กรมอุตุฯ เผยไทยได้รับผลกระทบจาก "ยางิ" ฝนตกหนักช่วงวันที่ 9-12 ก.ย. ขณะที่กรมชลฯ แจ้งเตือน 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม
เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ฝ่ายบริหาร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า จากการติดตามคาดว่าพายุไต้ฝุ่น “ยางิ (NAGI)” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองกว๋างนิญ ประเทศเวียดนาม วันที่ 7 ก.ย.67 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และพายุดีเปรสชัน ตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนตกหนักถึงหนักมาก กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย.67 และถึงแม้พายุยางิจะอ่อนกำลังลง แต่ประเทศไทยยังจะได้รับผลกระทบฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงวันที่ 9-12 ก.ย.67 เนื่องจากร่องมรสุมยังอยู่
ทั้งนี้ ในส่วนของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย.67 นี้ไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรม
ด้านนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประธาน ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา ฉบับที่ 7 แจ้งเตือน 11 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานครฯ
จากการคาดการณ์ โดยกรมชลประทาน ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำฝน พบพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก จึงต้องเฝ้าระวังพายุไต้ฝุ่น "ยางิ" แม้กรณีพายุไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย แต่อาจมีอิทธิพลที่จะส่งผลให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในวันนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านตอนกลางของประเทศในอีก 1-7 วันข้างหน้า โดยวันที่ 12 ก.ย. ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,500-1,600 ลบ.ม./วินาที
และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากลำน้ำสาขามีปริมาณ 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณ 1,900 ลบ.ม./วินาที ประกอบกับทางกรมชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ในอัตรา 300 ลบ.ม./วินาที ทางกรมชลประทานมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 1,500-1,700 ลบ.ม./วินาที ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 20-50 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และในแม่น้ำน้อย ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนริมแม่น้ำ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้นที่จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,700 ลบ.ม./วินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับปัจจุบัน (เวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.ย.) สถานการณ์น้ำที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมืองฯ จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านอยู่ที่ 1,481 ลบ.ม./วินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีปริมาณน้ำทางด้านเหนือเขื่อนอยู่ที่ 16.44 เมตร/รทก. มีปริมาณน้ำทางด้านท้ายเขื่อนอยู่ที่ 12.82 เมตร/รทก. ซึ่งระดับน้ำห่างจากตลิ่งอยู่ที่ 3.52 เมตร และเขื่อนเจ้าพระยา มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
และจากสถานการณ์ดังกล่าว ทางกรมชลประทานได้ดำเนินการภายใต้เกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดนประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ อนุญาตให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำจากเดิม 1,498 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได คาด 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ในพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำจะเอ่อล้นเข้าท่วม
อย่างไรก็ตาม ทางกรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ กรมชลประทานได้แจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัทห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมไปถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 11 เตือนหนาวจัดลมแรง ทะเลคลื่นสูง 4 เมตร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่องอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทยรวมทั้งทะเลอันดามัน
อุตุฯ เตือนอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิลดลงอีก ใต้ฝนฟ้าคะนอง 10-20%
กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า ประเทศไทยมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยประเทศไทยตอนบนและภาคใต้ตอนบนจะมีอุณหภูมิลดลง กับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด
บิ๊กอ้วนตอกยํ้า แจก‘เงินดิจิทัล’ ‘อนุสรณ์’เตือน
“ภูมิธรรม” ยันรัฐบาลเร่งแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ
อิ๊งค์หาเสียงฟุ้งพท.มาคนจนรวยแน่
"หัวหน้าอิ๊งค์” ลุยนครพนม ช่วย “อนุชิต” ผู้สมัครนายก อบจ.เพื่อไทยหาเสียง
รพ.ตำรวจอึมครึม เวชระเบียนชั้น14
เส้นตายพุธนี้! แพทยสภาสอบหมอช่วย "ทักษิณ" อึมครึม "แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ" ปัดตอบส่งเอกสารหรือยัง
‘จ่าเอ็ม’เครียด อุบ‘ผู้มีบุญคุณ’ ตร.หิ้วฝากขัง!
ตำรวจเค้นสอบ “จ่าเอ็ม” ตลอดคืน ยังให้การไม่เป็นประโยชน์คดียิงอดีต