คลังดันกาสิโนอ้างคนเห็นด้วย80%

"ช่วยคลัง" ฟุ้งทีม รมต.คลังสายแข็ง เผยนโยบายตามสั่งอดีตนักโทษชาย  เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์มีคนเห็นด้วยกว่า 80% เดินหน้าแจกเงินสด-วอลเล็ตตามไทม์ไลน์เดิม​ ด้าน "พีระพันธุ์” ระบุ รทสช.สานงานต่อ ก.อุตฯ-พลังงาน แก้ระเบียบอุปสรรค

เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง กล่าวถึงการทำงานของทีม รมว.การคลังชุดใหม่ว่า ทีมงานเศรษฐกิจชุดนี้แข็งอยู่แล้ว และทำงานได้ดี โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง ก็มีความถนัดในเรื่องของตลาดทุนและภาคเอกชน ส่วนนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง ก็มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องวิชาการ จึงน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และโชคดีที่ได้ทำงานต่อเนื่อง เชื่อว่าจะช่วยผลักดันด้านเศรษฐกิจต่อไปได้อยู่

เขาบอกว่า ในส่วนนโยบายยังมีอีกหลายอย่างที่ยังค้างอยู่เยอะ และมีภารกิจที่ต้องขับเคลื่อนอีกหลายอย่าง ทั้งในเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและในเรื่อง อื่นๆ ที่ทำไว้ เช่น กองทุนวายุภักษ์ financial Hub และอีกหลายๆ อย่างเยอะมาก หลายๆ อย่างมันจ่อมาแล้ว เรามีหน้าที่ต้องทำให้จบโดยเร็ว ขณะที่เรื่อง Entertainment Complex ไม่ใช่โจทย์ใหม่ เป็นสิ่งที่คิดมานานแล้ว และเริ่มต้นมาจากสภาที่มีการศึกษาผลกระทบต่างๆ และส่งมาให้ยัง ครม. และ ครม.จึงได้สั่งการให้ดำเนินการ ทำประชาพิจารณ์

นายจุลพันธ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการทำประชาพิจารณ์ตัวร่าง พ.ร.บ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว  และเข้าใจว่ามีคนที่เห็นชอบน่าจะสูงถึง 80%  ตอนนี้สิ่งที่เราทำก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่ ก็คือการจัดทำประชาพิจารณ์ โดยจะได้นำความคิดเห็นจากประชาพิจารณ์ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ส่งความเห็นมา แล้วเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ก็จะนำไปปรับตามนั้น จากนั้นก็มีหน้าที่ในการส่งเข้า ครม. โดยทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยกันก่อนว่าโอเคหรือไม่ ถ้าพรรคร่วมและ ครม.เห็นชอบตรงกัน ก็ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเพื่อส่งไปสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ไม่ได้รีบไม่ได้อะไรเลย ขั้นตอนซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน ดูว่าจังหวะเวลาไหนที่มีความเหมาะสมที่สุด

รมช.การคลังกล่าวถึงกำหนดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา​ จะกระทบกับไทม์ไลน์​โครงการดิจิทัลวอลเล็ต​ 10,000​ บาทหรือไม่​ ว่าถือว่าเป็นข้อดีที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ  คณะรัฐมนตรีชุดใหม่มาค่อนข้างเร็ว​ และจะเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนรับหน้าที่ในวันที่ 6​ ก.ย.  ซึ่งตามกฎหมายจะต้องแถลงนโยบาย 15 วันหลังจากวันถวายสัตย์​ฯ แต่รัฐบาลได้มีการเตรียมการถึงนโยบายของรัฐเสร็จแล้ว​ จึงมีกำหนดการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ​ ซึ่งจะเป็นการประชุมร่วมของ สส.และ สว.ชุดใหม่​ โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เสนอญัตติต่อที่ประชุม และทางคณะรัฐมนตรีพร้อมที่จะตอบทุกข้อซักถามและข้อสงสัย และหลังจากการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ครม.จะสามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อขับเคลื่อนเดินหน้าประเทศต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสามารถจ่ายเงินก้อนแรกในโครงการดิจิทัลวอ​ล​เล็ตในเดือน ก.ย.นี้ได้หรือไม่​ นายจุลพันธ์ตอบว่า เนื่องจากกระบวนการแถลงนโยบายเสร็จค่อนข้างเร็ว​ เพราะตอนแรก กังวลว่ากระบวนการนี้จะไปแล้วเสร็จเอากลางเดือน ก.ย. ก็จะทำให้ไทม์ไลน์การแจกเงินนั้นล่าช้าออกไป แต่ตอนนี้ยังมีเหลืออีกครึ่งเดือน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดยังเดินหน้าต่อ

            รมช.การคลังยังระบุว่า ยังคงยึดไทม์ไลน์เดิม คือจะปิดรับลงทะเบียนกลุ่มสมาร์ทโฟนในวันนี้ 15 ก.ย.นี้​ และในวันที่ 16 ก.ย.-16 ต.ค. จะเปิดลงทะเบียนในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน​ แต่ติดว่ายังไม่มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จึงยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดต่อประชาชน แต่จะมีการนัดแถลงรายละเอียดในช่วงวันที่ 12-13 ก.ย.นี้

เมื่อถามว่า มีการแสดงความคิดเห็นว่าหากโครงการนี้ถูกเปลี่ยนเป็นการแจกเงินสด จะไม่เรียกว่าโครงการดิจิทัลวอล​เล็ต​ นายจุลพันธ์ชี้แจงว่า เป็นเพียงคำพูดของคนในสภา​ ขออย่าไปฟัง เพราะเขายังไม่รู้รายละเอียดของโครงการด้วยซ้ำ​  เป็นเรื่องของความคาดหวัง คาดหมาย แต่ยืนยันว่าน่าจะมีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดโครงการ บางส่วนอาจเป็นเงินสด และบางส่วนจะเดินหน้าเป็นวอลเล็ต​

"การกระตุ้นเศรษฐกิจจะต้องรีบ และต้องทำให้เกิดความสมดุลระหว่างเงินสดและวอลเล็ต​  เพื่อเร่งให้ตัวเงินถึงประชาชนและเศรษฐกิจฟื้นฟูโดยเร็ว ในขณะที่วัตถุประสงค์สำคัญของโครงการนี้คือการวางรากฐานทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล อยากทำให้เกิดความคุ้นเคยกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ดังนั้นเม็ดเงินบางส่วนจะต้องมาในรูปแบบวอลเล็ตต่อไป" รมช.การคลังกล่าว

ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนำเสนอนโยบายของ รทสช.ต่อรัฐบาลว่า จะมีการเสนอนโยบายหลักกระทรวงรับผิดชอบคือ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพลังงาน ซึ่งเราจะทำงานต่อเนื่องจากเมื่อครั้งที่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะชัดเจนเลยหรือไม่ว่าต้องทำอะไรอย่างไรบ้างในส่วนของกระทรวงพลังงาน  นายพีระพันธุ์ตอบว่า นโยบายทางด้านพลังงานของพรรคชัดเจนอยู่แล้ว ที่จะหาทางในการวางระบบพลังงานของประเทศ และเพื่อสร้างให้เกิดความเป็นธรรมด้วยราคาที่เหมาะสมกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาดำเนินการมาโดยตลอด ดังนั้นในรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำนโยบายดังกล่าวมาสานต่อจากสิ่งที่ทำอยู่ ส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมจะเน้นในเรื่องของอุตสาหกรรมรายย่อยมากขึ้น ธุรกิจเอสเอ็มอีที่จะต้องให้การสนับสนุน รวมถึงกฎระเบียบต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคความไม่คล่องตัวในการทำธุรกิจ และเรื่องการขยายธุรกิจหรือโรงงานต่างๆ ด้วย

เมื่อถามว่า ในยุครัฐบาลนี้จะสามารถให้ความมั่นใจกับประชาชนรากหญ้าได้หรือไม่ว่าราคาพลังงานและแก๊สต่างๆ จะลดลง รมว.พลังงานตอบว่า ตอนนี้กฎหมายที่ตนทำอยู่เสร็จแล้ว ซึ่งเป็นการวางระบบใหม่ทั้งหมด แต่บังเอิญที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองพอดี ดังนั้นตนจะทำต่อ โดยกฎหมายฉบับต้นร่างเสร็จแล้ว ตอนนี้ให้คณะทำงานด้านกฎหมายและพลังงานตรวจสอบอยู่

ซักว่า จะสามารถเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ได้เมื่อไหร่ นายพีระพันธุ์ยืนยันว่า ในปีนี้ได้แน่นอน  เพราะกฎหมายที่ตนทำนี้เป็นกฎหมายรูปแบบใหม่ จึงต้องอาศัยคนที่มีความเชี่ยวชาญช่วยตรวจดูเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง