สันหลังหวะรื้อรธน. ‘เพื่อไทย’ผนึกทุกพรรคเขี่ยทิ้งปมจริยธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต

แผลเก่ายังไม่แห้ง เพื่อไทยขู่เอาคืนแล้ว "ชูศักดิ์" เผยคุยกับพรรคส้มแล้ว คิดเหมือนกันเตรียมแก้ รธน. เขียนคุณสมบัติรัฐมนตรีใหม่ เล็งรื้อปมจริยธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต อ้างจะเขียนใหม่แก้ไขถ้อยคำให้รัดกุม ไม่ให้เกิดการตีความที่กว้างขวาง นักร้องต่างขั้วทำงาน "วีระ" แฉ จนท.กลาโหมร้องเอาผิด "บิ๊กป้อม" ใช้มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ เล่นการเมือง-ผิด กม.

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2567 นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงไทม์ไลน์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ. ... ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ว่า ต้องรอว่ากฎหมายดังกล่าววุฒิสภาจะแก้ไขหรือไม่ หากมีการแก้ไขต้องกลับมาที่สภาฯ เพื่อมาหารือว่าจะแก้ไขตามที่วุฒิสภาแก้ไขหรือไม่ แต่ สส.ก็ยืนยันว่า การใช้เสียงข้างมากธรรมดาเป็นสิ่งที่ดีกว่าและเป็นหลักสากล

   นายชูศักดิ์กล่าวว่า ได้รับการประสานจากพรรคประชาชน ว่าเขามีความคิดต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยเฉพาะมาตรฐานจริยธรรม และเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ที่เป็นปัญหาอยู่ขณะนี้ โดยจะเป็นการแก้ไขถ้อยคำให้รัดกุม ไม่ให้เกิดการตีความที่กว้างขวาง ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้ประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลไปพอสมควรแล้ว ซึ่งทุกพรรคการเมืองในสภาฯ จะเป็นเจ้าภาพร่วมกัน

   เขายังให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ  สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี ฝ่าฝืนจริยธรรมแต่งตั้งนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมว่า ในความเป็นจริงนายสุรพงษ์ไม่เคยต้องคำพิพากษาว่ากระทำความผิด ส่วนการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี จากการตรวจสอบนายสุรพงษ์ไม่มีคดีใดๆ  นายกรัฐมนตรีตั้งไปตามปกติ ไม่มีปัญหา แต่การร้องเช่นนี้ ทำให้คนเข้าใจผิดว่ามีการฝ่าฝืนจริยธรรมและมีความบกพร่อง

นายชูศักดิ์ยังตั้งข้อสังเกตว่า คำร้องประเภทเหล่านี้ ซึ่งสื่อใช้คำว่าเป็นนิติสงคราม โดยล่าสุดก็มีการร้องเรื่องทำมินิฮาร์ต ก็เป็นการเสียเวลาทำงานให้ประเทศ เราต้องมาหงุดหงิดกับเรื่องที่ไม่ได้มีสาระ

"ผมขอฝากไปถึงองค์กรอิสระทั้งหลาย เวลารับเรื่องเหล่านี้ ที่เขามีความฉลาดตรงที่ไม่ยืนยันข้อเท็จจริงว่าผิดหรือไม่ผิด ขอให้สังเกตคำร้องของคนประเภทนี้ ที่จะออกมาในลักษณะระบุเพียงขอให้หน่วยงานนั้นๆ วินิจฉัยว่าเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ การไม่ยืนยันคือแสดงว่ากลัวถูกฟ้องกลับ ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายดูแล้วว่าอาจมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ ตามที่คิดว่าสามารถดำเนินการได้ และการที่เรียกฝ่ายกฎหมายมาประชุมในวันนี้ เพราะจะให้ดูประเด็นเหล่านี้เป็นพิเศษ เพื่อให้จัดการตามกฎหมายตอบแทนกันบ้าง หากรัฐบาลทำผิดหรือมีการทุจริตคอร์รัปชันร้ายแรง ถึงขนาดที่ไม่ควรดำรงตำแหน่งก็ว่ากันไป ไม่ใช่เรื่องเลย ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีสาระอะไรเลย"

ถามว่า จะสามารถดำเนินการฟ้องกลับหรือใช้ช่องกฎหมายได้บ้างนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ตอบว่า ได้มีการเชิญฝ่ายกฎหมายมาแล้ว ซึ่งคงต้องดำเนินการจริงจัง และคงต้องดูว่าเข้าข้อกฎหมายที่ชัดเจนหรือไม่

นายชูศักดิ์เปิดเผยว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังคิดอยู่คือ กรณีที่เสียงข้างมากของศาลรัฐธรรมนูญ ในเรื่องที่มีความสำคัญมาก เช่นการยุบพรรค การเอาคนออกจากตำแหน่ง จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าต้องมีเสียง 2 ใน 3 หรือ 4 ใน 5 จะได้เกิดความยุติธรรมขึ้นพอสมควร เพราะหากจะเอาคนออกจากตำแหน่ง แต่ชนะกันแค่ 5 ต่อ 4 ในเรื่องของความชอบธรรมก็น่าคิด จะพยายามจะแก้ไขในส่วนนี้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเสนอเข้าสู่สภาได้ในเร็วๆ นี้ หรือในสัปดาห์หน้า

'อนุทิน' เอาด้วย

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอของนายชูศักดิ์ว่า ยังไม่ได้หารือกันเลย แต่อะไรที่ดูแล้วแก้ไขให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คิดว่าการตีความเรื่องจริยธรรม หรือความซื่อสัตย์สุจริต ควรมีกรอบที่ชัดเจนหรือไม่ รองนายกฯ ตอบว่า ทุกอย่างควรจะมีกรอบ หากไม่มีกรอบแล้วปล่อยให้ปลายเปิด ก็ไม่ทราบว่าจะเริ่มและสิ้นสุดตรงไหน เช่นกินเกี่ยมบ๊วยเคี้ยวเสียงดัง หรือกินข้าวไม่ปิดปาก จะถือว่าผิดจริยธรรมหรือไม่ ดังนั้นการมีกรอบจริยธรรมก็ถือว่าดี

ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)​ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย มายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ปปง. ขอให้พิจารณาไต่สวน ดำเนินคดี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ สส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ กรณีเป็นเจ้าพนักงานรัฐเรียกรับเงิน เข้าข่ายการกระทำผิดฐานฟอกเงิน และตรวจสอบเส้นทางการเงินของ พล.อ.ประวิตร รวมทั้ง “นายโอ๋” และ "ป๊อด" (ซึ่งปรากฏชื่อในคลิป) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 จากกรณีคลิปเสียงหลุด “เรียกรับเงิน” ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2567

 “พูดง่ายๆ พล.อ.ประวิตรต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดที่จะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ เว้นแต่เป็นการรับจากการให้โดยธรรมจรรยา ซึ่งก็ต้องไม่เกิน 3,000 บาท ที่สำคัญจากบทสนทนาในคลิป น่าสงสัยว่าเงินที่พลเอกประวิตรถามหาเอาจากนายโอ๋ เป็นเงินที่ไม่ใช่เงินที่เกิดจากมูลหนี้อันชอบด้วยกฎหมาย และแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันว่า สุดท้ายแล้วมีการมอบเงินให้แก่พลเอกประวิตรจริงหรือไม่ แต่ถือว่าเป็นความผิดสำเร็จแล้วตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2510" นายพร้อมพงศ์กล่าว

คนกลาโหมเล่นงาน 'ลุงป้อม'

นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐในกระทรวงกลาโหมส่งเรื่องร้องเรียนมาให้ตรวจสอบ กรณีกล่าวหาพลเอกประวิตร ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ใช้มูลนิธิเป็นเครื่องมือในการดำเนินการทางการเมืองอย่างเปิดเผย อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือข้อบังคับของมูลนิธิฯ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย

หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ได้ตรวจสอบแล้ว และพบว่ามีพยานหลักฐานที่ยืนยันให้เชื่อได้ว่ามีการใช้มูลนิธิฯ ดังกล่าว เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพลเอกประวิตรจริง

"ดังนั้น คปต.จะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดต่อไป รวมถึงจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการควบคุม ดูแล ตรวจสอบ และลงโทษ แต่กลับละเว้นปล่อยให้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน"

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ยังไม่ทราบและขณะนี้ไม่ได้โฟกัสเรื่องที่อยู่นอกกระทรวงกลาโหม แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญคือ การทำงานร่วมกับปลัดกระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อทำความเข้าใจในการทำงาน เพราะภารกิจของกองทัพมีหลายด้าน จึงไม่สนใจว่า “ป่ารอยต่อหรือป่าไม่ต่อ”

ที่สำนักงาน กกต. นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว 2006 เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.เรียกร้องให้เอาผิด น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นมาตรา 65 (3) (4) และมาตรา 66 ประกอบมาตรา 132 วรรคสาม พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.)​ ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. 2561 และมาตรา 21 มาตรา 92 (4) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2561 ซึ่งเป็นเหตุให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคเพื่อไทยได้

"เรื่องนี้จะช้าไม่ได้เพราะ กกต.มีมติไปแล้ว สาเหตุแห่งการให้ใบเหลืองนายชาญ สาเหตุแห่งการดำเนินคดีอาญา ซึ่งบุคคลที่ปรากฏในงานเลี้ยงฉลองอุปสมบทลูกชายนายกเบี้ยว ที่เข้าข่ายกระทำผิดร่วมมีอีกหลายคน ซึ่งผมก็จะมาร้องเพิ่มเติมอีก ที่มาวันนี้ไม่ได้มากล่าวหาแต่มาขอให้ กกต.ดำเนินคดีให้สุด แต่ตอนนี้เห็นสั่งให้ กกต. ปทุมธานีดำเนินคดีเฉพาะนายกเบี้ยวคนเดียว ผมว่ายังไม่สุด ต้องดำเนินคดีเอาให้สุด ต้องพิจารณาถึง น.ส.แพทองธาร ที่มีส่วนได้เสียในฐานะหัวหน้าพรรคด้วย เพราะปรากฏอยู่ในงานเลี้ยงตลอด นายกเบี้ยวเป็นคนจัดงาน มีการสัมภาษณ์ มีการขึ้นป้ายนายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ ลูกชายซึ่งเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทยด้วย กกต.ก็ควรต้องดำเนินคดีให้สุดกับทุกคนที่อยู่ในงาน" นายนพรุจกล่าว. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ชูศักดิ์’ โวทุกพรรคปรองดอง ยื่นแก้ รธน.รายมาตรา ปม ‘จริยธรรม-ซื่อสัตย์สุจริต’

‘ชูศักดิ์’  เผยทุกพรรคปรองดอง ร่วมเป็นเจ้าภาพยื่นแก้รธน.รายมาตรา ปมจริยธรรม -ซื่อสัตย์สุจริตให้รัดกุมป้องกันตีความกว้าง  เตรียมทำประชามติพร้อมแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต้นปีหน้าในการเลือกตั้งนายกฯอบจ. ทั่วประเทศ