กกร.จ่อเข้าพบผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ โอดบาทแข็งต่อเนื่อง 3 เดือนทะยาน 12% หรือแตะ 4.50 บาท กระทบส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท ขอลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ประเมินน้ำท่วมทุบเศรษฐกิจพัง 5 หมื่นล้านบาท ฉุดจีดีพี 0.2%
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุม กกร.ประเมินค่าเงินบาทในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว 12% หรือคิดเป็น 4.50 บาท จาก 36.8 บาท มาอยู่ที่ 32.3 บาท/เหรียญสหรัฐ เป็นการแข็งค่ากว่าค่าเงินอื่นในภูมิภาค กดดันการส่งออกและเป็นปัจจัยลบต่อความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหารที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี อาจกระทบรายได้ส่งออก 1.8-2.5 แสนล้านบาท
“กกร.มีความกังวลต่อสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรให้ความสำคัญกับการดูแลค่าเงินไม่ให้แข็งค่าหรือผันผวนเร็วจนเกินไป และทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าระดับ 34.0-34.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่ธุรกิจแข่งขันได้ และให้เร่งพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% ภายในปีนี้ และอีกประมาณ 0.25-0.5% ภายในปีหน้า ช่วยลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว และให้พิจารณาทบทวนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ ที่กำลังอยู่ในช่วงหารือร่วมกับกระทรวงการคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับบริบทศักยภาพและโครงสร้างของเศรษฐกิจประเทศทั้งปัจจุบันและอนาคต” นายสนั่นระบุ
ทั้งนี้ กกร.เตรียมขอเข้าพบกับผู้ว่าการ ธปท.ให้เร็วที่สุด เพื่อหารือใน 2 ประเด็นคือ ภาพรวมเศรษฐกิจ และการดูแลค่าเงินบาทให้เหมาะสม แข่งขันได้ นอกจากนี้ เตรียมจะทำหนังสือขอพบนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นสมุดปกขาว ซึ่งมีข้อเสนอ 4 ประเด็นหลัก คือ 1.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.การช่วยเหลือธุรกิจ SME 3.การบริหารจัดการน้ำ ทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง 4.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
นายสนั่นกล่าวด้วยว่า ต้องติดตามผลกระทบจากอุทกภัยและแนวโน้มพายุลูกใหม่ที่อาจเข้าไทยอีกในช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งคาดว่าน้ำท่วมรอบนี้จะทำให้เกิดความเสียหายราว 3-5 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 0.2% ของจีดีพี อย่างไรก็ตามประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2567 จะยังสามารถขยายตัวได้ในกรอบ 2.2% ถึง 2.7% ด้วยแรงสนับสนุนจากภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุน รวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งในส่วนของการเยียวยาและมาตรการที่เข้ามาช่วยเสริมสภาพคล่องในการฟื้นฟูกิจการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบไปเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา
ด้านนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มเปราะบางด้วยการแจกเงิน 10,000 บาทนั้น โดยหลักการแล้วเมื่อแจกเป็นเงินสด ผลกระทบจะเกิดขึ้นเร็ว ซึ่งจะเข้าสู่ระบบโดยตรง และหนุนต่อไปเรื่อยๆ ตามโครงสร้างเศรษฐกิจในปัจจุบัน แม้ในเชิงตัวเลขอาจจะต่ำลง เพราะวงเงินที่แจกลดลงจาก 5 แสนล้านบาท เหลือเพียง 1.4 แสนล้านบาท แต่ยังเป็นผลให้เชิงบวกต่อเศรษฐกิจ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บิ๊กอ้วนตอกยํ้า แจก‘เงินดิจิทัล’ ‘อนุสรณ์’เตือน
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
อิ๊งค์หาเสียงฟุ้งพท.มาคนจนรวยแน่
"หัวหน้าอิ๊งค์” ลุยนครพนม ช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียง
รพ.ตำรวจอึมครึม เวชระเบียนชั้น14
เส้นตายพุธนี้! แพทยสภาสอบหมอช่วย "ทักษิณ" อึมครึม "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" ปัดตอบส่งเอกสารหรือยัง
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต
จับตา!เคาะ‘กาสิโน’ คลังชงเข้าครม.ไฟเขียว/นักวิชาการชี้ผลประโยชน์ทับซ้อน
จับตา “คลัง” เล็งชงเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เข้า ครม.จันทร์นี้หรือไม่ หลัง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย