อิ๊งค์สั่งเยียวยาอุทกภัยสองรอบ

"ในหลวง-พระราชินี" พระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง 100 ชุด ฟื้นฟูบ้านเรือนผู้ประสบอุทกภัยเชียงราย นายกฯ ส่งมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภคช่วย ปชช. เน้นย้ำเร่งกำจัดดินโคลน เผยเงินเยียวยาก้อนแรกเริ่มจ่ายแล้ว​ จ่อร่วมถก ศปช.หารือหลักเกณฑ์ใหม่จ่ายก้อนสอง  สทนช.สั่ง 22 จังหวัดรับมือน้ำท่วม 23-25 ก.ย.   พะเยาอ่วม น้ำป่าทะลักรอบสอง

เมื่อวันที่ 22 กันยายน เวลา 09.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ส่งมอบสิ่งของอุปโภค-บริโภค และอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ได้รับจากเอกชนและหน่วยงานต่างๆ ภายใต้โครงการ “ประสานพลัง ประสานใจ” เพื่อส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยเครื่องบินกองทัพอากาศ (C130)   โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กองทัพอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ร่วมส่งมอบสิ่งของให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ทั้งนี้​​ นายกฯ​ ได้นำสิ่งของส่วนตัวมาสมทบ เพื่อนำไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยด้วย ซึ่งมีทั้งไม้กวาด​ ถังน้ำ​ จอบ​ พลั่ว แปรงขัดพื้น​ รวมไปถึงเสื้อผ้าเด็กอ่อน​ ของน้องธิธาร สุขสวัสดิ์ และ​น้องพฤจ์ธาษิณ สุขสวัสดิ์ น.ส.แพทองธารกล่าวถึงการนำเสื้อผ้าเด็กอ่อนมาร่วมบริจาคในครั้งนี้ว่า ช่วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา​ให้ลูกๆ ได้ช่วยกันเลือกว่าเสื้อผ้าชุดไหนที่เล็กแล้ว เพราะครั้งเมื่อไปจังหวัดเชียงราย ได้เห็นคนท้อง และมีเด็กๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่เต็มเลย จึงคิดว่าเสื้อผ้าเด็กเป็นอะไรที่ขาดแคลน นอกจากนี้ยังมีของใช้จำเป็น​ เช่น ไม้กวาด พลั่ว

ส่วนความคืบหน้าในการนำดินโคลนออกจากบ้านเรือนของประชาชนนั้น นายกฯ ได้มอบหมายให้ พล.อ.ธีระยุทธ จินหิรัญ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นผู้ตอบคำถามแทนว่า สถานการณ์ในการกำจัดโคลนเราเริ่มจากเส้นทางหลักก่อน จากนั้นจะเริ่มนำรถเข้าไปในพื้นที่ เพื่อที่จะเข้าตามบ้านเรือนแต่ละหลัง เพราะตอนนี้สภาพโคลนในบ้านแต่ละหลังท่วมสูงประมาณ 1-2 เมตร และที่จำเป็นต้องเคลียร์เส้นทางก่อนเพื่อที่จะสามารถขนดินบ้านเรือนของประชาชนออกได้

ขณะที่​นายกฯ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของท่อระบายน้ำหลัก เราพยายามทำให้เคลียร์ก่อน เพราะถ้าดินโคลนที่เข้าไปแข็งตัวจะยิ่งปิดกั้นทุกอย่าง และทำความสะอาดไม่ได้ ขณะที่บ้านเรือนต่างๆ มีเจ้าหน้าที่เข้าไปแล้ว ซึ่งตอนนี้ต้องแบ่งงานทุกภาคส่วน เพื่อจะได้รู้ใครทำอะไรบ้าง เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึง

เร่งกำจัดโคลนเร็วสุด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้วางกรอบหรือไม่ ในการขนย้ายดินทั้งหมดออกจากบ้านเรือนของประชาชนจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า จริงๆ แล้วอยากให้เร็วที่สุด และต้องดูหน้างานด้วย ไม่อยากสัญญาว่าเท่าไหร่ แต่จะทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะคือความเดือดร้อนจริงๆ ทั้งนี้ ในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดน้ำท่วม ยังไม่มีการถอนกำลัง เผื่อมีพายุเข้ามาซ้ำจะได้มีกำลังช่วยเหลือ ทั้งพื้นที่ภาคเหนือและพื้นที่ภาคอีสาน นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง เช่น ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ที่ตั้งขึ้นมา​ มีการประชุมทุกวันเวลา 09.00 น. ซึ่งตนจะเข้าร่วมประชุมด้วยในสัปดาห์หน้า

นายกฯ กล่าวด้วยว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้รับพระราชทานเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จำนวน 100 ตัว ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ดีมากๆ มาร่วมช่วยผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย

ส่วนเรื่องการเยียวยาจะมีการปรับหลักเกณฑ์เพิ่มเติมหรือไม่ เนื่องจากผู้ประสบอุทกภัยบางหลังคาเรือนได้รับความเสียหายถึงหลักล้านบาทนั้น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เรื่องการเยียวยาก่อนหน้านี้ 2 แสนกว่า หลักเกณฑ์แรกได้มีการสำรวจความเสียหายไปแล้วตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะแบ่งจ่ายเงินเป็นสองก้อน ก้อนแรกคือหลักเกณฑ์เดิม ซึ่งจะทยอยจ่ายถึงมือชาวบ้านได้ ส่วนก้อนที่สองจะเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ ที่ ศปช.กำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งวันที่ 23 ก.ย. จะมีการประชุมเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามหากต้องรอกรอบใหม่ เงินจะไม่ถึงมือชาวบ้าน ตอนนี้สิ่งที่เน้นย้ำคือความรวดเร็ว เพราะความทุกข์ นับเป็นวันๆ เป็นชั่วโมง จึงอยากดันทุกมาตรการออกมาให้เร็วที่สุด

 เมื่อถามว่า จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัย นายกฯ กล่าวว่า ก่อนที่จะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ขอให้ตรึงราคาสินค้า เพราะไม่ใช่ว่ามีวิกฤตแล้วราคาสินค้าขึ้นทันที ชาวบ้านไม่ไหว ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจมีแผน รวมถึงเรื่องของการท่องเที่ยว และมีอีกหลายแผน แต่ตอนนี้ขอเรื่องความช่วยเหลือและเยียวยาให้สำเร็จก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้เริ่มมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าขนดินของเอกชนบางราย จะมีการกำชับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ไม่ได้ไปพูดคุยกับเอกชน แต่เราได้นำเอกชนเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เรื่องนี้อาจจะไม่ได้อยู่ในความดูแลของรัฐบาล ต้องมีการพูดคุยแยกกัน แต่ขอประชาสัมพันธ์ว่า ใครที่อยากจะช่วยพี่น้องชาวเชียงราย ในเรื่องของการขุดดิน เรื่องน้ำและการทำความสะอาด หากใครจะมาเป็นอาสาสมัครเรายินดีและพร้อมเปิดรับ

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวเสริมว่า ตอนนี้ได้มีการประเมินขั้นต้นว่ามีความเสียหายอย่างไรบ้างแล้ว ซึ่งใช้หลักเกณฑ์เดิมในการจ่ายไปก่อน ส่วนหลักเกณฑ์ใหม่ขณะนี้ ศปช.กำลังพูดคุยกัน เพื่อจะปรับหลักเกณฑ์และเพิ่มเงินเยียวยาใหม่ และในวันที่ 24 ก.ย. จะมีการประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เข้าใจกฎเกณฑ์ในการจ่ายเงินเยียวยา

ส่วนเรื่องการขนดินจะแบ่งเป็นโซน มีกำลังของกรมทางหลวง กรมทหารพัฒนา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และยังมีกรมราชทัณฑ์ รวมถึงอาสาสมัครต่างๆ เข้ามาช่วยด้วย ขณะที่ส่วนกลางเติมอุปกรณ์การช่วยเหลือ นอกจากนี้ในเรื่องของการกำจัดขยะ กองทัพที่จังหวัดเชียงรายได้ขุดที่ดิน 1-2 ไร่ และมีพื้นที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีก 20 ไร่ เพื่อนำขยะและดินโคลนไปฝังกลบ

22 จังหวัดเสี่ยงท่วม

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัยล่วงหน้า 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 ก.ย.67 จำนวน 22 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ (อ.เชียงดาว พร้าว ดอยสะเก็ด ไชยปราการ แม่ออน สันทราย แม่แจ่ม กัลยาณิวัฒนา สะเมิง จอมทอง แม่วาง และสันป่าตอง) จ.เชียงราย (อ.แม่สรวย เวียงป่าเป้า และพาน) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.ปาย) จ.แพร่ (อ.หนองม่วงไข่ สอง และร้องกวาง) จ.พะเยา (อ.ดอกคำใต้ ปง จุน และแม่ใจ) จ.น่าน (อ.นาน้อย) จ.เพชรบูรณ์ (อ.หล่มเก่า และเขาค้อ) จ.ลำพูน (อ.บ้านโฮ่ง และแม่ทา) จ.ลำปาง (อ.เมืองปาน แจ้ห่ม เมืองลำปาง แม่เมาะ วังเหนือ งาว และสบปราบ) จ.ตาก (อ.สามเงา และท่าสองยาง) จ.พิจิตร (อ.โพธิ์ประทับช้าง และบึงนาราง) จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ ชาติตระการ วัดโบสถ์ และวังทอง) และ จ.นครสวรรค์ (อ.แม่วงก์)

ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร (เขตสายไหม), ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย (อ.นาแห้ว และด่านซ้าย) จ.ชัยภูมิ (อ.แก้งคร้อ หนองบัวแดง เมืองชัยภูมิ บ้านเขว้า ภูเขียว และเกษตรสมบูรณ์) จ.นครพนม (อ.นาแก) จ.มุกดาหาร (อ.เมืองมุกดาหาร และดงหลวง) และ จ.สกลนคร (อ.ภูพาน และโพนนาแก้ว), ภาคตะวันออก จ.จันทบุรี (อ.ขลุง) และ จ.ตราด (อ.เมืองตราด บ่อไร่ และเขาสมิง) และภาคใต้ จ.พังงา (อ.ท้ายเหมือง คุระบุรี และตะกั่วทุ่ง) ซึ่ง สทนช.ได้ประสานข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความรับมือสถานการณ์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว

กรมทรัพยากรธรณี รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินถล่ม 3 เหตุการณ์ โดยที่จังหวัดตาก เหตุการณ์แผ่นดินถล่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เกิดการเลื่อนไถลของหินบริเวณหน้าผาน้ำตกทีลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก เนื่องจากเป็นหินโคลนและหินทรายแป้ง ประกอบกับมีฝนตกหนัก และมีปริมาณน้ำเป็นจำนวนมาก กระแสน้ำแรง ส่งผลให้หินบริเวณหน้าผาเกิดการถล่มลงมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง กำลังสำรวจความเสียหายและสั่งปิดสถานที่จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ ส่วนที่ จ.ภูเก็ต เกิดขึ้นวันที่ 21 ก.ย.67 ขณะที่ จ.ลำปาง เกิดขึ้นวันที่ 21 ก.ย.67 เกิดการเลื่อนไถลของดินบริเวณบ้านจำปุย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ พร้อมกับต้นไม้ปิดทับถนนสายแม่ส้าน-จำปุย รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ 1 ช่องทาง ทั้งนี้ มีพื้นที่ที่อยู่ในการติดตามสถานการณ์ธรณีพิบัติภัยแผ่นดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก จำนวน 40 จังหวัด

ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมอีกรอบ บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา อำเภอเมืองฯ จังหวัดพะเยา หลังมีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา ทำให้ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถสัญจรได้ และน้ำยังคงไหลเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยหอพักบางแห่งยังฟื้นฟูจากน้ำท่วมรอบแรกเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ยังไม่แล้วเสร็จ กลับถูกน้ำท่วมซ้ำอีก      

ที่่ จ.อำนาจเจริญ ฝนตกหนักสลับเบาทั่วทุกพื้นที่ ส่งผลให้ลำห้วยอ่างเก็บน้ำ เขื่อน และน้ำในแม่น้ำโขง มีระดับเพิ่มขึ้น ไหลท่วมถนนเข้าหมู่บ้านบุ่งเขียว ต.โคกก่ง อ.ชานุมาน ซึ่งอยู่ติดแม่น้ำโขง สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังของจังหวัดอำนาจเจริญมี 2 จุด คือ ที่ อ.ชานุมาน ซึ่งน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และไหลท่วมถนนเข้าหมู่บ้านบุ่งเขียว ส่วนจุดที่ 2 บ้านดอนว่าน ตำบลหัวตะพาน อำเภอหัวตะพาน ซึ่งอยู่ติดกับลำเซบาย มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงมีการวางกระสอบทรายทำเป็นเขื่อนกั้นน้ำตลอดแนว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกรัฐบาล เผยปี 2568 นายกฯอิ๊งค์ จะทำให้ประเทศไทยเจริญทุกตารางนิ้ว!

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ ในประเด็น “ท่านเห็นว่าบุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี 2567 ” พบว่า ประชาชนชื่นชมและชื่นชอบ

อิ๊งค์โวพ่อสร้างลูกซ่อม

เปิดผลโพล "นักการเมืองแห่งปี  67" ปชช.ชื่นชอบ "แพทองธาร" กว่า 15% "เท้ง"  ตกไปลำดับ 9 ได้แค่ 5% คนเสื้อแดงคึกคัก