เคาะแจกเงินหมื่นใน4วัน คนลงทะเบียนได้ลุ้นปี68!

“ภูมิธรรม-พิชัย” ประสานเสียงแจกเงินหมื่นเฟส 2 ต้องรอดูเฟสแรกจบก่อน “ขุนคลัง”  รับไม่ทันปีนี้แน่นอน “ลวรณ” แจงรายละเอียดแจกกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนใน 4 วัน ลั่นพวกลงทะเบียนไม่ต้องกลัวอด ฟุ้งจีดีพีปีนี้ก้าวกระโดดแน่

เมื่อวันศุกร์ที่ 13 กันยายน 2567 ยังคงมีความต่อเนื่องในโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 หลังจากมีความชัดเจนในเฟส 1  โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า อย่าเพิ่งคิดไปไกลถึงขนาดนั้น ก็ดูว่าเฟส 1 ที่ออกมาเป็นอย่างไร และมีปัญหาข้อบกพร่องอะไรหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะได้เห็นผล ซึ่งขณะนี้รัฐบาลพยายามทำให้ครบวงจรทั้งหมด และคิดว่าทุกเรื่องก็จะแก้ปัญหาได้

เมื่อถามย้ำว่า จากการพูดคุยกับผู้บริหารดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 จะได้ภายในปี 2567 หรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า รอให้เฟส 1 ออกก่อน สนใจเรื่องเฟส 1 เรื่องที่มีปัญหาหรือไม่มีปัญหาดีกว่า ซึ่งหากเฟส 1 รัฐบาลทำได้อย่างดี และภายหลังจากทำเฟส 1 เสร็จ เฟส 2 ก็จะทำต่อเนื่อง ซึ่งคำว่าต่อเนื่องทำได้เร็วที่สุดเมื่อไหร่ก็จะทำเมื่อนั้น

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง กล่าวเช่นกันว่า ขอดำเนินการเฟส 1 ให้เสร็จก่อน แต่คาดว่าจะไม่ทันในปี 2567

เมื่อถามว่า หากเป็นปี 2568 เฟส 2 จะดำเนินการได้ภายในเดือนใด นายพิชัยกล่าวว่า เราจะดูความต่อเนื่องอีก 2-3 เรื่อง โดยจะดูพร้อมๆ กันว่าอันไหนดีที่สุด ส่วนจะได้ไตรมาสไหนนั้น ต้องขอดูหลังจากนี้ก่อน ส่วนจะมีการแบ่งจ่ายหรือไม่นั้น ก็ต้องดูหลายปัจจัย ในความพร้อมทุกๆ อย่าง รวมถึงความพร้อมของช่องทางการจ่ายด้วย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวว่า  การลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกลุ่มแรก ยืนยันว่าจะปิดในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ซึ่งขณะนี้มียอดคนลงทะเบียนทั้งหมด 32 ล้านคน โดยจำเป็นต้องเลื่อนการลงทะเบียนกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟนออกไปก่อน เพราะอยากให้การจ่ายเงินในรอบแรกจบลงก่อน โดยจะมาชี้แจงอีกครั้งภายในช่วงปลายเดือน ก.ย. แม้ระบบทั้งหมดมีความพร้อม แต่หากไปทำพร้อมกับการแจกเงินจะทำให้เกิดความสับสน และหลังจากลงทะเบียนของกลุ่มผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน เราจะได้จำนวนผู้ลงทะเบียนทั้งหมด ซึ่งจะทำให้เราสามารถบริหารจัดการได้ว่าจะเดินหน้าโครงการนี้ได้อย่างไร

รมช.การคลังกล่าวอีกว่า ส่วนโครงการจะดำเนินการได้ทันภายในปีนี้หรือไม่นั้น ยอมรับว่าล่าช้าเล็กน้อยจากที่เราคาดการณ์ไว้ เพราะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล รวมถึงการเชื่อมโยงระบบ แต่ยืนยันว่ายังมีคำว่าบล็อกเชนและวอลเล็ต ซึ่งคาดว่าจะเสร็จภายในต้นปี 2568 ส่วนการทดสอบระบบยืนยันว่าต้องให้เกิดความมั่นใจ เพราะเป็นโครงการขนาดใหญ่ จะให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้  และยินดีให้หน่วยงานต่างๆ ตรวจสอบให้เต็มที่

เมื่อถามว่า หมายความว่าประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเปราะบางต้องรอความหวังให้จ่ายทั้งระบบ ในปีหน้าใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ปีหน้า เมื่อถามย้ำว่าจะได้ภายในไตรมาสแรกของปีหน้าใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์หัวเราะและกล่าวว่า “อย่ากำหนดเวลาแบบเดิมเลย เดี๋ยวต้องมานั่งถามทุกสัปดาห์อีก เดี๋ยวต้องมีคำตอบที่ชัดเจนออกมา แต่ต้องให้เวลากับมันนิดนึง”

เมื่อถามว่า เฟส 2 ต้องรอให้เฟสแรกใช้เงินให้หมดก่อนหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า ไม่ได้กำหนดขนาดนั้น แต่ต้องมีระยะเวลาที่เหมาะสม แต่จะรอให้ใช้หมดก็ได้ไม่เสียหาย

เมื่อถามถึงกรณีก่อนหน้านี้นายภูมิธรรมระบุว่าจะจ่าย 5,000 บาทเป็นเงินสด และอีก 5,000 บาทเป็นดิจิทัลวอลเล็ต แสดงว่าตอนนี้ได้ข้อยุติแล้วใช่หรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า พูดชัดไม่ได้ รอตัวเลขสุดท้ายก่อน ทั้งนี้ หากยอดทั้งหมดมี 32 ล้านคน เชื่อว่าทำครั้งเดียวจบได้ แต่หากมีผู้ลงทะเบียนเพิ่มเติมก็ต้องมาพิจารณาใหม่

เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าประชาชนที่ลงทะเบียนในเฟส 2 จะไม่ได้รับเงิน 10,000 บาทแล้วนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า เป็นการวิเคราะห์ที่ผิด ยืนยันว่าได้ และไม่ถูกลอยแพแน่นอน เพราะมีเงินมาแล้ว แต่ไม่สามารถบอกเวลาในการแจกเงินได้อย่างชัดเจน

ขณะที่ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงรายละเอียดในการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.2567 เป็นต้นไป ว่าจะมีการจัดกลุ่มเป็นลำดับคิวที่ชัดเจน และจะทยอยจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ โดยจะแบ่งเป็น 4 วัน คือตั้งแต่วันที่ 25, 26, 27 และ 30 ก.ย.2567 โดยในวันที่ 25 ก.ย. แจกเงินให้กลุ่มคนพิการ 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0, วันที่ 26 ก.ย. แจกให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3, วันที่ 27 ก.ย. แจกให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7 และวันที่ 30 ก.ย. แจกเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9

“จำเป็นต้องจัดเป็นกลุ่มเป็นล็อตๆ เฉลี่ยรอบละ 4-5 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะสามารถโอนเงินให้ประชาชนได้ในช่วงเช้า ซึ่งหลังจากรัฐบาลโอนเงินให้ประชาชนเรียบร้อยแล้ว ประชาชนก็สามารถถอนเงินออกได้เลย โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ซึ่งหากใครยังไม่มีให้รีบดำเนินการ แต่หากผูกพร้อมเพย์ไม่ทันตามกำหนดจ่ายเงินก็ยังได้รับสิทธิ์เช่นเดิม แต่จะได้รับเงินล่าช้าออกไป และต้องผูกพร้อมเพย์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ หากไม่ทัน เมื่อครบกำหนดจะทำการดึงเงินกลับคืน ส่วนกลุ่มผู้พิการนั้น จะจ่ายเงินผ่านช่องทางของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะมีการจ่ายเบี้ยคนพิการให้ทุกเดือนอยู่แล้ว” นายลวรณกล่าว

นายลวรณกล่าวอีกว่า สำหรับโครงการเฟส 2 นั้น รัฐบาลยังยืนยันที่จะดำเนินการต่อไป เป็นสิ่งที่ต้องทำต่อ เพราะเป็นโครงการที่ถือเป็นอินฟราสตรัคเจอร์ของประเทศไทย เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในอนาคตที่จะนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล แต่จะพร้อมเมื่อไหร่ ทั้งหมดคงขึ้นอยู่กับระบบเป็นหลัก หากระบบแล้วเสร็จก็คงจะได้จ่ายเงินให้ประชาชนในเฟสที่ 2 ยืนยันว่าคนที่ลงทะเบียนไว้แล้วก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้รับเงิน ไม่ได้ล้ม แต่ว่าหากได้ผ่านกลุ่มเปราะบางไปแล้วก็จะไม่ได้รับสิทธิ์อีก ส่วนถามว่าจะทันปีนี้หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาระบบ

นายลวรณระบุว่า เม็ดเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่แจกให้กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.นี้ คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 1.45 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจ่ายมา เชื่อว่าจะส่งผลดีกับระบบเศรษฐกิจ ไม่ต้องรอให้ถึง ธ.ค. ซึ่งเป็นกำหนดเดิมของโครงการ และเชื่อว่าปีนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นการเติบโตของตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวได้ถึง 3% แน่นอน โดยเฉพาะในไตรมาส 4/2567 ที่จะได้เห็นการเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลเงินสด 10,000 บาท ให้กลุ่มเปราะบางก่อน โดยจะตอบโจทย์การกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นได้ เพราะเป็นการจ่ายตรงและไม่มีเงื่อนไข ส่วนที่เหลือจาก 14.5 ล้านคน ที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง จะต้องมาทบทวน ทั้งในเรื่องความจำเป็น งบประมาณที่มีอยู่ และดูว่าโครงการไหนจะมีผลกระทบในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นิพนธ์' ซัดรัฐบาลแจกเงินหมื่น เฟส 2 หวังผลการเมือง ไม่ใช่กระตุ้นเศรษฐกิจ

นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย-อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และอดีตนายก อบจ. พรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ เฟส 2 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีการแจกเงินสด 10,000 บาท ให้แก่ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ที่ลงทะเบียนในระบบและยืนยันตัวตนแล้ว รวมกว่า 4 ล้านคน