฮา ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง และตรงกับเวลา 14.20 น.  ตามเวลาในประเทศไทย นายกรัฐมนตรีจะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ในฐานะที่เคยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 2 เมื่อปี 2559 และในฐานะประธาน ACD ในวันที่ 1 มกราคม 2568 นี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการผลักดันให้ ACD เป็นเวทีการหารือระดับนโยบายเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปเอเชีย ส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกัน และเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้วยความเข้าใจและไว้เนื้อเชื่อใจ เพื่อแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาความท้าทายของโลก รวมทั้งความท้าทายจากการแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศมหาอำนาจร่วมกัน

โดยประเทศไทยสามารถแสดงบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ ผ่านการมีส่วนร่วมและการเป็นผู้ประสานประโยชน์ (Bridge Builder) ในเวที ACD  ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ACD  กับกรอบความร่วมมืออื่นๆ ซึ่งความร่วมมือเหล่านี้จะนำมาซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ สนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างกัน เพื่อผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมถึงประชาชนไทย

ที่รัฐสภา วันเดียวกันนี้ มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม หลังเปิดให้สมาชิกหารือถึงปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่แล้ว ที่ประชุมสภาฯ รับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และรับทราบ สส.ใหม่ โดยนายจเด็ศ จันทรา สส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น สส.เท่าที่มีอยูู่ 493 องค์ประชุมกึ่งหนึ่ง 247 เสียง

 จากนั้นเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่..) พ.ศ….. จำนวน 3 ฉบับคือ ฉบับที่ 1 ของนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม.พรรคประชาชน และคณะ เป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่ากฎหมายสุราก้าวหน้า, ฉบับที่ 2  ของนางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ และคณะ เป็นผู้เสนอ ที่เรียกว่ากฎหมายสุรารวมไทย และฉบับที่ 3 ของนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กับคณะ เป็นผู้เสนอ เรียกว่ากฎหมายสุราชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งเป็นการเลื่อนลงมติมาจากวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยค้างอยู่ที่การลงมติแยกทีละฉบับ

ผลปรากฏว่า การลงมติฉบับที่ 1 เห็นด้วย 137  เสียง ไม่เห็นด้วย 237 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง  ไม่ลงคะแนน 3 คะแนน ถือว่ามติที่ประชุมไม่รับหลักการฉบับของนายเท่าพิภพ ส่วนฉบับที่ 2 ของนางศิริวรรณ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 385 เสียง ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง ขณะที่ฉบับที่ 3 ของนายชนินทร์ ที่ประชุมมีมติเห็นด้วย 384 เสียง ไม่เห็นด้วย 5 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 7 เสียง ถือว่าที่ประชุมเห็นสมควรรับหลักการฉบับที่ 2 และฉบับที่ 3 ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญจำนวน 32 คน แปรญัตติ 15 วัน โดยใช้ร่างที่เสนอโดยนายชนินทร์เป็นร่างหลักในการพิจาณา

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ว่า การให้ผลิตสุราได้โดยไม่ต้องขออนุญาต เราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ การให้ต้มสุราได้ทุกคน ทุกครัวเรือนโดยไม่ผิดกฎหมาย โดยไม่ต้องแจ้งใคร แล้วหากเสียหายและมีการล้มตายขึ้นมาจะหนักหนาสาหัส

นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวของนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีต สส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงการเดินทางมาที่รัฐสภาว่า มาตามนัด มาทำตามหน้าที่ที่เคยบอกว่าจะเป็นพ่อบ้านสภาชั่วคราว เพื่อติดตามว่าตกลงแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มาทำงานที่สภาหรือไม่  เนื่องจากในวันพุธและพฤหัสบดีเป็นหน้าที่ของ สส.ที่จะมาประชุม ส่วนวันอื่นๆ เป็นสิทธิ์ที่จะไปไหนก็ได้ 

นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงการแถลงข่าวของนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  ระบุวันที่ 3 ต.ค. พล.อ.ประวิตรจะลาประชุม แต่เมื่อไปตรวจสอบดูมีเอกสารล่าสุดเป็นจำนวน 98 ครั้ง ที่เป็นการขาด หรือใช้การลาบังหน้าเกือบ 90%       "ผมรับงานจริง ยอมรับตรงนี้ รับงานมาจากประชาชน คนที่ร้องมาว่า สส.อย่าง พล.อ.ประวิตร ตอนหาเสียงเลือกตั้งสัญญาว่าจะมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งสุดท้ายไม่มาทำหน้าที่ให้คุ้มภาษี  ผมรับงานมาจากประชาชน ทำงานฟรี เขียนเอง ร้องเอง จ่ายค่ารถเอง นักเลงพอ"

นายพร้อมพงศ์ยังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งประธานสภาฯ คณะกรรมการจริยธรรม  รวมถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เร่งดำเนินการเรื่องนี้ ทำสภาให้สะอาดสักที วันนี้ต้องกวาดบ้านตัวเอง สส.ทั้ง 500 คนก็ต้องช่วยกัน

"ขอท้าคุณไพบูลย์ว่า ผมมีข้อมูลทั้งหมดที่จะตรวจสอบ พล.อ.ประวิตร ถ้ายังไม่ลาออกอย่างชายชาติทหาร ถ้าเลือกจะดื้อตาใสต่อไป ผมก็จะตรวจสอบให้จบ ไม่ยืดเยื้อ เจอกัน 2 ชั่วโมงดีเบต ดีหรือไม่ ให้เป็นแมตช์หยุดโลกเลย อยากจากที่ไหนบอก แม้ผมจะรวยน้อยกว่าลุงป้อม แต่ค่าสถานที่ผมจะจ่ายเอง พร้อมนำหลักฐานทั้งหมด ตั้งแต่ภาค 1 คลิปปิดวิญญาณ ภาค 2 ลาโลก ภาค 3 นักบุญทุนชาวบ้านเดินทางหรูกินอยู่สบาย ภาค 4 วงศาคณาญาติเป็นพิษ ภาค 5 นารีเป็นพิษ มีกติกาคือให้เวลาคนละ 1 ชั่วโมงเท่ากัน ให้ถ่ายทอดสดและทำข้อตกลงกัน อย่าเหมือนนายเรืองไกร ที่เดินออกจากรายการในเบรกสอง" นายพร้อมพงศ์ท้า

ขณะที่ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายพร้อมพงศ์ได้อามิสสินจ้างหรือไม่ ขยันมาร้องเรียน อาจเป็นเหตุที่ทำให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดือดร้อน เพราะอาจจะไม่ได้เป็นนายกฯ ต่อ เนื่องจากพรรคที่สังกัดอยู่ถูกยุบ

"คุณพร้อมพงศ์ขยันเหมือนสุนัขเฝ้าบ้าน เห่าทุกคนที่ทำผิด พล.อ.ประวิตรได้ยื่นหนังสือไม่รับเงินเดือนและคืนเงินเดือนทั้งหมดแล้วต่อเลขาฯ  สภา พล.อ.ประวิตรไม่เคยรับเงินเดือน สส.แม้แต่เฟื้องเดียว คุณพร้อมพงศ์เสมือนแมลงวัน ทำลายไม่ได้ ได้แค่รำคาญ จะมีสึนามิลูกใหญ่กระทบพรรคการเมืองที่สังกัด เล่นลิเกไม่มีความผิด แต่จะมีคนดูไหมก็อีกเรื่อง หากกลั่นแกล้งให้คนอื่นรับโทษหรือเสียหาย อันนี้เดือดร้อน คุณพร้อมพงศ์ติดกับแล้วเรียบร้อย แม้จะร้องเป็นการส่วนตัว แต่กฎหมายบางฉบับกระทบไปถึงพรรคที่สังกัดอยู่ คุณพร้อมพงศ์ไม่ได้รู้กฎหมาย ถ้ารู้คงไม่ถูกจำคุก  เตือนหลายครั้งว่าอย่าตกเป็นเบี้ยให้ใช้ อย่าเป็นเบี้ยให้เขาหลอก"

นายสามารถมองว่า นายพร้อมพงศ์เป็นประเภทที่โบราณบอกไว้ให้ฆ่าคนโง่แต่ขยัน เพราะจะสร้างความฉิบหาย สร้างภัยพิบัติให้กับกองทัพ  การใช้คนแบบนี้เป็นเรื่องอันตราย ถ้าจะแก้ให้ข้อบังคับสภาดีขึ้น ควรทำในสมัยพรรคเพื่อไทย ห้าม สส.ขาดเกิน 3 วัน ห้ามลา-ห้ามสาย พล.อ.ประวิตรไม่ได้ใช้อภิสิทธิ์มากกว่าบุคคลใด เป็นลูกผู้ชายไม่รับเงินเดือน เป็นฝ่ายค้านไม่รับผลประโยชน์อันใด ท่านทำด้วยหัวใจที่รับใช้ประชาชน

"พล.อ.ประวิตรมี สส.เยอะแยะที่อยากจะมาปกป้อง แต่คนอย่างนายพร้อมพงศ์ไม่มีราคาพอ  จะฆ่าหมูทำไมต้องใช้มีดฆ่าโค ใช้แค่ผมก็พอแล้ว"

เมื่อถามว่า การลา 90% อาจจะเป็นการลาที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ นายสามารถมองว่า ประธานสภาฯ อนุญาตให้ลา แปลว่าไม่ขาดการประชุม ในสมัยประชุมมี สส.ไม่มาเลยสักวัน ก็ลาได้ ถ้าประธานอนุญาต

ถามถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ระบุนักกฎหมายรอบตัว พล.อ.ประวิตรไม่มีฝีมือ อาจจะทำให้ลุงป้อมจนมุมได้ นายสามารถตอบว่า นายพร้อมพงศ์อ่านกฎหมายคนละเล่ม เราอยู่ในประเทศไทย มีรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นกฎหมายแม่แบบ เป็นกฎหมายของประเทศ กฎหมายใดขัดรัฐธรรมนูญไม่ได้ ไม่รู้ว่านายพร้อมพงศ์อ่านกฎหมายประเทศไหน หรือกฎหมายจักรวาลอื่น.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง