คึกคัก! รัฐมนตรีชุดใหม่เข้าทำเนียบฯ แห่ตรวจ RT-PCR ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ 6 ก.ย. ตึกไทยคู่ฟ้าเตรียมพร้อมรับ “นายกฯ อิ๊งค์” เอาชุดโต๊ะทำงานมาเอง หันทิศใหม่ "แพทองธาร” อุทาน “โห” ใช้คำแรง "ครม.สืบสันดาน" วอนให้มองความตั้งใจมุ่งสานต่องานเพื่อ ปชช. โอดสงสารนายกฯ อายุน้อยอย่าจ้องฟ้องกันมากเลย ไม่ได้มีอะไรผิด ยันอยู่หัวโต๊ะไม่ข่มเหงใคร แต่พร้อมรับฟัง แจงนโยบายยังเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้สะดุด "พ่อนายกฯ" แอบขึ้นตึกชินฯ ช่วงที่ พท.ร่างนโยบาย "ชูศักดิ์" ป้อง "นายใหญ่" ไม่ได้ครอบงำ เล็งแก้ รธน.กำหนดมาตรฐานจริยธรรมให้ชัดเจน “ศิริกัญญา” เหน็บมีแค่ "ชูศักดิ์" ที่ใช้ความรู้นั่ง รมต. ขณะที่ "ธรรมนัส" เล็งดูข้อ กม.ออกจาก พปชร. แต่ยังเป็น สส.
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 5 กันยายน ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งรัฐมนตรี และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งประสานให้รัฐมนตรีชุดใหม่เตรียมความพร้อมเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 6 ก.ย.67 เวลา 17.00 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน และได้แจ้งรัฐมนตรีชุดใหม่ว่า วันที่ 5 ก.ย. เวลา 10.00 น. ให้เข้ามาตรวจ RT-PCR ที่ห้องสีฟ้า ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
โดยเวลา 09.15 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง เดินทางมาถึงเป็นคนแรก จากนั้นเวลา 09.45 น. นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม และตามมาด้วย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม, นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อมวลชนเป็นพิเศษ ขณะที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน, นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข ตรวจ RT-PCR ด้วยตัวเอง
ในส่วนตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเป็นห้องทำงานของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายหลังจากได้มีการนำชุดโต๊ะทำงานเดิมสมัยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมาเตรียมรอรับ น.ส.แพทองธาร ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าได้มีการนำชุดโต๊ะทำงานดังกล่าวกลับไปเก็บไว้ที่โกดังที่บ้านพิษณุโลกแล้ว เนื่องจาก น.ส.แพทองธารจะใช้ชุดโต๊ะทำงานของตนเองที่เตรียมไว้ โดยก่อนหน้านี้มีทีมงานส่วนตัวเข้ามาดูความเรียบร้อยและจัดเตรียมสถานที่ห้องทำงานแล้ว อย่างไรก็ตาม น.ส.แพทองธารจะเปลี่ยนมุมตั้งโต๊ะทำงานใหม่ โดยหันหน้าไปยังตึกบัญชาการ 1 จากเดิมในสมัยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ตั้งโต๊ะทำงานหันหน้าไปยังตึกสันติไมตรี
ขณะเดียวกัน ที่ห้องทำงานของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกฯ และอดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่อยู่ชั้นล่าง ภายในตึกบัญชาการ 1 ได้มีเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บของ โดยรวบรวมเอกสารต่างๆ ใส่กล่องวางไว้ เพื่อเตรียมขนย้าย แต่ตู้ปลามังกรซึ่งเป็นของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมัยเป็นรองนายกฯ และนำลงมาไว้ที่ห้อง พล.ต.อ.พัชรวาท ล่าสุดยังไม่ได้มีการนำออกไป
นอกจากนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจวัดเพื่อปรับปรุงพื้นที่โดยรอบศาลพระภูมิและศาลตายาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ยังมีการเปลี่ยนป้ายที่จอดรถของนายกรัฐมนตรี ครม. และคณะทำงานต่างๆ โดยจะเปลี่ยนพื้นป้ายจากเดิมสีขาว เป็นสีเขียว รวมถึงเปลี่ยนสีตัวอักษร จากเดิมสีน้ำเงิน เปลี่ยนเป็นสีขาวด้วย
ที่อาคารชินวัตร 3 เวลา 10.15 น. วันที่ 5 กันยายน น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีตั้งรองนายกรัฐมนตรี 6 คน จะแบ่งงานกันอย่างไรว่า ได้วางเอาไว้แล้วว่าจะให้ใครทำอะไร ขออีกนิดหนึ่ง อยากให้เกิดความชัดเจนเกิดขึ้น เวลามอบหมายงานก็จะได้ตามกลับมาได้ชัดเจนขึ้นด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มุ่งหวังกับ ครม.ชุดนี้ และตั้งเป้าหมายอย่างไรบ้าง นายกฯ อุทานว่าโอ้ว ก่อนกล่าวว่า คิดว่าดี และคิดว่าดีมากๆ จริงๆ ทุกคนมีความพร้อมที่จะสานงานต่อ และคิดว่าเป็นพลังอะไรที่เรามารวมกันแล้ว และอยากจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน อยากให้ประเทศไปต่อ หลายๆ คนมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเดิม ซึ่งทุกคนก็พร้อมตรงนี้
ใช้คำแรง ครม.สืบสันดาน
เมื่อถามว่า จะมีการตั้งเงื่อนเวลาเพื่อวัด KPI ในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังค่ะ เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์หน้าตา ครม.เป็นการสืบต่อครอบครัว เพราะตัวเองไม่ได้ตำแหน่ง แต่ให้ลูกให้เพื่อนให้ญาติแทน ลักษณะอาจจะใช้คำแรงว่า ครม.สืบสันดาน นายกฯ อุทานว่า “โห” ก่อนกล่าวว่า แรงจริงๆ ด้วย พร้อมกับหัวเราะและกล่าวว่า ใช้คำแรงจัง
"จริงๆ มีหลายรูปแบบ และหลายๆ คนที่ไม่ใช่เป็นครอบครัวหรือเกี่ยวข้องกัน และมีหลายๆ คู่ที่เป็นครอบครัวต่อกันมา แต่อยากให้มองว่าเป็นความตั้งใจได้ไหมที่มันถ่ายทอดกันมาในคนใกล้ชิดคนรู้จัก เพราะหลายๆ อย่างที่ต้องทำต้องใช้แรงผลักดัน อาศัยความภาคภูมิใจของคนข้างๆ คนรอบๆ ฉะนั้นคำว่าเป็นครอบครัวหรือเป็นอะไรมันไม่ใช่ข้อเสีย มันเป็นเรื่องของแรงผลักดันให้กันมากกว่า โดยเห็นว่าคนหนึ่งทำเพื่อประเทศแบบนี้ อีกคนหนึ่งในครอบครัวก็มีแรงผลักดันเช่นกัน มันเป็นแบบนั้น"
เมื่อถามว่า พอมีคำว่าคนในครอบครัว ก็มีการมองถึงการครอบงำ ซึ่งนายกฯ ยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีเรื่องข้อหา รวมถึงการฟ้องร้องก็มีมา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “สงสารนายกฯ บ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะเลย เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ ฉะนั้นอย่างที่บอกและให้สัมภาษณ์ไป บางทีเรื่องเล็กๆ อย่าไปให้ความสำคัญอะไรมากเลย แม้แต่เรื่องการฟ้องร้องอะไรต่างๆ คนฟ้องก็อย่าฟ้องเยอะเลย มันไม่ได้มีอะไรผิดแบบนั้นอยู่แล้ว ต้องค่อยๆ”
เมื่อถามว่า ด้วยความที่นายกฯ อายุน้อย และในสถานะต้องนั่งหัวโต๊ะและต้องเป็นประธานบอร์ดโดยตำแหน่งในหลายๆ คณะ จะประหม่าตัวเองหรือกังวลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "เอาจริงๆ นะคะ ตัวดิฉันเองคิดว่าได้รับตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้แล้ว โดยการโหวตจากสภา อันนี้ต้องขอบพระคุณทุกท่าน การที่ดิฉันเป็นตำแหน่งนายกฯ ไม่พร้อมที่จะข่มเหงใคร แต่พร้อมที่จะรับฟัง และพร้อมที่จะให้ความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นคิดว่าหลักคิดตรงนี้มันจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างสมูท คิดอย่างนั้น"
เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้เกิดความบั่นทอนในการทำงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็ไม่ ก็โอเคนะคะ ทุกคนมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์ ถ้าทุกคนคิดในใจว่าวิจารณ์ด้วยเหตุผลไม่ได้ใช้อารมณ์ คิดว่าน่าจะมี แต่โอเคมันเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพียงแต่ขอกำลังใจกันบ้างแค่นั้นเอง
ส่วนความคืบหน้าในการเตรียมความพร้อมนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้จะประชุมเรื่องของนโยบาย และในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะให้ได้ข้อสรุปทุกอย่าง รวมถึงจะดูเรื่องของถ้อยคำเพื่อไม่ให้สะดุด แต่เรื่องของนโยบายเรียบร้อยแล้ว และต้องมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลได้ทยอยส่งมาแล้ว ในส่วนของพรรคเพื่อไทยยังคงนโยบายเดิม แต่จะปรับรายละเอียดเล็กน้อยในส่วนของดิจิทัลวอลเล็ต และจะอธิบายบางนโยบายให้เข้าใจง่ายขึ้น
"ในส่วนของนโยบายค่อนข้างที่จะเหมือนเดิม เพื่อไม่ให้สะดุด และอยากให้ประเทศเดินหน้าต่อ"
เมื่อถามถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แสดงวิสัยทัศน์ไว้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา จะนำมารวมอยู่ในนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “อะไรที่เป็นประโยชน์เดี๋ยวดูกันอีกที"
พ่อนายกฯ แอบร่วมร่างนโยบาย
ทั้งนี้ ที่อาคารชินวัตร 3 ภายหลัง น.ส.แพทองธารเดินทางเข้ามาปฏิบัติภารกิจในช่วงเช้าเวลา 10.15 น. โดยได้เปิดเผยว่าจะมาจัดทำร่างนโยบายที่เตรียมเข้าสู่ที่ประชุม ครม.นัดพิเศษ ในวันเสาร์ที่ 7 ก.ย.นี้ ต่อมาเวลา 11.28 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินทางมายังอาคารชินวัตร 3 ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าตั้งแต่มีการถูกวิจารณ์เรื่องการครอบงำ นายทักษิณได้เข้าทางชั้นใต้ดิน ไม่ได้เข้าทางด้านหน้าอาคาร
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งอย่างเป็นทางการว่า มีความตื่นเต้นอย่างมาก ขณะที่นโยบายการทำงานของรัฐบาล จะแบ่งสัดส่วนอย่างไรนั้น ต้องถามนายกฯ ว่าจะแบ่งอย่างไร งานที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ถือว่าเป็นรายได้หลักของประเทศ ซึ่งพยายามทำให้ดีที่สุด ถือเป็นสิ่งที่ท้าทาย แต่ตัวถนัดอยู่แล้ว และตนเคยเป็นนักกีฬา ส่วนการแต่งตั้งโยกย้ายปลัดกระทรวง ก็คงเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน
นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายว่าให้ดูแลหน่วยงานใด และนายกฯ น่าจะมอบหมายให้ดูเรื่องกฎหมาย ที่จะเข้าที่ประชุม ครม.และสภา คิดว่างานสำคัญคือเรื่องการผลักดันการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหลายฉบับ รวมถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการนำเสนอ เช่น กฎหมายซอฟต์พาวเวอร์
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีการตีกรอบเรื่องมาตรฐานทางจริยธรรมให้มีความชัดเจนมากขึ้นหรือไม่นาย นายชูศักดิ์กล่าวว่า หลักการของเราคือให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นผู้ดำเนินการ การแก้ไขอะไรยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดตอนนี้ ส่วนสภาจะเสนอแก้อะไรก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้
“มาตรฐานเรื่องจริยธรรม ผมเคยบอกว่าปัญหาคือความไม่ชัดเจน และเกิดปัญหาในการตีความ ซึ่งเป็นปัญหาของการเขียนรัฐธรรมนูญ และที่วิตกว่าหากตีความกันอย่างกว้างขวางอาจจะทำให้การบริหารประเทศเป็นไปไม่ได้ เช่น มีคนเคยถูกใบสั่งเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มาถูกรื้อฟื้นว่าฝ่าฝืนกฎจราจรจะเป็นความผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ มันก็ยากแก่การชี้วัด เรื่องนี้ต้องทำอย่างไรให้เป็นมาตรฐาน ไม่ต้องตีความอะไรมากมาย ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการเขียนกฎหมาย ในอนาคตก็ให้เขาไปว่ากันเรื่องการแก้ไขถ้อยคำ" นายชูศักดิ์กล่าว
เมื่อถามว่า หากดูประวัติรัฐมนตรีชุดนี้ มีใครที่น่าเสียวไส้เรื่องจริยธรรมอีกหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ก็ผ่านมาหมดแล้ว ไม่น่ามีปัญหา ส่วน น.ส.แพทองธารระมัดระวังเรื่องนี้มาก เพราะทราบปัญหาของสังคมไทย มีทีมคณะทำงานเตรียมการเรื่องพวกนี้ไว้ทั้งหมด เช่นเรื่องหุ้นจะทำอย่างไร มีบรรทัดฐาน และคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไว้แล้ว ส่วนประเด็นครอบงำก็ชัดเจนว่าไม่ใช่ เพราะเป็นแค่การให้คำปรึกษา เป็นเสรีภาพที่ทำได้ ยืนยันในฐานะที่เป็นคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เห็นว่าไม่ได้มีการครอบ และจะไม่ยอมให้ใครมาสั่ง
เชื่อ 'สหายใหญ่' สานต่องานได้
ที่กระทรวงกลาโหม เวลา 11.00 น. นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม เดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม เพื่อมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงกลาโหม ในการอำลาตำแหน่ง จากนั้นได้เข้าไปยังห้องทำงาน ได้นั่งทานอาหารมื้อกลางวันกับปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
โดยนายสุทินได้กล่าวขอบคุณในความร่วมมือในการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จากนั้นปลัดกระทรวงกลาโหมได้มอบของที่ระลึกเป็นปืนใหญ่จำลอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกระทรวงกลาโหมให้กับนายสุทิน ก่อนเดินทางกลับได้ให้สัมภาษณ์ว่า วันที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ได้รับการต้อนรับความอบอุ่น วันไปก็ได้รับกำลังใจที่เปี่ยมล้น การมาอยู่ที่นี่ 1 ปีด้วยเจตนาดี
เมื่อถามว่า ทำงานกับกองทัพในช่วงที่ผ่านมารู้สึกประทับใจอะไรบ้าง นายสุทินกล่าวว่า ประทับใจมาก และได้บอกกับสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่า ที่นี่ทำงานมีแบบแผน มีการวางแผน มีการเตรียมการ และดำเนินการที่มาตรฐานมาก ก็ใช้คำว่า “เป๊ะ” ดีกว่า จุดแข็งข้อนี้ เชื่อว่ากระทรวงกลาโหมจะพัฒนาไปได้ดีมาก เชื่อว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหมคนใหม่ จะทำงานไปได้ต่อเนื่องเลย เพราะเป็นพรรคเดียวกัน นโยบายเดียวกัน ก็ทำนโยบายเดิม ก็สานต่อได้เลย ไม่ต้องริเริ่มมาก หรือถ้าจะมีอะไรริเริ่ม ก็ไม่น่าจะขัดแย้งกัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ครม.ชุดนี้ส่วนใหญ่คนหลักยังดำรงตำแหน่งในหน่วยงานรับผิดชอบเดิม และภาพรวมนโยบายคงเป็นการต่อยอด ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เวลาที่เหลือของการทำงานในสภาชุดนี้ เรายังสามารถที่จะทำนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนต่อได้ ด้วยความร่วมมือของร่วมรัฐบาลทุกพรรค
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับคำวิจารณ์ว่า ครม.นี้เป็น ครม.สืบสันดาน นายอนุทินกล่าวว่า คำว่าสืบสันดาน หากดูในทางกฎหมาย ก็เป็นคำที่อยู่ในทางกฎหมายอยู่แล้ว และคิดว่าวาทกรรมเหล่านี้ควรจะหมดไป ฝืดแล้วกับการใช้วาทกรรม ซึ่งคนที่มาเป็น ครม.ได้ ต้องมีการดูประวัติ ดูวัยวุฒิ การศึกษา เช่น น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เมื่อดูประวัติตนจึงมั่นใจว่ามีความรู้ ความสามารถ รวมถึงประสบการณ์ที่จะสามารถทำงานนี้ได้
ด้าน น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ขอให้รอทุกอย่างอย่างเป็นทางการก่อน ส่วนตกใจหรือไม่ ที่ต้องมารับหน้าที่แทนนายชาดา ผู้เป็นพ่อ น.ส.ซาบีดากล่าวว่า ไม่ตกใจ พร้อมตั้งรับ และยืนยันไม่ได้กังวลอะไร ส่วนนายชาดาขอให้ทำงานให้เต็มที่ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ ส่วนที่มีคนปรามาสถึงความสามารถในการทำงาน น.ส.ซาบีดากล่าวว่า ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ก่อนที่จะเดินทางกลับในทันที
'ธรรมนัส' หาช่อง กม.ทิ้ง พปชร.
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสดรามานายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรค รทสช. มาร่วมรัฐบาล น.ส.แพทองธาร แต่ในอดีตเป็นแกนนำ กปปส.ขับไล่ตระกูลชินวัตร ว่าไม่มีปัญหาหรอก เราทำงาน เราก็ต้องรู้ว่าปัญหาหลักของประเทศคืออะไร เราก็ต้องเดินหน้าไปให้ได้ และที่สำคัญต้องสร้างความมั่นคงให้ประเทศ
เมื่อถามว่า มั่นใจจะไม่เสียมวลชนของ รทสช.ในกรณีดังกล่าวหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า การทำงานทุกอย่างมันไม่สามารถที่จะทำให้ถูกใจใครได้ทุกคนหรอก แต่เราก็ต้องทำในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ การทำงานแม้แต่ตัวเราเอง บางครั้งมันก็ไม่ได้ถูกใจเรา แต่เราก็ต้องทำ เพราะเราต้องคิดว่าสิ่งที่เรารับผิดชอบต่อบ้านเมืองมันสำคัญกว่าความรู้สึกของเรา
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ว่า เรายังคงเห็นการจัดตั้ง ครม. ที่อาจจะไม่ได้ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะตัวมาเป็นจุดในการคัดเลือกตัวบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง ครม.เห็นแค่นายชูศักดิ์ ศิรินิล คนเดียวที่อาจจะมีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย พอที่จะนั่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย แต่คนอื่นก็ยังเป็นนักการเมืองที่เรายังไม่เห็นฝีมือว่าจะสามารถบริหารงานที่จะเฉพาะเจาะจงแต่ละกระทรวงอย่างไร เราก็ยังคงต้องให้โอกาสกับรัฐมนตรีเหล่านั้นให้เริ่มทำงานก่อน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า กลุ่มของตนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ หลังจากที่ประกาศไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรค โดยลาออกทันทีในวันที่ 20 ส.ค.ทั้ง 6 คน ประกอบด้วย ร.อ.ธรรมนัส, นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร, นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา, นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี, นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ และนายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส ซึ่งหนังสือลาออกของทั้ง 6 คน ได้เขียนเรียนนายทะเบียนพรรคการเมือง ลงวันที่ 20 ส.ค.67 และให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ออกเอกสารฉบับนี้ ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ลงเลขรับเมื่อวันที่ 29 ส.ค.67
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ได้มีการแจ้งพรรคใช่หรือไม่ว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรค ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เราไม่ได้แจ้งเขา เราลาโดยตรงกับนายทะเบียนพรรคการเมือง นั่นคือ เลขาธิการ กกต. ขณะนี้กำลังดูข้อกฎหมายว่าจะออกจากพรรคอย่างไร แบบถูกกฎหมาย แต่ยังคงสถานภาพเป็น สส.อยู่.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เร่งเบิกงบลงทุน ขีดเส้นให้ได้80% กระตุ้นเศรษฐกิจ
นายกฯ อิ๊งค์นั่งหัวโต๊ะประชุมหัวหน้าส่วนราชการ บี้เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุน 9.6 แสนล้าน
‘เวชระเบียน’หลอนทักษิณ โยนรพ.ตำรวจมอบให้ปปช.
นายกฯ พยักหน้ารับปม "ป.ป.ช." ทวงถามเวชระเบียนรักษาตัว
เพิ่มข้อหาแชร์ลูกโซ่18บอส จ่อหมายจับ‘ตั้ม’โกงเจ๊อ้อย
"ดีเอสไอ" แจ้งข้อหาเพิ่ม 18 บอสดิไอคอน คดีแชร์ลูกโซ่-ขายตรง
หึ่ง!เปลี่ยน‘พงษ์ภาณุ’แทน‘โต้ง’
“คปท.-ศปปส.-กองทัพธรรม” ลุกฮือ ยื่นหนังสือค้านคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
กอดMOUเจรจาเขมร ‘อิ๊งค์’หวั่นโดนฟ้องยันเดินหน้าแบ่งเค้ก/กต.แจงมีข้อดีกว่าเสีย
นายกฯ อิ๊งค์ลั่นเป็นคนไทย 100% ประเทศต้องมาก่อน ยืนยันจะรักษาแผ่นดินไทยไว้อย่างเต็มที่
'ศิริกัญญา' ชี้อดีตไล่ล่า 'กิตติรัตน์' สังคมกังวลนั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงการสรรหาประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศ