โศกนาฏกรรม23ศพ ไหม้บัสทัศนศึกษาคลอกนร.-ครู/สั่งเยียวยาล้อมคอกไม่เกิดซ้ำ

สุดสะเทือนใจ! เกิดเหตุโศกนาฏกรรมหมู่ ไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา คลอกครู-นร. ดับ 23 ราย เจ็บอีก 3 "ในหลวง" ทรงรับผู้บาดเจ็บไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ “นายกฯ อิ๊งค์” ร่ำไห้แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต สั่งเยียวยาพร้อมจัดทีมแพทย์ดูแลสภาพจิตใจ "อนุทิน" ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ ยกเป็นภัยพิบัติ สั่งผู้ว่าฯ ดูแล "บิ๊กต่าย" ยันเอาผิดทั้งบริษัท-คนขับ กำชับ พฐ.-นิติเวช ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอให้เสร็จใน 2 วัน

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เวลา 12.08 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสรับนักเรียนทัศนศึกษา ยี่ห้อเบนซ์  บริษัทชินบุตร แผ่นป้ายทะเบียนเหลือง ทะเบียน 30-0423  สิงห์บุรี บริเวณช่องทางเลนขวาสุดในช่องทางด่วน ถนนใต้อนุสรณ์สถานมุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ หลัก กม.ที่ 28 ถนนพหลโยธินขาเข้า ปากซอยพหลโยธิน 72 ใกล้เคียงเซียร์รังสิต ต.คูคต อ.ลำลูกกา โดยเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำและเข้าช่วยเหลือ

จากการสอบถามนายปรีชา อายุ 50 ปี นักการภารโรง เผยว่า รถบัสกำลังพานักเรียนอนุบาลของโรงเรียนวัดเขาพระยา จ.อุทัยธานี ไปทัศนศึกษายังอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ.ส่วนกลาง โดยพาครูและนักเรียนมาทั้งหมด 44 คน เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ รถบัสเกิดยางหน้าซ้ายแตก จากนั้นรถบัสเสียหลักไปเบียดกับแบริเออร์ที่อยู่เกาะกลางถนนวิภาวดีและได้เกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ส่วนครูที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังไปทัศนศึกษา จากนั้นเห็นไฟลุก แต่ประตูรถเปิดไม่ได้

ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์เพลิงไหม้รถบัสนักเรียน พร้อมสั่งการด่วนให้ตำรวจภูธรภาค 1 และ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยเป็นรถของโรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี ระหว่างมาทัศนศึกษาทั้งหมด 3 คัน ซึ่งคันเกิดเหตุเป็นคันที่ 2 ขณะมาถึงบริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า ได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ส่งผลให้มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

เบื้องต้นมีรายงานว่า รถคันดังกล่าวมีเด็กนักเรียนและครูเดินทางมาทั้งหมด 45  คน ขณะเกิดเพลิงไหม้ สามารถออกจากรถได้ 19 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ทั้งนี้ พ.ต.อ.กานตภณ วรรณณา ผกก.สภ.คูคต นำกำลังเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ประสานหน่วยงานและสนับสนุนในการดับเพลิง จากนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐเดินทางลงพื้นที่ด้วยตนเอง และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเป็นการด่วน

ต่อมาเวลา 13.08 น. ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ได้ส่งรองนายกรัฐมนตรีไปดูแล้วคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย

โดยทันทีที่พูดจบนายกฯ ได้เดินฝ่าวงล้อมสื่อมวลชนด้วยอาการร่ำไห้และสีหน้าเศร้าสลด ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าโดยไม่ตอบคำถามอะไรเพิ่มเติม

มีรายงานว่า ก่อนที่นายกฯ จะให้สัมภาษณ์ ได้นั่งทำใจอยู่ในห้องพักอยู่ประมาณ 10 นาที ก่อนที่จะเดินออกมา รวมถึงเมื่อทีมงานจะนำภาพเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสให้ดู นายกฯ ยกมือห้ามขอไม่ดู

นายกฯ เสียใจสั่งเยียวยา

จากนั้น น.ส.แพทองธารโพสต์ข้อความถึงเหตุเพลิงไหม้รถโรงเรียนว่า “ดิฉันทราบถึงเหตุการณ์ไฟไหม้รถบัสจากอุทัยธานี ที่โดยสารนักเรียนเข้ามาทัศนศึกษาในกรุงเทพฯ และเกิดอุบัติเหตุบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ในฐานะแม่ ดิฉันขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ในฐานะรัฐบาล ได้สั่งการให้ท่านอนุทิน ท่านสุริยะ และท่านซาบีดา ลงไปยังพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเองแล้ว โดยรัฐบาลจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตค่ะ

โดยเวลา 14.38 น. นายกฯ เดินทางถึงโรงพยาบาลแพทย์รังสิตเพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บ มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม, นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย ในฐานะ สส.อุทัยธานี มารอรับ และรายงานตัวเลขผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต

นายกฯ เปิดเผยภายหลังเยี่ยมผู้บาดเจ็บด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นมีอยู่ 3 คน ตอนนี้อยู่ไอซียู ซึ่งขณะนี้แพทย์กำลังดูแลอยู่ ต้องรักษาสักพักเพราะโดนไฟลวก ส่วนน้องๆ ที่ปลอดภัยทางกระทรวงคมนาคมจะจัดรถให้เดินทางกลับ

จากนั้น น.ส.แพทองธารเดินทางมายังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ชั่วคราว ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยเมื่อมาถึง มีนายอนุทิน, พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข, นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาบัญชาการสถานการณ์อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ พล.อ.ทรงวิทย์ได้รายงานสถานการณ์การดูแลเด็กนักเรียนและครูที่ได้รับบาดเจ็บ และเตรียมส่งตัวกลับจังหวัดอุทัยธานี ก่อนที่นายกฯ จะเข้าไปเยี่ยมเด็กและครูที่พักอยู่ภายในศูนย์ฯ ดังกล่าว ภายหลังเยี่ยมและให้กำลังใจ นายกฯ ระบุเพียงสั้นๆ ว่า ต้องให้กำลังใจ

นายวราวุธรายงานนายกฯ ว่า ในส่วนของ พม. เจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลแต่ละครอบครัว รวมทั้งมีทั้งแพทย์และทีมสหวิชาชีพที่มาจาก จ.อุทัยธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และชัยนาท ทั้งนี้ นายกฯ ได้สั่งการไปยังนายสมศักดิ์ให้จัดทีมแพทย์คอยดูแลสภาพจิตใจทั้งเด็กและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ใช่เฉพาะรถคันที่เกิดเหตุ แต่รวมถึงรถที่มาในคณะทั้งหมด เนื่องจากบางคนเป็นพี่น้องกัน โดยให้แยกดูแลระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงครอบครัวที่ จ.อุทัยธานีด้วย

ด้านนายอนุทิน ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยพิบัติ ตามกฎหมายผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ ทราบว่าผู้ที่รอดชีวิตนำส่งโรงพยาบาลแล้ว แต่พื้นที่ยังมีความเสี่ยง เพราะยังมีถังแก๊สใต้รถที่ต้องจัดการให้ปลอดภัย เจ้าหน้าที่ถึงจะเข้าปฏิบัติภารกิจต่อไปได้ สิ่งที่อยากจะขอคือ การทำงานของสื่อ ภาพบางอย่าง ขอให้อย่าถ่ายเลย โปรดให้เกียรติผู้เสียชีวิต สำหรับสาเหตุต้องรอข้อเท็จจริง เมื่อตั้งศูนย์บัญชาการสถานการณ์แล้ว อยากให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งจัดการที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด

"รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องให้กำลังใจผู้ปกครอง ญาติ รถคันนี้มาจากอุทัยธานี ทาง รมช.ซาบีดา ท่านชาดา ไทยเศรษฐ์ และ สส.เจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ น่าจะรู้จักครอบครัวหมด ตอนนี้เราก็จะต้องจัดการทั้งที่นี่และทางโน้นให้เรียบร้อย” นายอนุทินระบุ

จ่อยกเลิกรถใช้ก๊าซ CNG

ขณะที่นายสุริยะกล่าวว่า พบว่ารถบัสคันดังกล่าวใช้เชื้อเพลิงชนิดก๊าซ CNG โดยกระทรวงคมนาคมจะมีการพิจารณาว่าหากเกิดอันตรายอาจจะมีคำสั่งให้เลิกใช้เชื้อเพลิงนี้ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เรียกกรมขนส่งทางบกประชุมโดยด่วนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงเตรียมเพิ่มแนวทางมาตรการการป้องกันที่เข้มข้นขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก

น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายสุริยะสั่งการให้คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกฯ เตรียมประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ในวันที่ 2 ต.ค. เวลา 11.00 น.

นายชาดาเปิดเผยว่า จากการพูดคุยพบว่านักเรียนที่บาดเจ็บสาหัส 3 คน มี 1 คน ที่ผู้ปกครองเดินทางมา ส่วนอีก 2 คนกำลังตามหาผู้ปกครอง โดยจะเป็นการพาผู้ปกครองมาโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าไข้ ส่วนผู้ที่ปลอดภัยแล้วส่งกลับจังหวัดอุทัยธานี โดยพบว่าเด็กมีอาการตกใจ แต่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเด็กอยู่ตลอดเพื่อช่วยเยียวยาสภาพจิตใจ ส่วนผู้ใหญ่ 3 คนที่เสียชีวิตเป็นครู 2 คน และเป็นครูฝึกสอน 1 คน เบื้องต้นผู้บาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิตทั้งหมด และหลังจากนี้จะมีการส่งตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมดไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เมื่อถามว่าคนขับรอดชีวิตหรือไม่ นายชาดาระบุว่า น่าจะรอด

ส่วนเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเป็นหลักไม่น่าเกี่ยวข้องกับสภาพรถใช่หรือไม่นั้น นายชาดากล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เขาว่ารถมันล็อก คนขับโดดหนีไป และคาดว่าคนขับน่าจะหายไปแล้ว ตอนนี้ยังตามตัวไม่ได้

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐเปิดเผยภายหลังเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้รถทัศนศึกษานักเรียนว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด สาเหตุที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุครั้งนี้สันนิษฐานว่าเกิดจากยางรถระเบิด ทำให้เกิดประกายไฟและมีถังแก๊สซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอยู่ในรถดังกล่าว ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเข้าไปยังห้องโดยสาร โดยภายในรถคันที่เกิดเหตุมีครูจำนวน 6 คน เด็กนักเรียน 39  รวมจำนวน 45 คน

 “รถคันเกิดเหตุมีเด็กอยู่จำนวน 39 คน มีทั้งระดับอนุบาลและประถม มีทั้งเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชาย เจอที่โรงพยาบาล 3 คน และอยู่ที่ศูนย์ฯ 16 คน ดังนั้นยังหาไม่เจอ 20 คน ส่วนครูมี 6 คน ขณะนี้พบครู 3 คน อีก 3 คนยังไม่พบ ดังนั้นนักเรียนยังหาไม่เจอ 20 คน"      รรท.ผบ.ตร.ระบุ

บิ๊กต่ายสั่งล่าตัวคนขับ

ส่วนคนขับที่หลบหนีไปหลังเกิดเหตุนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพร้อมกับบริษัทเพื่อนำมาประกอบการสอบสวนนำไปสู่การออกหมายจับ โดยทั้งคนขับและบริษัทต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งทราบว่าพนักงานขับรถอยู่ที่จังหวัดสิงห์บุรี ไม่ใช่เรื่องยากในการติดตาม และจะเร่งติดตามให้เร็วที่สุด ส่วนผู้ที่เสียชีวิตนั้นพบร่างติดอยู่ข้างใน แต่ยังไม่ยืนยันจำนวน ขั้นตอนหลังจากนี้ เมื่อนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดออกมา จะนำไปที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ โดยได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) ให้ร่วมมือกับแพทย์นิติเวชในการเก็บดีเอ็นเอของร่างผู้เสียชีวิต และจะได้ประสานกับญาติหรือผู้ปกครองเพื่อนำดีเอ็นเอไปเปรียบเทียบ และต้องตรวจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วภายใน 2 วัน เพื่อให้ญาตินำศพผู้เสียชีวิตกับไปดำเนินตามประเพณี

เช่นเดียวกัน ในการตรวจสอบรถ เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจพิสูจน์ ต้องตรวจสอบว่าสภาพรถมีความพร้อมในการแก้ไขเมื่อเกิดเหตุเบื้องต้นหรือไม่ เพราะอยู่ในเงื่อนไขขั้นตอนความประมาทหรือไม่ การดำเนินคดีต้องสอบสวนข้อเท็จจริงว่าเกิดจากความประมาทของคนขับและบริษัทหรือไม่อย่างไร

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) เปิดเผยว่า สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะนี้สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 5 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ เนื่องจากสภาพศพถูกไฟไหม้เกรียม ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างทยอยค้นหาเพื่อนำร่างออกจากรถคันดังกล่าว ซึ่งยังไม่สามารถสรุปจำนวนที่ชัดเจนได้

พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตร. กล่าวว่า นิติเวช รพ.ตร.ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขนำทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตใจภาวะวิกฤต หรือ MCATT มาประจำที่ ศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจกับผู้ปกครองหรือญาติที่มาติดตามความคืบหน้า โดยจัดห้องประชุมชั้น 3 ไว้รองรับ ทั้งนี้ ญาติที่ต้องการขอข้อมูลหรือปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0-2207-6108 ต่อ 1101 ตลอด 24 ชั่วโมง

นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียน โดยมีตนเป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยและญาติอย่างเต็มที่ ทั้งนี้มีผู้ป่วย 5 ราย เบื้องต้นนำส่งโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ในจำนวนนี้อาการหนักสีแดง 2 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 7 ขวบ และ 9 ขวบ ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์รังสิต, เด็กหญิงอายุ 14 ปี อาการสีเหลือง ส่งต่อสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ส่วนอีก 2 ราย เป็นหญิงอายุ 44 ปี และ 42 ปี ให้กลับบ้านได้ โดยผู้ป่วยทุกราย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์

ในช่วงค่ำ นายสมาน อายุ 48 ปี คนขับรถคันเกิดอุบัติเหตุ ได้เดินทางเข้ามอบตัวแล้วที่ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง