ดีเดย์17ตุลา ขายหวย3ตัว ใบละ20บาท

สำนักงานสลากฯ ดีเดย์ 17 ต.ค.  ประเดิมขายหวย N3 ใบละ 20 บาท ผ่านโครงการร้านค้าสลาก 80 บาท 400 จุดทั่วประเทศ ฟุ้งลุ้น 4  รางวัล ไม่มีเลขอั้น ทดลอง 6 เดือน ก่อนขายจริง เม.ย.68 หวังช่วยแก้ปัญหาสลากเกินราคา ดูดเงินหวยใต้ดินเข้าระบบ

ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เมื่อวันที่ 2  ตุลาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงการเดินหน้าโครงการ “สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (N3)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ของสำนักงานสลากฯ ว่า สำนักงานสลากฯ กำหนดจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักในระบบทดสอบแบบปิด (Sandbox) ให้กับประชาชนทั่วไป  ตั้งแต่งวดวันที่ 1 พ.ย.2567 หรือจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.2567 เป็นต้นไป เป็นเวลา 6 เดือน ผ่านจุดจำหน่ายในโครงการร้านค้าสลาก 80 บาททั่วประเทศ กว่า 400 จุด

ทั้งนี้ จะจำหน่ายในราคา 20 บาทต่อรายการ โดยเริ่มต้น 2 ล้านรายการ คิดเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท หลังจากนั้นจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งเพดานการจำหน่ายในช่วงทดสอบระบบ 6 เดือนนั้น จะอยู่ที่ 10 ล้านรายการ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยระหว่างนี้จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลการจำหน่าย  ผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก และจะเริ่มจำหน่ายเต็มรูปแบบได้ตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย.2568

 “ในช่วงทดสอบระบบ 6 เดือนนี้ จะมีการเก็บข้อมูลผลกระทบต่อลูกค้าและกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย รวมทั้งผลต่อการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักทั้งหมด ซึ่งจะมีการประเมินเป็นระยะๆ โดยสลาก N3 นั้น เป็นหนึ่งในแนวทางการแก้ไขสลากเกินราคาแบบครบถ้วนในทุกมิติยิ่งขึ้น สามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนและเป็นไปตามกลไกตลาด  สามารถแก้ปัญหาให้ผู้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักที่ยังไม่สามารถซื้อหมายเลขที่ต้องการได้ ทำให้ต้องไปพึ่งพาทางเลือกอื่น เช่น การจำยอมซื้อสลากเกินราคาเพื่อให้ได้หมายเลขที่ต้องการ และผลพลอยได้คือการดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดิน ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1-3 แสนล้านบาทต่อปี ขึ้นมาอยู่ในระบบ โดยสำนักงานสลากฯ คาดหมายว่าจะสามารถดึงเม็ดเงินจากหวยใต้ดินได้ราว 10-20%” นายธนวรรธน์ระบุ

สำหรับกระบวนการคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำเกณฑ์การคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย และข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นและพร้อมให้ดำเนินการก่อนเปิดจำหน่ายเต็มรูปแบบในเดือน เม.ย.2568

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สลากตัวเลขสามหลัก สามารถเลือกซื้อได้ทุกหมายเลข ตั้งแต่ 000-999 ไม่มีเลขอั้น โดยผู้ซื้อสามารถซื้อสลากในช่วงทดสอบจำหน่ายได้ที่ “ร้านค้าโครงการสลาก 80” ที่เข้าร่วมโครงการกว่า 400 แห่งทั่วประเทศ สามารถสแกนตรวจสอบจุดจำหน่ายได้จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง และทำรายการซื้อสลากพร้อมชำระเงินผ่านอุปกรณ์ที่สำนักงานสลากฯ ได้ติดตั้งไว้ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของโครงการที่ต้องชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลเท่านั้น ซึ่งในแต่ละครั้งสามารถซื้อสูงสุดได้ไม่เกิน 100 รายการ

ทั้งนี้ สลาก 1 ใบ มีโอกาสถูก 4 ประเภทรางวัล ได้แก่ สามตรง, สามสลับหลัก, สองตรง และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะจ่ายเงินรางวัลในรูปแบบผันแปรตามจำนวนผู้ซื้อในแต่ละหมายเลขที่ถูกรางวัลในงวดนั้นๆ กำหนดออกรางวัลเดือนละ 2 ครั้ง ใช้ผลรางวัลอ้างอิงจากผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก โดยรางวัลสามตรงและสามสลับหลัก จะมาจากเลข 3 ตัวท้ายของผลรางวัลที่ 1,  รางวัลสองตรงมาจากผลรางวัลเลขท้าย 2 ตัว และรางวัลพิเศษจะสุ่มจากผู้ถูกรางวัลสามตรงเท่านั้น  โดยจะมีการออกรางวัลพิเศษภายหลังจากการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักเสร็จสิ้นในแต่ละงวด

สำหรับการจ่ายรางวัล ผู้ที่ถูกรางวัลจะได้รับการแจ้งเตือนในแอปพลิเคชันเป๋าตัง และสามารถกดรับเงินรางวัลผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้ทันที โดยจะต้องมีการชำระค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 1  บาทต่อเงินรางวัล 200 บาท หรือเศษของ 200 บาท และการรับเงินโดยวิธีการโอนเงินรางวัลเข้าบัญชีธนาคาร โดยธนาคารกรุงไทย ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม

 “สำนักงานสลากฯ จะจำหน่ายสลากด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์ ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีสามารถซื้อสลากได้ การกำหนดพื้นที่ในการจำหน่ายสลากห้ามใกล้กับสถานศึกษา เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลักแบบดิจิทัล” พ.ท.หนุนระบุ

อย่างไรก็ดี ในส่วนของการจัดสรรรายได้จากการจำหน่าย ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นเงินรางวัล 60% โดยในส่วนนี้ แบ่งเป็น 1.รางวัลสามตัวตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%, 2.รางวัลสามสลับหลัก สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 30%, 3.รางวัลสองตรง สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 39% และ 4.รางวัลพิเศษ สัดส่วนเงินรางวัลไม่เกิน 1% โดยหากประเภทรางวัลใดไม่มีผู้ถูกรางวัล จะสมทบเงินรางวัลดังกล่าวไปยังงวดถัดไปตามประเภทรางวัล และหากในงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลอีก จะต้องนำเงินที่สมทบดังกล่าวนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน โดยการออกรางวัลจะแบ่งเป็นเดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน หรือตามที่สำนักงานสลากฯ กำหนด และส่วนที่ 2 ไม่น้อยกว่า 23% เป็นรายได้แผ่นดิน, ส่วนที่ 3 ไม่เกินกว่า 17% เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง