พปชร.รีแบรนด์! ลั่นเป็นหนึ่งเดียว

พปชร.คลอด 24 กก.บห.ชุดใหม่ “ไพบูลย์” แม่บ้านพรรค “วัน” โผล่นั่งด้วย “ประวิตร” ลั่นเป็นหนึ่งเดียว ไม่แตกแยก “ชัยวุฒิ”  โยนสังคมตัดสิน “ก๊วนธรรมนัส” ลูกผู้ชายหรือไม่  แฉพรรคเละ เหตุถูกคนนอกครอบงำ “เลขาฯ ป้ายแดง” กร้าว ตรวจสอบไม่เกรงใจใครแล้ว   

เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่อาคารรัชดาวัน ถ.รัชดาภิเษก ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นประธานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2567 เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ภายหลังกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา กับพวก รวม 6 คน ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค โดยมีสมาชิกเข้าร่วมประชุม 800 คน  

โดยระหว่างทางที่ พล.อ.ประวิตรกำลังเดินเข้ามาในห้องประชุม มีสมาชิกพรรคเข้ามาทักทายพร้อมมอบพวงมาลัยดาวเรืองให้ และตะโกนให้กำลังใจ ลุงป้อมสู้ๆ จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ส่งหนังสือลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ส่งผลให้กรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ต้องดำเนินการเลือกใหม่

ต่อมานายไพบูลย์แถลงภายหลังการประชุมว่า พรรคจะดำเนินตามอุดมการณ์ ปกป้องสถาบัน  เศรษฐกิจทันสมัย มีชีวิตที่สดใส โดยผลการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 24 คน ประกอบด้วย พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค ส่วนรองหัวหน้าพรรค 8 คน ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง สส.สระแก้ว, นายอุตตม สาวนายน, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์, นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา,  นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร, นายอภิชัย เตชะอุบล ส่วนนายไพบูลย์ เป็นเลขาธิการพรรค,  พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ กรรมการและเหรัญญิก, นายสมโภชน์ แพงแก้ว เป็นนายทะเบียนพรรค

นายไพบูลย์กล่าวอีกว่า ขณะที่กรรมการบริหารพรรค 12 คน ประกอบด้วย นายอนันต์ ผลอำนวย​ สส.กำแพงเพชร, นายทวี สุระบาล สส.ตรัง,  นายสุธรรม จริตงาม สส.นครศรีธรรมราช, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย, น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ, นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย, นายชาญกฤช เดชวิทักษ์, ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และนายวัน อยู่บำรุง นอกจากนี้ ยังมีการเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งตามตำแหน่งที่ว่าง ประกอบด้วย นายสันติ, นายไพบูลย์, นายชัยวุฒิ, น.ส.ตรีนุช และ พล.อ.กฤษณ์โยธิน

ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า พปชร.ต่อไปนี้เป็นหนึ่งเดียว ไม่มีการแตกแยก จะเปลี่ยนวิธีบริหารใหม่ จะให้รองหัวหน้าพรรคดูแลแต่ละพื้นที่  และเลขาธิการพรรคเป็นฝ่ายสนับสนุน พปชร.จะยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์​ จะปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของเรา จะทำเศรษฐกิจทันสมัย ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชีวิตสดใส จะทำให้พรรคของเราเข้มแข็ง ให้ประชาชนได้อยู่ดีมีสุขต่อไป

ภายหลังการประชุม ผู้สื่อข่าวพยายามถาม พล.อ.ประวิตรถึงการเดินหน้า พปชร. หลังจากที่ได้ย้ำว่าจะไม่มีการแตกแยกอีกแล้ว โดย พล.อ.ประวิตรตอบว่า เรียบร้อย เมื่อถามว่าเรื่องของ ร.อ.ธรรมนัสจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ซึ่ง พล.อ.ประวิตรหันมาพูดเสียงแข็งว่า “เรื่องของธรรมนัสก็ไปถามธรรมนัสสิ”

จากนั้น พล.อ.ประวิตรย้ำถึงอุดมการณ์พรรคว่า เรายึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันดับแรก ก่อนยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว

ด้านนายชัยวุฒิให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ถึงกับรีแบรนด์พรรค แต่ยังคงเป็น พปชร.เหมือนเดิม เพียงแต่ได้เน้นถึงอุดมการณ์ให้ชัดเจน และแนวทางการทำงานต่อไปที่เราจะต่อสู้ในอนาคต คนที่อยู่สู้กับพรรคมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำงานการเมืองต่อกับเรา มีอุดมการณ์ร่วมกัน ส่วนคนที่ไม่อยู่ถือว่าออกไปแล้ว ซึ่งมีความชัดเจน ตนไม่อยากจะพูดถึง คนที่อยู่คือรักกัน ทำงานร่วมกันแน่นอน

พปชร.ถูกครอบงำจนแตก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคย้ำเรื่องของการไม่แตกแยก แต่ภาพที่ปรากฏออกมามันสวนทางกัน นายชัยวุฒิตอบว่า มันเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง มีคนหลายกลุ่มหลายฝ่ายอยู่ด้วยกันก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้าง อย่ามองที่ พปชร.เลย ทุกพรรคมีปัญหาแบบนี้ เพียงแต่ว่าแต่ละพรรคจะบริหารจัดการภายในพรรคอย่างไร ซึ่งของ พปชร.ที่เกิดปัญหาในครั้งนี้มันไม่ได้เกิดจากภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากบุคคลภายนอกพรรคที่เข้ามาครอบงำ เข้ามาสั่งการด้วย จึงทำให้เกิดปัญหา

 ต่อข้อถามว่า คนที่ครอบงำเป็นคนจากพรรคอื่นใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิบอกว่า ดูจากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีบุคคลภายนอกเข้ามาสั่งการ ครอบงำ มีการสร้างเงื่อนไขให้เกิดความแตกแยกในพรรค ถ้าภาษาการเมืองเขาเรียกว่าดูด หรืองูเห่า แบบนี้มันไม่ใช่ลูกผู้ชาย มันไม่ใช่กระบวนการทางการเมืองแบบตรงไปตรงมา ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับ พปชร.

เมื่อถามว่า มองกรณีที่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคอย่างไร โดยไม่มีการแจ้งลาออกกับพรรคโดยตรง รวมถึงมีการย้ายไปนั่งกับฝั่งรัฐบาล นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเลย ถ้าเขาอยากคุยเดี๋ยวก็มาคุยเอง เมื่อถามยํ้าว่าพฤติกรรมดังกล่าวเหมาะสมหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ตอบไม่ได้ ประชาชนดูออกอยู่แล้วว่าอะไรถูกต้อง เหมาะสม อะไรที่ไม่ถูกต้อง ดูแล้วขัดอารมณ์ ไม่เหมาะสม รู้กันอยู่ ทำอะไรแบบลูกผู้ชายก็ดูเหมาะสม แต่หากทําอะไรที่ไม่เป็นลูกผู้ชายก็ไม่เหมาะสม

ต่อข้อถามว่า แสดงว่าที่ทำอยู่ไม่ใช่ลูกผู้ชายใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า อะไรที่เป็นลูกผู้ชาย มันก็ชัดเจน คนยอมรับ อะไรที่ไม่ลูกผู้ชาย ทำอะไรไม่ตรงไปตรงมา คนก็ไม่ยอมรับ แค่นั้นเอง ทั้งนี้ คนที่ตนพูดถึง หมายถึงสังคม ที่ไม่ยอมรับ และตนพูดในหลักการ แต่ประชาชนต้องไปคิดเองว่าเป็นอย่างไร

ส่วนกรณีกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัสโหวตสวนในการลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2568 ไม่ได้เป็นพฤติการณ์ให้ขับออกจากพรรคได้ใช่หรือไม่นั้น นายชัยวุฒิระบุว่า ยังไม่ถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดนั้นค่อยว่ากันอีกที และในพรรคเรายังไม่มีการพูดคุยถึงการขับ ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ

เมื่อถามอีกว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส อยากให้พรรคขับออกเพื่อจะไปร่วมงานกับพรรคอื่น แต่ดูเหมือน พปชร.พยายามดึงรั้งไว้ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีการพูดคุยกัน ตนว่าเรื่อง สส.ที่แยกตัวออกไป คงต้องดูสถานการณ์อีกทีว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ตอนนี้พรรคยังไม่มีท่าที เรื่องนี้ปล่อยให้ฝ่ายต่างๆ ทำหน้าที่กันต่อไป ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาแตกหักกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นลักษณะการแก้แค้นของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ พล.อ.ประวิตรหรือไม่ นายชัยวุฒิปฏิเสธว่า ไม่ทราบ ต้องไปถามท่าน ตนตอบแทนไม่ได้ แต่การเมืองอย่าพูดเรื่องแค้นหรือความโกรธเคืองอะไรกันเลย เพราะต่างคนต่างทำหน้าที่ และสถานการณ์การเมืองมันเปลี่ยนไปตลอด อย่างวันหนึ่งเห็นหรือไม่ว่าคนที่ไม่ถูกกันยังกลับมารักกันเลย ผลประโยชน์ลงตัวก็ทำงานด้วยกันได้

ซักว่าที่ พปชร.เป็นแบบนี้ เป็นเพราะ พล.อ.ประวิตรเสื่อมการปกครองใช่หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า ไม่ทราบ ดูกันเองแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ตนว่า พล.อ.ประวิตรยังเป็น พล.อ.ประวิตรคนเดิม มีความมุ่งมั่นตั้งใจ มีพลังที่จะทำงานขับเคลื่อนการเมืองต่อไป ใครจะอยู่ใครจะไปเป็นเรื่องของคนภายนอก ไปบังคับเขาไม่ได้          

เลิกเกรงใจลุยตรวจสอบ

เมื่อถามว่า สมาชิกพรรคพร้อมที่จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า รอดูต่อไปแล้วกัน ส่วนการตรวจสอบรัฐบาลมีหลายช่องทางอยู่แล้ว ทั้งในสภาผ่านการอภิปราย เราจะทำให้เต็มที่ และการตรวจสอบด้านกฎหมาย ใครทำผิด ใครทำทุจริต เราก็ว่าไป เราจะทำเต็มที่ ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ร่วมกัน ก็ไม่ต้องเกรงใจกัน ทำให้เต็มที่ เมื่อก่อนเกรงใจกัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว

นายชัยวุฒิยังกล่าวถึงกรณีนายไพบูลย์มาเป็นเลขาธิการพรรคว่า คนที่เป็นเลขาธิการพรรค ควรเป็นคนที่ทำงานร่วมกับหัวหน้าพรรคได้ เพราะเลขาธิการพรรคต้องเป็นมือขวาในการทำงานให้หัวหน้าพรรค และสามารถขับเคลื่อนงานได้ ซึ่งงานมีหลายด้าน ทั้งด้านกฎหมาย การเมือง ประสานกับ สส. และงานในสภา ตนคิดว่านายไพบูลย์เป็นคนที่เหมาะสม

นายไพบูลย์กล่าวภายหลังรับตำแหน่งเลขาธิการพรรคว่า แนวทางหลักคือจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานของตำแหน่งเลขาธิการพรรค จากเดิมเข้าไปดูผู้สมัครรับเลือกตั้งทั่วประเทศ แต่ในส่วนการสนับสนุนฝ่ายต่างๆ อาจจะไม่ได้ทำมาก พล.อ.ประวิตรจึงปรับโครงสร้างให้เป็นฝ่ายสนับสนุนรองหัวหน้าพรรคทั้ง 8 คน และให้รองหัวหน้าพรรคเป็นผู้ดูแลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย และที่สำคัญการปฏิบัติงานต้องขึ้นตรงต่อหัวหน้าพรรค เพื่อให้พรรคมีความมั่นคงสถาพร เชื่อว่าการตั้งกรรมการพรรคชุดใหม่ครั้งนี้ จะสร้างความเข้มแข็งเป็นปึกแผ่นให้กับ พปชร.เพื่อก้าวต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้จะอุดรอยรั่วภายในพรรคได้หรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า การปรับครั้งนี้จะทำโครงสร้างเป็นหนึ่งเดียวและมั่นคง เพราะกรรมการบริหารเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานในนามพรรค เพราะฉะนั้นหากมีความเป็นเอกภาพ เชื่อว่าจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเชื่อว่ากรรมการบริหารชุดนี้จะไม่ใช่ชุดที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่อะไร หรือไม่มีบทบาทแบบที่ผ่านมา

เมื่อถามว่า มีความพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านมากน้อยแค่ไหน นายไพบูลย์กล่าวว่า พร้อมอยู่แล้ว เพราะการมี สส.ไม่ว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราพร้อมปฏิบัติอยู่แล้ว และจะทำให้ดีที่สุด เชื่อว่าเราจะก้าวไปสู่ยุคใหม่ของการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีมากขึ้น

เมื่อถามว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่า พปชร.เกิดขึ้นโดยทหาร จะทำอย่างไรให้พรรคแตกต่างจากพรรคทหารในอดีต นายไพบูลย์ตอบว่า พล.อ.ประวิตรเป็นนายทหารนอกราชการ ซึ่งทหารที่มาร่วมในพรรคเป็นสัดส่วนน้อยมาก ฉะนั้นพรรคเราไม่ใช่พรรคทหารอย่างที่เขาว่า แต่เป็นพรรคการเมืองที่สมบูรณ์แบบตั้งแต่วันก่อตั้งถึงปัจจุบัน และพรรคมีความมุ่งมั่นทำประโยชน์ให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องและยืนยาว แม้หลายฝ่ายจะปรามาสว่าเป็นพรรคเฉพาะกิจ ตนยืนยันว่า พล.อ.ประวิตรจะเป็นหัวหน้าพรรคนี้ตลอดไป

 เมื่อถามย้ำว่า ในอดีตพรรคที่ก่อตั้งโดยทหารมีอายุไม่ยืนยาวเท่าไร นายไพบูลย์กล่าวว่า เห็นว่าพรรคใดที่ก่อตั้งโดยคนที่ไม่มียศทหารก็ล้มหายตายจากไปเยอะแล้ว ฉะนั้นก็วิพากษ์วิจารณ์กันไป แต่เรายังอยู่

เมื่อถามถึงกรณี พปชร.เป็นฝ่ายค้าน แต่มี สส.โหวตสนับสุนนรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายไพบูลย์กล่าวว่า เมื่อมีกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่คงมีการประชุม โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานสภา ส่วนจะเป็นอย่างไรขอให้รอมติที่ประชุม เพราะหากเอาความเห็นส่วนตัวมาพูดคงไม่ดี เมื่อถามย้ำว่าจำเป็นต้องขับออกหรือไม่ นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่อยากพูดถึง แต่เรายังไม่มีแนวคิดอะไรทั้งสิ้น ขอให้มีมติจากกรรมการบริหารพรรคก่อน เมื่อถามอีกว่า จะทำหน้าที่ตรวจสอบในสภาเข้มข้นหรือไม่ นายไพบูลย์ตอบว่า “เรื่องการตรวจสอบไม่เคยเกรงใจใคร ผมชอบมาก เพราะเป็นงานถนัด ตั้งแต่ผมเป็น สว.ตรวจสอบรัฐบาลมาตลอด 6 ปี”

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตั้งข้อสังเกตเรื่องการเข้าประชุมสภาผู้แทนราษฎรของ พล.อ.ประวิตร ว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน หากท่านไม่มา ท่านก็ต้องส่งใบลา เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกที่หากใครไม่สบายหรือมีเหตุจำเป็นก็สามารถส่งใบลามาได้ ส่วนเรื่องการอนุมัติใบลานั้นต้องไปถาม พล.อ.ประวิตรเอง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง