ปภ.แจงตายแล้ว 34 ราย

ปภ.รวบรวมความสูญเสียจากสถานการณ์น้ำท่วม 16 ส.ค.-14 ก.ย. มี 28 จังหวัดได้รับผลกระทบ มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่มรวม 34 ราย ขณะที่ ผบ.ตร.กำชับตำรวจเพิ่มความถี่ตระเวนตรวจตราป้องกันเหตุคนร้ายลักทรัพย์ซ้ำเติมประชาชนพื้นที่น้ำท่วม  เตือน "แก๊งแมวน้ำ" โทษคุก 5 ปี

เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567 นายไชยวัฒน์  จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย  ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค.-14 ก.ย.67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 28 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 129 อำเภอ 590 ตำบล 3,134 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 132,615 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยและดินถล่ม รวม 34 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ รวม 24 ราย โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 กันยายน 2567) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 10 จังหวัด รวม 33 อำเภอ 160 ตำบล 733 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 60,050 ครัวเรือน ดังนี้

1.เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน อ.เชียงแสน อ.เชียงของ และ อ.เมืองฯ รวม 24 ตำบล 123 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 45,329 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ระดับน้ำลดลง

2.แม่ฮ่องสอน เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.สบเมย และ อ.ปางมะผ้า รวม 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 78 คน ระดับน้ำลดลง

3.ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.พบพระ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด และ อ.ท่าสองยาง รวม 11 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 720 คน ระดับน้ำลดลง

4.สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอกงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

5.พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมืองฯ รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

6.เพชรบูรณ์ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองไผ่ และ อ.ชนแดน รวม 5 ตำบล 13 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 49 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง

7.หนองคาย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.สังคม อ.ศรีเชียงใหม่ อ.ท่าบ่อ อ.เมืองฯ อ.รัตนวาปี รวม 16 ตำบล 75 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

8.เลย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ปากชม อ.เชียงคาน รวม 7 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 7 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

9.อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอวิเศษชัยชาญ รวม 3 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 346 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว

10.พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 82 ตำบล 409 หมู่บ้าน  ประชาชนได้รับผลกระทบ 12,584 ครัวเรือน  ระดับน้ำทรงตัว

ระดมความช่วยเหลือ

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนและผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่พื้นที่อื่น ได้กำชับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำเนินการ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นสำคัญ และเลือกใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด พร้อมกันนี้ ยังได้สนับสนุนถุงยังชีพรวมแล้วกว่า 10,000 ชุด แจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น

ในส่วนของการเสริมกำลังดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดเชียงราย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบก (ทบ.) สนธิกำลังร่วมส่งเฮลิคอปเตอร์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 จำนวน 1 ลำ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยประจำ ฮ.ปภ.32 "The Guardian Team" สนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 15 เชียงราย ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าส่องสว่างขนาด 200 KVA รถผลิตน้ำดื่ม รถปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถกู้ภัยเคลื่อนที่เร็ว รถลากเรือเคลื่อนที่เร็ว รถบรรทุกเล็ก เรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ เสื้อชูชีพ และถุงยังชีพ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ นอกจากนี้ ปภ.ยังได้ส่งทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัย  ยานพาหนะ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตใกล้เคียง และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตภาคอื่นที่ไม่มีสถานการณ์ภัย เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบไปด้วย ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี, เขต 2 สุพรรณบุรี, เขต 3 ปราจีนบุรี,  เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์, เขต 8 กำแพงเพชร, เขต 9 พิษณุโลก, เขต 10 ลำปาง, เขต 16 ชัยนาท และเขต 17 จันทบุรี โดยขณะนี้ทีมปฏิบัติการได้เดินทางถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 15 เชียงราย ซึ่งเป็นจุดระดมทรัพยากร (Staging area) ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมรับมอบภารกิจและกระจายทีมลงช่วยเหลือในพื้นที่ต่างๆ แล้ว

สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป

เตือนแก๊งแมวน้ำคุก 5 ปี

ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงภัยที่แม้ปัจจุบันยังไม่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัดให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนทันทีที่มีแนวโน้มเกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ รวมถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น

บริเวณตลาดชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมืองแม่สาย ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วม ส่งผลให้บ้านเรือน ร้านค้า และอาคารได้รับความเสียหาย และหลังจากน้ำลด ได้ทิ้งโคลนดินและตะกอนจำนวนมากบนถนนสายหลักและท่อระบายน้ำ ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ตามปกติ

กองทัพบก โดยกองพลพัฒนาที่ 3 และกรมการทหารช่าง ได้จัดส่งกำลังพลและยุทโธปกรณ์ รถเกรด รถตักบรรทุก รถบรรทุกขนาด 10 ตัน และรถฉีดล้างน้ำ เพื่อทำความสะอาดและจัดการขยะดินโคลน โดยการสนับสนุนจากมณฑลทหารบกที่ 37 กองทัพภาคที่ 3 พร้อมกำลังทหารจิตอาสาและประชาชน ร่วมกันทำบิ๊กคลีนนิ่ง โดยจะปฏิบัติต่อเนื่องในวันที่ 14-16 กันยายน 2557 เพื่อเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กล่าวถึงมาตรการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมหลายๆ พื้นที่ในขณะนี้ว่า ได้กำชับไปยังตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจพื้นที่ โดยเฉพาะตำรวจน้ำ ในการบูรณาการร่วมกับ สภ.ในพื้นที่ และตำรวจตระเวนชายแดน เพิ่มความถี่ในการออกตระเวนตรวจตราป้องกันปราบปราม เฝ้าระวังการก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ทั้ง จ.เชียงราย นครพนม หนองคาย หรือพื้นที่อื่นๆ ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนที่คนร้ายหรือแก๊งแมวน้ำมักจะฉกฉวยโอกาสกระทำผิดก่อเหตุซ้ำเติมพี่น้องประชาชน  หากจับกุมได้ให้มีการสืบสวนขยายผลดำเนินการไปยังตัวการ ผู้ร่วมขบวนการทุกราย ดำเนินการให้เด็ดขาดและถึงที่สุดทุกมิติ

ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอเตือนถึงโทษของการกระทำผิดในช่วงภัยพิบัติที่เป็นการซ้ำเติมพี่น้องประชาชน จะต้องรับโทษสูงกว่าการลักทรัพย์โดยปกติ ซึ่งการลักทรัพย์ธรรมดา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 334 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท แต่ในช่วงภัยพิบัติ หรือการลักทรัพย์ในสถานการณ์น้ำท่วมซ้ำเติมประชาชน จะมีโทษสูงขึ้น เป็นเหตุฉกรรจ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 (2) บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดลักทรัพย์ในที่อุทกภัย หรือภัยพิบัติอื่นทำนองเดียวกันหรืออาศัยโอกาสที่มีเหตุเช่นว่านั้น หรืออาศัยโอกาสที่ประชาชนกำลังตื่นกลัวภยันตรายใดๆ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท

ขอยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังคงร่วมกับจิตอาสา ส่วนราชการ ภาคประชาชน มูลนิธิ กู้ภัยต่างๆ ลงพื้นที่ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมต่อเนื่อง ทั้งมิติการอพยพ ช่วยเหลือ มอบสิ่งของถุงยังชีพ อาหาร น้ำดื่ม ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง หากพี่น้องประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อหมายเลข 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'น้ำโขง' ทะลักร้านค้าใต้ถุนพญานาค นายกฯเล็กนครพนม ยันน้ำไม่ท่วมเมือง

น้ำโขงทะลักท่วม ร้านค้าใต้ถุนพญานาค พรานเบ็ดได้โอกาสตกปลาชิวๆ นายกเล็กยืนยันน้ำไม่ท่วมเมือง กันไว้ดีกว่าแก้ผู้ว่าสั่งปิดประตูน้ำ