‘อิ๊งค์’ ชมทหาร ลุยช่วยนํ้าท่วม เคียงข้างปชช.

 

"แพทองธาร" ชื่นชม "กองทัพ"  ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ยืนยันทุกภาคส่วนพร้อมร่วมเต็มที่ "จิราพร"  ยันรัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน "คลัง-พาณิชย์-สำนักนายกฯ" ผนึกกำลังช่วยผู้ประสบภัย "อนุทิน" นำทีมรัฐมนตรีลงพื้นที่เชียงราย ส่ง mobile unit  ให้บริการประชาชน

เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2567 น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ชื่นชมกองทัพ ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง เต็มกำลังความสามารถในทุกพื้นที่    จากรายงานกองทัพได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยได้ทำการช่วยเหลือประชาชน ดังนี้ 1.จุดซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้า โดย รร.ชท.สปท. บริเวณหน้าด่านสะพานแม่สาย 1 2.ชุมชนบ้านเหมืองแดง โดย สนภ.3 นทพ. และ นพค.34ฯ 3.ถนนเกาะทรายริมน้ำ โดย นพค.35ฯ ร่วมกับ ปภ. และ 4.ชุมชนบ้านเกาะทราย โดย นพค.31ฯ นพค.32ฯ และ นพค.33ฯ

“ขอบคุณกองทัพ และเป็นกำลังใจให้กำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติงานด่านหน้าในพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน อยู่เคียงข้างประชาชน เร่งทำงานฟื้นฟูให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ยืนยันรัฐบาลและทุกภาคส่วนพร้อมช่วยเหลือประชาชนเต็มที่” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ขณะที่ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นำคณะผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์ กรมศุลกากร ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่ จ.หนองคาย เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบสิ่งของช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยมีนายสมภพ สมิตะสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย เขต 2, นายเอกธนัช อินทร์รอด สส.หนองคาย เขต 3, นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ อดีต สส.หนองคาย ร่วมให้การต้อนรับ

โดยคณะได้เดินทางไปยัง 4 พื้นที่เป้าหมายที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ประกอบด้วย 1.วัดยอดแก้ว ต.เวียงคุก อ.เมืองฯ 2.ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ 3.โรงเรียนเทศบาล 5 มีชัยวิทยา ต.มีชัย อ.เมืองฯ และ 4.วัดพุทธไสยาสน์ ต.บ้านเดื่อ อ.เมืองฯ คณะได้พบปะและให้กำลังใจผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณาการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงการคลัง  กระทรวงพาณิชย์ และสำนักนายกรัฐมนตรี ในการผนึกกำลังช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ประสบอุทกภัย โดยนำถุงยังชีพและของใช้จำเป็นสำหรับการอุปโภคบริโภคมามอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จ.หนองคาย

เปิดบัญชีรับบริจาค

น.ส.จิราพรกล่าวว่า รัฐบาลนำโดย น.ส.แพทองธาร มีความห่วงใยต่อสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยภายหลังจากที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมด่วน และกำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างสุดความสามารถ  พร้อมได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ทันที เพื่อรับมือกับภัยพิบัติที่กำลังเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา  คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงินกว่า 3,045 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567 โดยรัฐบาลจะได้เร่งการเบิกจ่ายงบกลางดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยเร็วที่สุด ซึ่งการลงพื้นที่ จ.หนองคายในวันนี้ ได้นำเอาความห่วงใยของรัฐบาล และนำพาความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนมายังผู้ประสบภัย ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลไม่ทอดทิ้งประชาชน

ทั้งนี้ สำหรับประชาชนผู้ที่ประสงค์จะบริจาคสิ่งของและเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย สามารถบริจาคได้ที่ “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” บัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ชื่อบัญชี “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี” เลขที่บัญชี 067-0-06895-0

ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ น.ส.แพทองธารได้มอบหมายให้คณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้าในพื้นที่ ที่มีคณะรัฐมนตรีหลายท่านเป็นกรรมการ โดยขอให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์วาตภัยและอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคอีสาน กระจายกำลังการลงพื้นที่  อำนวยการสั่งการด้วยตัวเองแม้จะเป็นวันหยุดราชการ แต่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจะต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด

แบ่งรมต. 2 ทีมลงพื้นที่

นายจิรายุกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐมนตรีแบ่งออกเป็นอย่างน้อย 2 สาย ในการบินไปอำนวยการด้วยตนเองในแต่ละภาค เช่น ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  พร้อมด้วยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจอำนวยการสั่งการให้นำปัญหาที่พบเร่งแก้ไขทันทีที่อำเภอแม่อาย  เชียงใหม่ และที่อำเภอแม่สาย เชียงราย

               เขากล่าวว่า ขณะที่ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์,  นายอิทธิ ศิริลัทธยากร นายอัครา พรหมเผ่า  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แบ่งงานกันลงพื้นที่บ้านถ้ำผาจม เชียงราย โดยกรมชลประทานวางระบบคันกั้นน้ำพร้อมทั้งบิ๊กแบ็กเพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำซ้อน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม  นำท่อมาซ่อมระบบส่งนํ้าภูเขาให้ 19 หมู่บ้าน ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง เนื่องจากท่อส่งน้ำพังเสียหาย

นายจิรายุกล่าวว่า ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองบัญชาการกองทัพไทยตรึงกำลังและช่วยเคลียร์พื้นที่ และเตรียมกำลังพลและอุปกรณ์เพื่อรับมือกับพายุลูกใหม่ ทั้งในภาคเหนือและภาคอีสาน และส่วนอื่นๆ ของประเทศ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา

นายกฯ ปล่อยขบวนบรรเทาทุกข์

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ติดตามดูแลผู้ประกอบการและพี่น้องแรงงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมด้วย ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ปล่อยขบวนคาราวานบรรทุกยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์บรรเทาทุกข์ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เพื่อนำไปบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่

นายจิรายุกล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรียังได้มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่อำนวยการเร่งช่วยเหลือและอำนวยการแก้ไขปัญหาเชิงป้องกัน โดย น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด บูรณาการความช่วยเหลือ

"และในวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน เวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรีจะปล่อยขบวนคาราวานอุปกรณ์และสิ่งของบรรเทาทุกข์ทางเครื่องบินไปยังพื้นที่ประสบภัย ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง" นายจิรายุกล่าว

วันเดียวกันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย,  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจติดตาม ให้กำลังใจประชาชน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการฟื้นฟูช่วยเหลือผู้ประสบภัย บริเวณเทศบาลตำบลแม่สาย อ.แม่สาย และชุมชนป่าแดง ต.ริมกก อ.เมืองฯ

มท.ส่ง mobile unit ลงพื้นที่้

นายอนุทินระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ เพื่อมาสำรวจสถานการณ์ แน่นอนว่าเมื่อกลับไปแล้วเราจะส่งความช่วยเหลือขึ้นมาอย่างเร็วที่สุด ที่ต้องเร่งทำคือการทำให้ประชาชนได้กลับเข้าที่พักอาศัย ต้องไปช่วยตรงนั้นก่อน จากนั้นจึงมาดูแลเรื่องถนนหนทาง การคืนผิวถนน

ล่าสุด เราเอาเครื่องจักรหนักเข้ามาแล้ว คิดว่า ทุกอย่างจะคลี่คลาย กลับคืนสู่ความเป็นปกติในเดือนนี้ ล่าสุด ไฟฟ้า ประปา กลับคืนมาเกินครึ่งแล้ว ข้าวของประชาชนที่เสียหาย กระทรวงศึกษาธิการและภาคส่วนต่างๆ ส่งน้องนักเรียนอาชีวะขึ้นมาซ่อมแซม งบต่างๆ กำลังลงไปในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

“รัฐบาลไม่เคยทอดทิ้งท่าน เราเข้าใจความทุกข์ร้อนของประชาชน และเร่งช่วยเหลือ การที่เรามาอยู่ตรงนี้ เพราะเราไม่เพิกเฉย กลับกัน เราเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชน และขอบคุณทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยเหลือให้เราผ่านพ้นอุทกภัยครั้งนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่อุทกภัย สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ยังได้นำชุดปฏิบัติการจัดทำบัตรเคลื่อนที่ หรือ mobile unit จากศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 5 (สาขาจังหวัดพะเยา) 1 ชุด และจากสำนักบริหารการทะเบียน ส่วนกลาง 2 ชุด รวม 3 ชุด ไปให้บริการจัดทำบัตรประจำตัวประชาชนในพื้นที่ อ.แม่สาย ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้ โดยจะให้บริการจัดทำบัตรประชาชนในทุกกรณี เช่น บัตรหาย บัตรถูกทำลาย บัตรชำรุดในสาระสำคัญ ขอมีบัตรครั้งแรก การตรวจสอบ คัดและรับรองเอกสารเกี่ยวกับบัตรประชาชน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อุตุฯ เตือนอากาศเย็น มีหมอกบางตอนเช้า อุณหภูมิสูงขึ้น ใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง