"บิ๊กตู่" ยังแรง ซูเปอร์โพลเผยผลสำรวจประชาชน ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นใครเหมาะเป็นนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ แต่แนะต้องสะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัว ฝ่ายค้านจ้องถล่มรัฐบาลปมของแพง ช่วงอภิปรายไม่ลงมติเดือน ก.พ
เมื่อวันที่ 16 มกราคม นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยผลสำรวจภาคสนามเรื่อง ความนิยมต่อนายกรัฐมนตรี และเบื้องหลังปัญหาวิกฤตช่วงต้นปี 2565 กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพกระจายทั่วทุกภูมิภาค จำนวน 1,119 ตัวอย่าง โดยเมื่อถามถึงการทำงานของทุกภาคส่วนในการแก้วิกฤตต่างๆ ของชาติบ้านเมืองและประชาชน พบว่าส่วนใหญ่หรือ 87.8% ระบุ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการยังกินรวบผูกขาดธุรกิจ กีดกันรายย่อย บ่อเกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในระบบราชการ 86.8% ระบุ ภาคประชาชนต้องร่วมรับผิดชอบ เคารพกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ทางสังคม 86.5% ระบุ ส่วนราชการกระทรวงต่างๆ ข้าราชการไม่ค่อยรับผิดชอบในหน้าที่ เกียร์ว่าง ปล่อยปละละเลย และยังรับประโยชน์เกิดการทุจริต 85.5% ระบุ นายกรัฐมนตรี นักการเมืองร่วมรัฐบาล และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้องแสดงความจริงจังและจริงใจให้เห็น ในการนำข้าราชการที่ละเว้นหน้าที่ ปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุของปัญหาสำคัญมาลงโทษ และมีมาตรการรองรับบทเรียน ต้องไม่เกิดปัญหาอีก นอกจากนี้ ผลสำรวจดังกล่าวยังเผยอีกว่า ส่วนใหญ่หรือ 85.1% ระบุ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่และทำสิ่งที่ถูกต้อง สะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัวและพวกพ้องในกลุ่มราชการให้ได้อย่างแท้จริง 84% ระบุ พรรคร่วมรัฐบาลต้องรับผิดชอบงานในหน้าที่ของกระทรวงที่แบ่งมอบ ไม่นิ่งเฉย ปัดความรับผิดชอบ 83.9% ระบุว่า เมื่อเกิดความผิดพลาดการบริหารงานเฉพาะด้าน การเมืองและกลุ่มเสียประโยชน์มักมุ่งเป้าโจมตีผู้นำประเทศ โดยไม่แสดงความรับผิดชอบให้ความจริงแก่สังคม เช่นกรณีหมูแพง
“83.7% ระบุ หวังให้ พล.อ.ประยุทธ์กล้าเปลี่ยนแปลงและตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประชาชน เหมือนปี 2557 ที่จริงจังเด็ดขาด ถือธงนำในการแก้ปัญหาเพื่อประชาชนแท้จริง โยกย้ายและลงโทษข้าราชการที่ทำผิด จัดการภาคเอกชนที่เห็นแก่ตัว เอาเปรียบทำลายสังคม”
ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพลกล่าวอีกว่า ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือ 82.5% ระบุ การจะทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ในปี 2565 นั้น ต้องอาศัยกลไกความร่วมมือจากทุกฝ่ายทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองหมุนไปด้วยกัน 71.3% ระบุ ยังเห็น พล.อ.ประยุทธ์กล้าออกมารับผิดชอบทุกเรื่องวิกฤตในนามของรัฐบาล ขณะที่หน่วยงานในหน้าที่ยังปล่อยปละละเลยให้สะสมปัญหา นักการเมืองและข้าราชการที่รับผิดชอบยังหลบและไม่แสดงความรับผิดชอบ และ 70.5% ระบุ ยังเห็น พล.อ.ประยุทธ์ทำงานหนัก และไม่เคยเห็นภาพความสุขส่วนตัวตลอด 7- 8 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความต้องการของประชาชนคือ ส่วนใหญ่หรือ 82% ระบุ ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ถือธงนำ กล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ การบริหารงานใหม่ๆ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง หลุดออกจากการบริหารประเทศแบบรัฐราชการ ขณะที่ 18% ไม่ต้องการ นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือ 74.3 ระบุ ให้กำลังใจนายกฯ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เลือกประชาชนมากกว่าผลประโยชน์และการเกรงใจทางการเมือง และส่วนใหญ่หรือ 69.9% ระบุ ในเวลานี้ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะที่ 30.1% ระบุ มีคนอื่นเหมาะสมกว่า
ผอ.ซูเปอร์โพลกล่าวว่า ผลโพลชี้ให้เห็นว่าประชาชนยังคงเชื่อมั่น ยังไม่เห็นผู้ใดเหมาะสมกับตำแหน่งนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากนี้ยังรับรู้ได้ว่า ปัญหาและการสั่งสมของปัญหาจนเกิดวิกฤตสังคม เกิดจากการปล่อยปละละเลยของส่วนราชการ และการเรียกรับประโยชน์ทางการเมืองและการไม่แสดงความรับผิดชอบทางการเมือง จนเกิดช่องว่างนำไปสู่ความเสียหายของชาติบ้านเมือง ทางออกของปัญหาตามความเห็นคือ ผู้นำที่เด็ดขาด กล้าตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงและทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องปฏิรูปราชการและแก้ปัญหาทุจริตอย่างจริงจังเร่งด่วน ภาคการเมืองต้องกล้าแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ทำตัวเป็นอีแอบกลัวเสียคะแนนอย่างเช่นที่เป็นอยู่
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ในวันที่ 19 ม.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 โดยจะสรุปประเด็นที่จะใช้ในการอภิปรายร่วมกัน จากนั้นจะเขียนญัตติให้เสร็จสมบูรณ์เพื่อยื่นต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาโดยเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้ หลังจากสภาตรวจสอบญัตติและบรรจุวาระเป็นที่เรียบร้อบ คาดว่าน่าจะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลไม่เกินกลางเดือน ก.พ.
นายประเสริฐกล่าวว่า พท.จะอภิปรายในประเด็นหลักๆ คือเรื่องของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องที่ล้มเหลว โดยเฉพาะปัญหาข้าวยากหมากแพง ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้คงจะมีประเด็นอื่นๆ อีก แต่ต้องหารือร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง ส่วนของวันที่จะอภิปรายไม่อยากให้รัฐบาลยื้อไปจนถึงใกล้วันปิดสมัยประชุมสภา 28 ก.พ.เพราะหลังจะชนฝาเกินไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘จุรินทร์’ เผย8ปัจจัย การเมืองปี68เดือด!
"จุรินทร์" เปิด 8 ปัจจัยการเมืองปี 2568 จับตามีคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกฯ และผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย
‘จ่าเอ็ม’ ผวาขออารักขา
กัมพูชาส่งตัว "จ่าเอ็ม" ให้ไทยแล้ว นำตัวเข้ากรุงสอบเครียดที่ สน.ชนะสงคราม แจ้งข้อหาฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เจ้าตัวร้องขอเจ้าหน้าที่คุ้มครองเป็นพิเศษ
เป็นแม่ที่ดีหรือยัง! ‘อิ๊งค์’ เปิดอกวันเด็กสมัยก่อนไม่มีไอแพดโวยถูกบูลลี่
"นายกฯ อิ๊งค์" เปิดงานวันเด็กคึกคัก! เด็กขอถ่ายรูปแน่น พี่อิ๊งค์ล้อมวงเปิดอกตอบคำถามเด็กๆ มีพ่อเป็นต้นแบบ เผยวัยเด็กไม่มีไอแพด โทรศัพท์ ไลน์ พี่มีลูกสองคน
‘บิ๊กอ้วน’ เอาใจทอ. เคาะซื้อ ‘กริพเพน’
ปิดจ๊อบภายในปีนี้! "บิ๊กอ้วน" ไฟเขียว ทอ.เลือก "กริพเพน" มั่นใจคนใช้เป็นคนเลือก รออนุมัติแบบหลังทีมเจรจาออฟเซตกับสวีเดนจบ แจงทูตสหรัฐแล้ว ไทยยันไม่มีนโยบายกู้เงินซื้ออาวุธตามข้อเสนอขายเอฟ
กฤษฎีกายี้กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
จับตา ครม.ถกร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ 13 ม.ค.นี้
กสม.ตบปากทักษิณ ซัดปราศรัยเหยียดเชื้อชาติ/‘พท.’ชง‘ลูกอิ๊งค์’คุยพ่อลดดีกรี
"ประธาน กกต." ลั่นพร้อมดูแลเลือกตั้งนายก อบจ. 1 ก.พ.แล้ว