เลือกนายกอบจ. พท.ขอนแก่นวุ่น มุกดาค้านวัฒนา

เลือกตั้งท้องถิ่นคึกคัก! ประกาศผลเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานีอย่างไม่เป็นทางการ "บิ๊กแจ๊ส" ชนะขาด "ลุงชาญ" คะแนนหายเป็นแสน ขณะที่ "นายกโต้ง” ค่ายบ้านใหญ่ของ “ลูกหมี” ซิวเก้าอี้นายก อบจ.ชุมพรแบบไร้คู่แข่ง เลือกตั้ง อบจ.ขอนแก่นเดือด "วัฒนา" สวมเสื้อเพื่อไทย ประกาศท้าชิง "พงษ์ศักดิ์" 

 องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เผยผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี พร้อมข้อความระบุว่า ประกาศผลการนับคะแนนการเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีใหม่ วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567

สำหรับผลการนับคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อย่างไม่เป็นทางการ) นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ได้ 120,007 คะแนน นายอธิวัฒน์ สอนเนย ผู้สมัครหมายเลข 2 ได้ 7,675 คะแนน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครหมายเลข 3 ได้ 187,975 คะแนน นายนพดล ลัดดาแย้ม ผู้สมัครหมายเลข 4 ได้ 9,736 คะแนน

ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 953,302 คน ผู้มาใช้สิทธิ 357,695 คน บัตรดี 325,393 บัตร บัตรเสีย 7,258 บัตร บัตรไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 25,044 บัตร

ผู้สื่อข่าวรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.ชุมพร หลังนับคะแนนแล้วเสร็จอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อช่วงประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยนายนพพร อุสิทธิ์ หรือนายกโต้ง อดีตนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา ซึ่งได้ลาออกก่อนจะครบวาระ 4 ปี ที่เหลือเวลาอีกเพียงกว่า 3 เดือนเท่านั้น

โดยการสมัครชิงนายก อบจ.ชุมพรครั้งนี้ นายกโต้งได้หมายเลข 1 เพราะเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้งเพียงคนเดียวเท่านั้น ซึ่งผลคะแนนนับครบทุกเขตเลือกตั้งแล้วผลอย่างไม่เป็นทางการ นายกโต้งได้คะแนน 156,806 คะแนน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 4 แสนคน โดยคะแนนของนายกโต้งครั้งนี้มากกว่าสมัยที่ผ่านมาถึง 9,480 คะแนน จากคะแนนที่ได้สมัยที่ผ่านมาจำนวน 147,326 คะแนน

ด้านนายนพพรกล่าวว่า ขอขอบคุณจากใจทุกคะแนนเสียงที่ไว้วางใจให้ตนได้ทำหน้าที่บริหารงานใน อบจ.ชุมพร ต่ออีกสมัย ซึ่งคะแนนที่ได้มาทั้งหมด เนื่องจากผลงานในสมัยที่ผ่านมา ตนได้ทำให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน 

สำหรับนายกโต้ง เป็นพี่เขยของลูกหมี หรือนายชุมพล  จุลใส อดีต สส.ชุมพรหลายสมัย และเป็นน้องเขยของนายสุพล จุลใส สส.เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งแม้ลูกหมีจะลงสมัคร สส.ไม่ได้ เนื่องจากถูกคำสั่งศาลให้เว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี จากคดีเป็นแกนนำกลุ่ม กปปส.ในเหตุการณ์การชุมทางการเมือง แต่ก็ยังมีบารมีทางการเมืองทั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ โดยระดับท้องถิ่นมี ส.อบจ.ชุมพรอยู่ในค่ายบ้านใหญ่ถึง 29 คน 29 เขต จากทั้งหมด 30 เขตเลือกตั้งใน 8 อำเภอของจังหวัดชุมพร และมี สส.สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง 3 เขตในพื้นที่ จ.ชุมพรอีกด้วย จึงไม่มีพรรคการเมืองหรือผู้สมัครอิสระคนใด ลงสมัครท้าชิงตำแหน่งนายก อบจ.ชุมพรในครั้งนี้

ที่หอประชุม อบจ.ขอนแก่น นายพันธ์เทพ เสาโกศล  รอง ผวจ.ขอนแก่น ในฐานะประธานกรรมการการเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายวัชระ สีสาร ผอ.กกต.จ.ขอนแก่น และ ร.อ.พงเจตน์ พรกุณา ปลัด อบจ.ขอนแก่น ในฐานะ ผอ.กกต.อบจ.ขอนแก่น ได้ทำการกำกับและควบคุมการสมัครรับการเลือกตั้งนายก อบจ.ขอนแก่นแทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังจากที่นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีตนายก อบจ.ขอนแก่นหลายสมัย ได้ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระ 3 เดือน

ทั้งนี้ กกต.ขอนแก่นได้กำหนดสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. และจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย. โดยบรรยากาศการรับสมัครรับเลือกตั้งวันแรกเป็นไปอย่างคึกคัก เริ่มจากเวลา 08.07 น. นายวัฒนา ช่างเหลา ประธานสโมรสรฟุตบอลขอนแก่น ยูไนเต็ด สมาชิกพรรคเพื่อไทยและอดีต สส.ขอนแก่น ได้เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมกับนายเอกราช ช่างเหลา สส.พรรคภูมิใจไทย โดยมีกองเชียร์ตามมาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง                    

ในเวลาไล่เลี่ยกัน นายพงษ์ศักดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์ อดีตนายก อบจ.ขอนแก่นหลายสมัย ก็เดินทางมาสมัครรับเลือกตั้ง โดยมีกองเชียร์จำนวนมากเช่นกัน

ก่อนที่ ร.อ.พงเจตน์ พรกุณา ปลัด อบจ.ขอนแก่น ในฐานะ ผอ.กกต.อบจ.ขอนแก่น จะได้ทำความเข้าใจกับผู้สมัครทั้ง 2 คน เพื่อจัดอันดับในการจับหมายเลขผู้สมัคร  โดยนายพงษ์ศักดิ์ได้จับเป็นคนแรก และจับได้หมายเลข 2 ขณะที่นายวัฒนาจับได้หมายเลข 1 ก่อนที่จะดำเนินการสมัครตามขั้นตอนที่ กกต.กำหนด เสร็จเรียบร้อยก็ออกไปพบกับกองเชียร์ด้านหน้าหอประชุม อบจ.ขอนแก่น ซึ่งมีกองเชียร์หลั่งไหลมอบดอกกุหลาบและคล้องพวงมาลัยดอกดาวเรือง และส่งเสียงเชียร์คนของตัวเอง

นายพงษ์ศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า จากประสบการณ์การเป็นนายก อบจ.ขอนแก่นถึง 6 สมัย ทำให้รู้ปัญหาประชาชนชาวขอนแก่นเป็นยังไงและแก้ไขปัญหามาตลอด ถ้าได้กลับเข้ามาคราวนี้จะประสานงานต่อ ก่องานใหม่ สร้างให้ชาวขอนแก่นมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ด้านการศึกษา การสาธารณสุข การท่องเที่ยว  การค้าลงทุน รู้สึกพอใจกับเบอร์ที่ได้เบอร์ 2 เป็นเบอร์คู่เป็นเบอร์ที่ดีมาก และการที่ตัวเองและทีมงานใส่เสื้อสีเขียวมาในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์และแสดงถึงชัยชนะ และใส่กำไลของหลวงปู่ศิลาเพื่อเป็นสิริมงคล และพกพระหลวงปู่ประจำตัวมาตลอด การที่เป็นนายก อบจ.มาหลายสมัยเป็นการได้เปรียบคู่ต่อสู้แน่นอน ประวัติไม่เคยเสีย มั่นใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ 1 ล้านเปอร์เซ็นต์

ขณะที่นายวัฒนากล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้มีความพร้อมเต็มที่ ซึ่งตนมองว่า อบจ.ขอนแก่นอยู่ที่เดิมมา 28 ปีแล้ว และกว่า 10 ปีที่ผ่านมาไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย จึงอาสาเข้ามาเป็นนายก อบจ.ขอนแกน เพื่อให้ทุกคนมีทางเลือกใหม่ เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาลงสมัครเป็นนายก อบจ.ในครั้งนี้

"ตอนนี้สมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเรียบร้อย วันนี้มาสมัครรับเลือกตั้งในนามของสมาชิกพรรคเพื่อไทย มีความมั่นใจ 100% ว่าขอนแก่นที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตนจะเป็นคนทำให้ขอนแก่นก้าวไปข้างหน้า เพราะเคยเป็นรองนายก อบจ.มาแล้ว 7 ปี เห็นปัญหาต่างๆ ของ อบจ. วันนี้มีพ่อมาให้กำลังใจด้วย  ตอนนี้บ้านเมืองต้องการความเปลี่ยนแปลง ขอนแก่นต้องก้าวไปข้างหน้า ในฐานะคนรุ่นใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระบบดิจิทัล เข้ามารับเรื่องร้องเรียน ความรวดเร็วในการทำงาน การดูแลแต่ละพื้นที่ ความเดือดร้อนของชาวบ้านต้องปรับปรุงในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมากว่า 10 ปี เราจะเข้าไปทำทั้งหมด วันนี้ได้เวลาเปลี่ยนแปลงแล้ว ฝากชาวขอนแก่นมาเลือกตั้งกันเยอะๆ เพราะการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่ที่คะแนนเสียงชาวขอนแก่น"

วันเดียวกันนี้ นางมุกดา พงษ์สมบัติ อดีต สส.ขอนแก่น  พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายวัฒนาไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แล้วจะอ้างว่าพรรคเพื่อไทยเป็นคนส่งสมัครนั้น จริงๆ แล้วใครก็มีสิทธิ์ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค  ซึ่งจะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้ เพราะมีกระบวนการของคณะกรรมการบริหารพรรคที่ต้องคุยกันว่า สส.จังหวัดนั้นต้องการใคร และมีอุดมการณ์อย่างไร

"ในพรรคเราจะพูดคุยกันแบบนี้ แต่ถ้าใครจะมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคนั้นได้ทั้งหมด แต่จะนำไปอ้างว่าเป็นคนของพรรคเพื่อไทยมาลงสมัครแบบนี้ไม่ได้ ถือว่าประเด็นนี้จะมีการพูดคุยกันในพรรคพรุ่งนี้ เพราะมติพรรคเป็นแบบนี้ แต่ถ้ามติพรรคเห็นด้วยว่าจะมีการส่งคนนั้นคนนี้ลงสมัครแบบนี้จึงจะได้ แต่เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพียงแต่ทราบว่านายวัฒนาไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคเท่านั้นที่จะต้องออกมาพูดเอง" นางมุกดากล่าว.