ร้องเอาผิด ‘อุ๊งอิ๊ง’ ซํ้ารอย ‘เศรษฐา’!

จับตาซ้ำรอย "เศรษฐา" ตกเก้าอี้!  "เรืองไกร" ร้อง กกต.สอบนายกฯ อิ๊งค์ ตั้ง "รมช.คมนาคม" ฝ่าฝืนจริยธรรมข้อ 8 หรือไม่ เผยมีคดีทำผิด พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ซื้อเสียงเลือกตั้ง  ศาลเคยสั่งจำคุก โฆษกพรรคเพื่อไทยแนะฝ่ายค้านก้าวข้ามทักษิณ

เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ว่า กรณีเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมนั้น จะเข้าข่ายมีความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) หรือไม่ และการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 หรือไม่ และเข้าข่ายเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามความในรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 (4) ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่

นายเรืองไกรกล่าวว่า ในหนังสือดังกล่าว มีข้อเท็จจริงอันควรขอให้ กกต.ตรวจสอบ ดังนี้

ข้อ 1.เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ1141/2565 ดังนี้ “พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 65 (1), 126 จำคุก 2 ปี และปรับ 40,000 บาท  จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษให้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 จ่ายสินบนนำจับอีกกึ่งหนึ่งของค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ ริบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจำเลยมีกำหนด 20 ปี”

ข้อ 2.คำพิพากษาดังกล่าว มีส่วนที่ระบุชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ไว้ด้วย ดังนี้ “โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 เวลากลางวัน หลังจากมีประกาศให้มีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงวันที่กำหนดเลือกตั้งตามประกาศผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี  จำเลยได้ให้ทรัพย์สินเป็นเงินสดคนละ 500 บาท  แก่ ... จำนวน 3 คน รวม 1,500 บาท ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี และเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เขตเลือกตั้งที่ 5 ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี  จังหวัดกาญจนบุรี

เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3 ... อันเป็นการจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครอื่น อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เหตุเกิดที่ตำบลหนองบัว อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานจับกุมจำเลยพร้อมยึดธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท จำนวน 3 ฉบับ รวม 1,500 บาท อันเป็นทรัพย์สินที่จำเลยมอบให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนสามคนเพื่อจูงใจให้ลงคะแนนแก่ผู้สมัครอื่นเป็นของกลางธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท ของกลาง เจ้าพนักงานเก็บรักษาไว้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 4, 32, 65, 126 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 ริบธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 1,500 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของจำเลยมีกำหนด 20 ปี และจ่ายสินบนนำจับไม่เกินกึ่งหนึ่งจากเงินค่าปรับแก่ผู้แจ้งความนำจับ จำเลยให้การรับสารภาพ”

ข้อ 3.กรณีตามคำพิพากษาซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพนั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ในส่วนที่ระบุว่า “เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสามคนดังกล่าวให้ลงคะแนนเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ให้แก่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี หมายเลข 3 ...” ซึ่งหากนำแนวคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ในส่วนที่วินิจฉัยว่า “...การพิจารณาว่าบุคคลใดมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) ... เป็นดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นผู้พิจารณาในฐานะผู้รับผิดชอบ...” กรณี จึงเป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาดังกล่าวด้วย ดังนั้น จึงเหตุอันควรขอให้ กกต.ตรวจสอบว่า นายกรัฐมนตรีจะมีเหตุสิ้นสุดลงเฉพาะตัวจากการใช้ดุลพินิจเสนอชื่อนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม หรือไม่

ข้อ 4.มาตรฐานทางจริยธรรม ข้อ 8 กำหนดว่า “ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ”

นายเรืองไกรสรุปเพิ่มเติมว่า ดังนั้น โดยผลของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 21/2567 ทำให้การตรวจสอบทางด้านจริยธรรมจะมีตามมาอีกมากมายหลายกรณี

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมของการแถลงนโยบายตลอด 2 วันที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี ขอขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาล และข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากทุกฝ่าย โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอนโยบายเร่งด่วน ระยะกลาง และการวางรากฐานให้กับประเทศ ครบทุกด้าน จึงถือเป็นการเริ่มต้นการทำหน้าที่ประมุขฝ่ายบริหารได้สมบูรณ์แล้ว

"มีข้อสังเกตที่จับตาคือ ฝ่ายค้านได้พยายามหยิบยกวาทกรรมที่ไม่สามารถก้าวข้ามท่านทักษิณ ชินวัตร ได้เลย ซึ่งเป็นที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นวาทกรรม นายใหญ่ นายทุน นายหน้า โดยผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาชน หรือวาทกรรมรองหัวหน้าพรรคประชาชนเอง ในเรื่องอยากเห็นนายกฯ มีแสงสว่างในตัวเอง ซึ่งประชาชนย่อมรู้ดีว่าหมายถึงใคร ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าการเมืองใหม่ที่อยากเป็นนั้นไม่มีอยู่จริง กลับทำให้การอภิปรายนโยบายคณะรัฐมนตรี บิดเบี้ยวจนคล้ายกับเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของการประชุมรัฐสภาในครั้งนี้" นายดนุพรกล่าว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวเน็ตแซะนายกฯแพทองธาร ‘ปกติเด็กฝึกงาน ไม่ได้เงินเดือนอยู่แล้วนี่’

สืบเนื่องจากกรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศไม่รับเงินเดือน และเงินประจำตำแหน่ง โดยจะมอบให้กับมูลนิธิต่างๆนั้น มีความเห็นของ นพ. วร

สนุกแน่สงครามนักร้อง! กูรูเผย ‘วีระ’ จ่อขุดเบนซ์หรู-เช็ค 25 ล้าน ขยี้ ‘เรืองไกร’

นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “ทีม พปชร. เผยไม่เป็นศัตรูกับใครยกเว้นเพื่อไทย เดินหน้านิติสงครามเต็มรูปแบบ

แพทองฯออนไลน์ แจ้งชาวหนองคาย มท.1 ลงพื้นที่แล้ว ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำจนท.

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กและ X หลังติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดหนองคายและหลายพื้นที่ ว่า “ชาวหนองคาย ในจุดน้ำท่วม (ตัวเมืองหนองคาย ตั้งแต่ถนน

กระจกต้องมา! โฆษกเพื่อไทยช่างกล้า ด่าพรรคส้ม-ฝ่ายค้าน ไม่ก้าวข้ามทักษิณ

นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ภาพรวมของการแถลงนโยบายตลอด 2 วันที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี

เป็นเรื่อง! 'เรืองไกร' ร้องกกต.สอบนายกฯ ฝ่าฝืนจริยธรรม ตั้งผู้ต้องคำพิพากษาจำคุก เป็นรมต.

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ว่า กร