สภาถกผลศึกษานิรโทษกรรมพฤหัสบดีนี้ “เพื่อไทย” ดีดจัดดันล้างผิดมาตรา 112 สส.เสื้อแดงย้ำหลังสภาผ่านรายงาน กมธ. พรรคต้องเดินหน้าเสนอร่าง กม.เข้าสภา ไม่ทำไม่ได้ อ้างปีมหามงคล “ธนกร” ค้านหัวชนฝา เตือนหากรับรองรายงานต้องมีคนรับผิดชอบ อึ้ง! ลูกเสธ.แดงคนชงตั้ง กมธ. ไม่กล้าแสดงความเห็น
ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายนนี้ สภาผู้แทนราษฎรจะมีการพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กมธ. หลังจากที่คณะ กมธ.ได้ส่งรายงานดังกล่าวให้สภามาตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. หลังใช้เวลาศึกษากว่า 6 เดือน
นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ กมธ. กล่าวว่า ได้รับการประสานว่า ในการประชุมสภาวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. จะพิจารณารายงานของ กมธ. ซึ่งเดิมจะพิจารณาสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่พอดีวิปรัฐบาลประสานมาว่ายังไม่มีความพร้อม ขอให้เลื่อนมาเป็นสัปดาห์นี้ ซึ่งรายงานของ กมธ.มีสาระสำคัญ เช่น ช่วงระยะเวลาในการนิรโทษกรรม คือตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2548 ถึงปัจจุบัน โดยที่ปัจจุบันหมายถึงวันที่ กมธ.เสนอรายงานต่อสภา
นพ.เชิดชัยกล่าวอีกว่า แนวทางในการดำเนินการ เมื่อมีการจำแนกคดีออกเป็นคดีหลัก คดีรอง และคดีที่มีความอ่อนไหว โดยในส่วนของคดีหลักและคดีรอง การพิจารณาว่าจะนิรโทษกรรมหรือไม่คือ หน่วยงานราชการในกระบวนการยุติธรรม โดยพิจารณาวินิจฉัยจากองค์ประกอบว่าเป็นการกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองหรือไม่ และเป็นฐานความผิดตามบัญชีฐานความผิดท้ายร่างพระราชบัญญัติหรือไม่ ส่วนคดีที่มีความอ่อนไหว ซึ่งผู้พิจารณาคือคณะกรรมการนิรโทษกรรมที่มี ่วนชิดชัยกล่าวอีกว่า ศมของ กทม. รมว.ยุติธรรม โดยคดีที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองคือ คดีตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 และ 112 ส่วนรูปแบบการนิรโทษกรรม คณะ กมธ.เสนอว่าให้ใช้รูปแบบผสมผสาน โดยรายละเอียดจะนำเสนอและอภิปรายกันต่อไป หลัง กมธ.นำเสนอรายงานต่อที่ประชุมสภา
นพ.เชิดชัยย้ำว่า หลังสภาให้ความเห็นชอบรายงานดังกล่าวแล้ว จะส่งไปให้รัฐบาล เพราะในข้อเสนอของ กมธ. มีข้อเสนอถึงฝ่ายบริหารด้วยบางส่วน เช่น การช่วยเหลือผู้ถูกดำเนินคดีที่ถูกคุมขังอยู่ให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยคนที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ก็ห้ามไปทำผิดซ้ำ และเมื่อสภาพิจารณารายงานดังกล่าวเสร็จในวันพฤหัสบดีนี้แล้ว พรรค พท.ต้องมาพิจารณาได้แล้วว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าสภาได้หรือยัง เพราะญัตติให้มีตั้ง กมธ.ชุดนี้ก็มาจากการเสนอของ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อของพรรค ซึ่ง กมธ.ก็ใช้เวลาศึกษาจนเสร็จออกมาเป็นรายงานและส่งเข้าสภาแล้ว ดังนั้น พรรคต้องมาประชุมกันเพื่อมีความเห็นให้เสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เข้าสภาในสมัยประชุมหน้าเลย
“ผมเห็นว่าต้องนิรโทษกรรมทั้งหมด รวมถึงให้นิรโทษกรรมคดี 112 ด้วย เพราะเป็นการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ใช่ยกเลิกมาตรา 112 และพรรคเพื่อไทยต้องทำกฎหมายนิรโทษกรรมเสนอเข้าสภาได้แล้ว จะไม่ทำไม่ได้ มันถึงเวลาแล้ว เพราะเราไม่ได้ทำแบบพิสดารอะไร อย่างการให้นิรโทษกรรมคดี 112 ก็ให้นิรโทษกรรมแบบมีเงื่อนไข เพราะตอนนี้หลายคนได้รับผลกระทบมาก เยาวชนหลายคนที่โดนคดี 112 บางคนก็ต้องเสียชีวิต บางคนก็ไม่ได้เรียนหนังสือต้องออกมา บางคนก็ต้องหนีไปต่างประเทศ อย่างที่ผมเคยบอกก่อนหน้านี้ ปีนี้คือปีมหามงคล น้ำท่วม คนเดือดร้อน ก็มีถุงยังชีพไปช่วยประชาชน หากนิรโทษกรรมตอนนี้ก็คือสิ่งที่ดี” นพ.เชิดชัยระบุ
ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการนิรโทษกรรมความผิดในคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กมธ.หาข้อสรุปไม่ได้ และให้ กมธ.แต่ละคนบันทึกความเห็น โดยแบ่งความเห็นเป็น 3 ประเภท คือ 1.ไม่รวมมาตรา 112 เพราะไม่ใช่แรงจูงใจทางการเมือง 2.รวมมาตรา 112 อย่างมีเงื่อนไข และ 3.รวมมาตรา 112 โดยไม่มีเงื่อนไข ซึ่งส่วนตัวยืนยันว่าไม่เห็นด้วยและคัดค้านถึงที่สุด
“ไม่สมควรรวมคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้ได้รับการนิรโทษกรรม เพราะไม่ใช่แรงจูงใจทางการเมือง อีกทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ระบุไว้ชัดเจนว่า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของรัฐ เป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระนามพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ และสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องการเมือง หากจะนิรโทษกรรมให้ก็เสี่ยงขัดต่อรัฐธรรมนูญ” นายธนกรกล่าว
นายธนกรกล่าวด้วยว่า ในคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 7 ส.ค.2567 ระบุถึงพฤติการณ์กระทำการล้มล้างการปกครองในประเด็นการยื่นแก้ไขมาตรา 112 ดังนั้นเมื่อเทียบเคียงกับผู้ที่กระทำความผิดตามมาตรา 112 มีน้ำหนักรุนแรงกว่าพรรคก้าวไกล ดังนั้นในการประชุมสภาเรื่องนี้จะขอใช้เอกสิทธิ์ สส. ไม่รวมการนิรโทษกรรมให้กับคดีมาตรา 112
“ผมเห็นด้วยที่จะมีการนิรโทษกรรมคดีการเมืองที่ไม่มีความรุนแรงหรือถึงแก่ชีวิต แต่ไม่รวมคดีทุจริตคอร์รัปชัน และการพิจารณาการนิรโทษกรรมควรต้องพิจารณารอบคอบ เชื่อว่าสภาเองก็ต้องพิจารณาอย่างรัดกุม ไม่ทำให้เกิดการขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเสีย ทั้งนี้ หากที่ประชุมสภาในวันที่ 26 ก.ย. มีการพิจารณาออกมาอย่างไร หากขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญควรต้องมีผู้รับผิดชอบ” นายธนกรกล่าว
สำหรับรายงานของ กมธ.ที่จะเสนอความเห็น-ข้อเสนอ และข้อสังเกตของคณะ กมธ.นั้น กมธ.เห็นว่า สำหรับขอบเขตการนิรโทษกรรมนั้น ให้หมายความถึงบรรดาการกระทำใดๆ หากเป็นความผิดตามบัญชีแนบท้ายร่างพระราชบัญญัติให้การกระทำนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป และให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้ว ก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น ถ้าผู้นั้นรับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง และให้ถือเสมือนว่าบุคคลนั้นไม่เคยกระทำความผิด พร้อมกับให้นิยามคำว่า การกระทำที่เกิดจากแรงจูงใจทางการเมืองที่จะได้รับการนิรโทษกรรมไว้ว่าให้หมายถึง การกระทำที่มีพื้นฐานมาจากความคิดที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง หรือต้องการบรรลุเป้าหมายทางการเมืองอย่างใดอย่างหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้งหรือเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง
ส่วนในประเด็นว่าจะให้มีการนิรโทษกรรมคดี 112 ด้วยหรือไม่ ปรากฏว่า กมธ.เห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงไม่ให้มีการทำความเห็นในนาม กมธ.ไว้ในรายงาน แต่ให้ กมธ.แต่ละคนเสนอความเห็นไว้ และบันทึกถ้อยคำการแสดงความเห็นไว้ในรายงานโดยไม่มีการลงมติ ซึ่งในส่วนคดีที่มีความอ่อนไหวคือคดีความผิดตามมาตรา 110 และมาตรา 112 มีการแสดงความเห็นออกเป็น 3 แนวทาง 1.ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหว 14 คน มีอาทิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), นายนิกร จำนง พรรคชาติไทยพัฒนา, นายนพดล ปัทมะ จากพรรคเพื่อไทย และนายวุฒิสาร ตันไชย อดีตเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า 2.เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหวโดยมีเงื่อนไข 14 คน เช่น นพ.เชิดชัย และนายรังสิมันต์ โรม จากพรรคประชาชน และ 3.เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมคดีที่มีความอ่อนไหว 4 คน เช่น น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ หรือทนายแจม พรรคประชาชน, ม.ล.ศุภกิตต์ จรูญโรจน์ เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ในขณะเดียวกันมีผู้ไม่ประสงค์แสดงความคิดเห็นด้วย 4 คน โดยมีชื่อของ น.ส.ขัตติยารวมอยู่ด้วย ทั้งที่ น.ส.ขัตติยาเป็นผู้เสนอญัตติดังกล่าวให้สภาตั้ง กมธ.
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันมีร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ที่เสนอเข้าสภาแล้วหลายร่าง เพื่อรอการพิจารณาของสภา เช่น ร่างของพรรคก้าวไกลหรือพรรคประชาชน, ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ, ร่างฉบับประชาชน ที่เสนอโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ กับผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 36,723 คน เป็นต้น โดยมีเนื้อหาแตกต่างกันไป เช่น ของพรรค รทสช. ไม่ให้มีการนิรโทษกรรมคดี 112 แต่ร่างภาคประชาชนให้นิรโทษกรรมครอบคลุมถึงคดีตามมาตรา 112.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุน 'ปชน.' ยุติรื้อจริยธรรม ไม่เห็นด้วยยังดันทุรังแก้รธน.รายมาตรา
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เห็นด้วยกับการยุติแก้ไขประมวลจริยธรรมนักการเมือง ของพรรคประชาชน
คลังห่วงบาทแข็ง นัดคุยผู้ว่าฯธปท. แก้ปัญหาส่งออก
“คลัง” นัดแล้วสัปดาห์หน้าจับเข่าคุย “ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ”
รทสช.จี้ถอนรายงานกมธ.นิรโทษ
"ปชน." ไม่เลิกเดินหน้าแก้ รธน.รายมาตรา ยันทำควบคู่ร่าง รธน.ฉบับใหม่ แค่เบรกปมจริยธรรมไว้ก่อน
ตีปี๊บโอนเงินหมื่นฉลุย ขู่ฟันเจ้าหนี้นอกระบบ
"คลัง" ตีปี๊บโอนเงิน 10,000 บาท วันที่ 2 ฉลุย ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 4.5 ล้านราย
สั่งปลัดมท.คุมงานน้ำท่วม นายกฯจ่อค้างคืน‘แม่สาย’
นายกฯ เตรียมบินเชียงราย-เชียงใหม่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม
อิ๊งค์หวังอยู่ครบเทอม ถกกุนซือฝันคนไทยหายจน หึ่ง!สันติ-วราเทพทิ้งพปชร.
เปิดคิวงาน "นายกฯ อิ๊งค์" ประเดิมบินต่างแดน โชว์วิชั่นเวทีสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งที่ 3 กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ 2-4 ต.ค.