สหายใหญ่คุมมั่นคงเบ็ดเสร็จ

“อุ๊งอิ๊ง” เข้าเฝ้าสมเด็จพระสังฆราช ก่อนทำงานเป็นทางการวันแรกที่ทำเนียบฯ ปัดข่าวไม่รับเงินเดือน ยันต้องรับแต่จะนำไปใช้อะไรต้องวางแผนก่อน ประเดิมทัวร์ทำเนียบฯ ส่องห้องสื่อมวลชน “หมอมิ้ง” ปูดแบ่งงานรองนายกฯ ภูมิธรรมคุมความมั่นคงเบ็ดเสร็จ "สหายใหญ่" เข้ากระทรวงกลาโหมแล้ว มั่นใจ 1,000% ทำงานเข้าขากองทัพ ปัดข่าว "ทักษิณ" ครอบงำหลังเซ็นตั้งเพื่อน ตท.10 นั่งเลขาฯ เผยโผทหารสะดุดช่วงรอยต่อแต่ไร้ปัญหา "อนุทิน" แบ่งงาน 3 รมช.มหาดไทย "ธีรรัตน์" คุม กทม.

เมื่อวันจันทร์ที่ 16 กันยายน 2567 ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ที่อาคารสัมฤทธิ์

เมื่อมาถึงนายกฯ ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จากนั้นเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราช และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมประเพณีปฏิบัติของนายกฯ ทุกคนภายหลังเข้ารับตำแหน่ง โดยสมเด็จพระสังฆราชได้ประทานพระพุทธวรายุวัฒนศาสดา ฉลองพระชนมายุ 8 รอบ 26 มิถุนายน 2566 และหนังสือประมวลพระโอวาท พระคติธรรม และพระสัมโมทนียกถา ซึ่งเป็นหนังสือที่ระลึกการจัดงานฉลองพระชนมายุ 8 รอบ สมเด็จพระสังฆราช 26 มิ.ย.แก่นายกฯ

จากนั้นนายกฯ ได้กราบสักการะพระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ

น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระสังฆราชว่า ท่านได้ประทานพร  ซึ่งได้บอกว่าวันนี้มาทำงานวันแรก และก็รู้สึกดีที่ได้ไปกราบและเข้าไปที่วัด ซึ่งท่านก็อวยพรธรรมดาทั่วๆ ไป

ทั้งนี้ น.ส.แพทองธารเปลี่ยนมาใช้รถยนต์เลกซัส สีดำ  ทะเบียน พพ 267 กรุงเทพมหานคร โดยรถคันดังกล่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ส่งมาให้ใช้ โดยจะใช้รถคันนี้เป็นหลัก ยังไม่ได้นำรถประจำตำแหน่งมาใช้ ซึ่งขณะนี้จอดอยู่ที่บ้านพิษณุโลก

ในเวลา 12.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังห้องปฏิบัติการสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล (รังนกกระจอก) ทั้ง 3 ห้องอย่างอารมณ์ดี โดยได้สอบถามถึงที่มาที่ไปของห้องผู้สื่อข่าว และจะปรับปรุงอย่างไรบ้าง พร้อมสอบถามว่าปกติทานอาหารกันที่ไหน โรงอาหารอยู่ตรงไหนบ้าง รวมทั้งได้กระเซ้าว่ารังนกกระจอก 1 สำหรับผู้สื่อข่าวสูงอายุใช่หรือไม่ นอกจากนี้นายกฯ ยังได้ไปเยี่ยมชมบูธอาหารกลางวันที่ได้สั่งมาเลี้ยงผู้สื่อข่าว มีเมนูข้าวขาหมู ก๋วยเตี๋ยวเรือแจ๊ว และไอศกรีมกะทิ

นายกฯ กล่าวว่า “วันนี้ชอบจังนักข่าวพาทัวร์ และวันหลังจะสั่งอาหารที่ตัวเองชอบมาบ้าง ซึ่งส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อเหมือนคุณพ่อ โดยเฉพาะร้านโปรดเฮ้งชุนเส็ง ซึ่งอยู่แถวท่าเรือคลองเตย แต่ถ้าเป็นคุณพ่อจะชอบก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใส และส่วนตัวก็ยังชอบก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟแถวอาร์ซีเอด้วย”

นอกจากนี้ นายกฯ ยังได้สอบถามถึงสถานที่ต่างๆ ภายในทำเนียบฯ และบอกว่าทำเนียบฯ พร้อมกับชี้ไปที่ตึกนารีสโมสร ซึ่งนายจุลพันธ์อธิบายว่า เป็นสถานที่ที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ จะใช้เป็นที่แถลงข่าว

ต่อมา น.ส.แพทองธารกล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกฯ เช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ว่า ความจริงแล้วตามระบบในเรื่องของเงินเดือนจะต้องรับออกมาก่อน แต่ว่าเมื่อรับออกมาแล้วจะทำอะไรต่อนั้นเดี๋ยวค่อยวางแผนกันอีกที

ภูมิธรรมคุมมั่นคงเบ็ดเสร็จ

ด้าน นพ.พรหมินทร์กล่าวถึงกรณีการแบ่งงานรองนายกฯ ว่า นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ จะดูเรื่องดิจิทัลและสาธารณสุข สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องที่ดิน และอะไรที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์พาวเวอร์ ขณะที่การดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่งกำกับดูแลฝ่ายความมั่นคง กระทรวงยุติธรรม  สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รวมถึงข่าวกรองและสายความมั่นคงต่างๆ

เมื่อถามว่า พรรคต่างๆ ส่งรายชื่อโฆษกมาแล้วหรือยัง นพ.พรหมินทร์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุเพียงว่ามีเพียงรายชื่อเดียวที่ถูกส่งมา แต่ยังไม่มีการนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งทีมรองโฆษกมี 3 ตำแหน่ง ขณะที่อีก 1 ตำแหน่งรองโฆษกฯ จะเป็นสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์หรือกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  สส.พะเยานั้น เรื่องนี้ค่อยคุยกันอีกทีหนึ่ง ส่วนการเสนอรายชื่อที่ปรึกษานายกฯ นั้นน่าจะทันเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 17 ก.ย.นี้

มีรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้ส่งรายชื่อโควตารองโฆษกประจำสำนักนายกฯ มาแล้ว เป็นผู้หญิงแต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นใคร

 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวถึงความชัดเจนในการเสนอชื่อรองโฆษกฯ ว่า ยังไม่ได้คุยกันเลย  เดี๋ยวจะถามนายกฯ ซึ่งคนของพรรคมีมากกว่าตำแหน่งอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพร้อมที่จะจัดคนมาทำหน้าที่

ขณะที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต สส.กทม. พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเข้าพบ นพ.พรหมินทร์ ถึงกรณีมีชื่อตนจะมานั่งเป็นโฆษกประจำสำนักนายกฯ ว่ายังไม่แน่ใจ ต้องรอพบ นพ.พรหมินทร์ก่อน และรอความชัดเจนจากนายกฯ ในวันที่ 17 ก.ย. ส่วนเรื่องความพร้อมนั้นตนทำงานด้านนี้มาตลอด ให้รอวันที่ 17 ก.ย. ขอบคุณสื่อมวลชน แล้วเจอกันบ่อยๆ 

ขณะเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม (กห.) ได้จัดพิธีต้อนรับนายภูมิธรรม และ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในโอกาสเข้ารับตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่ โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ใน กห.เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง โดยพิธีเริ่มในเวลา 10.00 น. นายภูมิธรรมทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนตรวจแถวกองทหารเกียรติยศผสม 3 เหล่าทัพ และเข้ารับฟังการบรรยายสรุปภารกิจของ กห. รวมทั้งรับประทานอาหารกลางวันกับ ผบ.เหล่าทัพและคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่

นายภูมิธรรมเปิดใจหลังเข้า กห.อย่างเป็นทางการว่า รู้สึกเป็นเกียรติ และถือเป็นเกียรติยศอย่างสูงสุดที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับเหล่าทัพ ซึ่งได้บอกกับผู้นำเหล่าทัพว่า ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาทำสิ่งใดที่สร้างความไม่สบายใจ  หรือสร้างความแตกแยกในกองทัพ แต่อยากมามีส่วนร่วมพัฒนากองทัพให้เข้มแข็งและทันสมัย เท่าทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงได้

เรือดำน้ำรอต่อไป

นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า หลังรับตำแหน่งยังขอไม่ไปเยี่ยมเหล่าทัพ แต่จะไปเยี่ยมทหารผ่านศึก ที่ประสบภัยจากการสู้รบในการปกป้องประเทศก่อน เช่น องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ ซึ่งอะไรที่จะเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานนี้จะผลักดันเต็มที่ จากนั้นค่อยไปเยี่ยมเหล่าทัพ  ไปทหารช่างของเหล่าทัพต่างๆ รวมถึงหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อยากเห็นศักยภาพการทำงานและแผนงานที่ชัดในการช่วยเหลือประชาชน

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือที่เรื่องยังค้างอยู่ว่า ยังไม่ได้ให้นโยบาย  เพราะเรื่องสำคัญแบบนี้ไม่ควรเร่งด่วนที่จะเสนออะไรชัดเจน แต่อยากคุยกับเหล่าทัพแต่ละเรื่อง จะจัดการแต่ละเรื่องอย่างไร ส่วนที่ก่อนหน้านี้นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กห.ได้ผลสรุปผลการแก้ปัญหาเครื่องเรือดำน้ำและเตรียมนำเข้า ครม.นั้น ก็ควรทบทวนก่อนเพื่อดูและตัดสินใจ โดยจะรับฟังจากเหล่าทัพที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาร่วมกัน

 เมื่อถามย้ำว่า การจัดโผทหารที่ล่าช้าเพราะกองทัพเรือไม่ลงตัวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นธรรมดาของการเปลี่ยนถ่ายรัฐบาล เมื่อมีการเปลี่ยนทุกอย่างก็สะดุด ซึ่งต้องดูว่าการตัดสินที่ผ่านมาก่อนเข้ามานั้น มาจากพื้นฐานอะไร ส่วนตนเองก็มีหลักคิดที่เหมาะสม ก็จะหารือกัน คิดว่าเรื่องเหล่านี้เป็นธรรมดาในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ไม่มีอะไรชักช้า ดังนั้นการพูดคุยจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด  เพื่อให้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายสบายใจ ยืนยันหลักและเหตุผลที่รองรับ

“การพิจารณาจะทำร่วมกัน โดยดูความสมเหตุสมผล ไม่ให้เกิดปัญหา ยึดหลักการยอมรับได้ กองทัพไม่แตกแยก และให้เกียรติ”

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 ก.ย. เวลา 16.00 น. นายภูมิธรรมได้เรียก ผบ.เหล่าทัพมาประชุมที่กลาโหม เพื่อหารือเรื่องแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ประกอบด้วย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม, ปลัดกลาโหม, ผบ.ทสส., ผบ.ทบ และ ผบ.ทอ. ส่วน ผบ.ทร.ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมเพราะเดินทางไปต่างประเทศ แต่ได้วิดีโอคอลมาร่วมประชุม โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

บิ๊กอ้วนปัดทักษิณครอบงำ

นายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีแต่งตั้ง พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัศมี อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ กองบัญชาการกองทัพไทย  เพื่อนเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10) ของนายทักษิณเป็นเลขานุการ รมว.กลาโหม จะถือเป็นตัวแทนของนายทักษิณหรือไม่ว่า ไม่หรอก พล.อ.ไตรศักดิ์เคยอยู่ในพรรคเพื่อไทย เป็นคณะทำงานกับตนเองมา และเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารม้า ทำงานในพื้นที่มา มีประสบการณ์และความสามารถ ซึ่งจะช่วยให้แง่คิดได้ แต่ในท้ายที่สุดการตัดสินปัญหาจะขึ้นอยู่กับตนเอง

“ขออย่ากังวลใจ ผมเองรับประกันว่าอันนี้ไม่ได้มีใครมาครอบงำอะไรได้ ผมเป็นตัวของตัวเอง และพร้อมทำงานกับเหล่าทัพด้วยความสบายใจ” นายภูมิธรรมกล่าว

เมื่อถามว่า ในฐานะที่อยู่กับนายทักษิณมานาน ซึ่งนายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยถูกรัฐประหารมาก่อน การที่มาดำรงตำแหน่งนี้จะเป็นการมาเพื่อมาแก้แค้นหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า เรื่องการแก้แค้นมันหมดไปนานแล้ว และมันยังไม่เคยเกิดขึ้นด้วยซ้ำ วันนี้วิกฤตการณ์ของประเทศสำคัญกว่า ทั้งการร่วมมือกันเพื่อทำให้ประเทศเดินหน้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จึงไม่มีเรื่องที่ท่านสงสัยหรือกังวลใจ แล้วตอนนี้ได้คุยกับเหล่าทัพแล้ว เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างดี สิ่งเหล่านี้อย่าให้เป็นสิ่งที่จะทำให้คลางแคลงใจ หรือสร้างปัญหาให้เกิดความแตกแยก เชื่อว่าไม่มีสิ่งนี้แน่นอน

เมื่อถามว่า เนื่องจากมีการดีลกันเกิดขึ้นจึงไม่มีสิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ได้ดีลอะไรกันหรอก ก็เป็นเรื่องที่ทำตามหน้าที่ ตนมาก็ปลอดโปร่ง คนเดียวยังไม่ได้รู้อะไรเท่าไหร่ ก็ถึงจะมาเรียนรู้ ส่วนดีลนู้นดีลนี้ไม่มีหรอก วันนี้มีแต่ตนกับผู้บัญชาการเหล่าทัพต่างๆ ที่จะร่วมมือกัน

ถามอีกว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถทำงานกับผู้นำเหล่าทัพได้อย่างราบรื่น นายภูมิธรรมยืนยันว่า มั่นใจ 1,000% เชื่อว่าจะสามารถร่วมมือกับเหล่าทัพต่างๆ ด้วยความเคารพกัน ยอมรับในสิ่งที่แตกต่าง และหาข้อสรุปในการทำงานร่วมกันได้อย่างดี

ส่วนที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ออกคำสั่งที่ 2864/2567 เรื่องการมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้ รมช.มหาดไทยปฏิบัติราชการแทน รมว.มหาดไทย โดยนายอนุทินจะดูแลสำนักงานรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมที่ดิน และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขณะที่ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง การประปานครหลวง (กปน.) และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ส่วน น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแลกรมพัฒนาชุมชน องค์การตลาด องค์การจัดการจัดการน้ำ และกรุงเทพมหานคร

วันเดียวกัน ที่รัฐสภา มีพิธีรับพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และนายภราดร  ปริศนานันทกุล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 โดยหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว นายพิเชษฐ์กล่าวถึงการแบ่งงานว่า ในวันที่ 17 ก.ย. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ จะมีการแบ่งงาน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เช็กชื่อ! ครม.นัดแรก แต่งตั้ง 5 ที่ปรึกษานายกฯ ทีมโฆษกรัฐบาล

สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดแรก วันที่ 17 ก.ย. นอกเหนือจากวาระการแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรีแล้ว จะมีการพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในตำแหน่งต่างๆ รวมถึงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายกฯแพทองธาร ขอวางแผนนำเงินเดือนประจำตำแหน่ง ไปทำประโยชน์อะไร

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังมีกระแสข่าวว่าจะไม่รับเงินเดือนในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเช่นเดียวกับ นายเศรษฐา ทวีสิน