โผครม.อิ๊งค์1นิ่งแล้ว คาดทูลเกล้าฯในสัปดาห์นี้ เหยียบคันเร่งสร้างผลงาน

"แพทองธาร" บอกโผคณะรัฐมนตรีนิ่งไร้แรงกระเพื่อมแล้ว คาดทูลเกล้าฯ ถวายได้ในสัปดาห์นี้ "ชูศักดิ์" ข้องใจข่าว 11 รายชื่อชนักปักหลัง ยันตราบใดยังไม่มีการชี้มูลหรือตัดสินก็ถือว่าบริสุทธิ์ "อิ๊งค์" บี้ สส.เร่งเหยียบคันเร่งสร้างผลงาน "สรวงศ์" สวนหมัด "มาร์ค" แนะเจ้าตัวให้ก้าวข้ามทักษิณก่อน "วัชระ" มาแล้วใช้สิทธิ์ขอข้อมูลข่าวสารปม "พ่อนายกฯ" นอน รพ.ตำรวจชั้น 14 "เทพไท" บอกเหตุคะแนน ปชป.ดิ่งวูบ เพราะไปซูฮกระบอบทักษิณ

เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 มีความเคลื่อนไหวในเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าโผ ครม.ว่า "เรียบร้อยแล้ว"

เมื่อถามว่าสามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอไปคุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก่อนว่าขั้นตอนจะเป็นอย่างไร เพราะไม่เคยทำ แต่โผทุกอย่างนิ่งหมดแล้ว

ถามว่า จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายได้เมื่อไหร่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า พยายามทำให้เร็วที่สุด และเมื่อถามย้ำว่าภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า น่าจะได้

ถามอีกว่า มีกระแสข่าวบางรายชื่ออาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เราส่งตรวจสอบตามระบบ

ถามย้ำว่า คำว่าเรียบร้อยคือนายกฯ ได้วางตำแหน่งทั้งหมดให้รัฐมนตรีแล้วใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ใช่ค่ะ และไม่น่ามีอะไรกระเพื่อมแล้ว”

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าจะมีเรื่องร้องเรียนภายหลัง  น.ส.แพทองธารกล่าวว่า “ไม่ซิ”

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีว่า เท่าที่ติดตามคณะทำงานที่รับผิดชอบได้ส่งเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบ ว่าผู้ใดถูกร้องและโดนร้องเรื่องอะไร และขั้นตอนไปถึงไหน ซึ่งเรื่องนี้เลขาฯ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แถลงไปแล้ว และส่งกลับมายังคณะทำงานเพื่อพิจารณาและนำรายชื่อทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต่อไป โดยอะไรที่ผ่านมาที่วิตกกังวลกัน ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ เรื่องจริยธรรมเหล่านี้ ต้องมีคำวินิจฉัยชี้ขาดและต้องได้รับการชี้ขาดจาก ป.ป.ช. แต่เข้าใจว่าขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น เรื่องเหล่านี้ยังไม่สิ้นสุดและยังไม่ได้ข้อยุติ

"วันดีคืนดีใครร้องว่าเป็นเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไปร้อง ป.ป.ช.ก็รับเรื่อง ส่วนจะผิดไม่ผิดก็อีกเรื่องหนึ่ง นี่เป็นดุลยพินิจ ไม่ได้ชี้ว่าใครขาดจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริต ความถูกต้องชอบธรรม ถ้าใครถูกร้องแล้วท้ายสุดไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ผมว่าเอาไปเอามาก็ไม่ได้รับการแต่งตั้งกันทั้งหมด  เช่นร้องไปสัก 20 คน คนเหล่านี้จะไม่ได้รับการแต่งตั้งเลย  ถ้าเราคิดอย่างนั้น" นายชูศักดิ์กล่าว

เมื่อถามว่า การเสนอรายชื่อรัฐมนตรีหากมีคนไปยื่นร้องเช่นเดียวกับคดีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน คดีของอดีตนายกฯ เศรษฐา ทุกคนทราบกันหมดว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่เรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรียังไม่มีอะไร รายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอมาแต่ละพรรคยังไม่มีใครที่ทำผิดหรือถูกชี้มูล

ยังไม่ตัดสินเท่ากับไม่ผิด

สำหรับข่าวที่ว่ามี 11 รัฐมนตรีมีชนักปักหลัง เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ต้องดูว่าการเมืองไทยก็เป็นแบบนี้ พอเป็นเรื่องจริยธรรมก็อาจเป็นเรื่องที่ร้องไม่จบนั้น การเมืองไทยก็เป็นมาแบบนี้ ท้ายที่สุดก็ติดหล่มอะไรบางอย่างไป ประเทศก็เดินไม่ได้เหมือนกัน

ถามถึงกรณีรัฐบาลได้นำกูรูด้านกฎหมายอย่างนายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายวิษณุ เครืองาม มาตรวจสอบเพื่อให้เกิดความราบรื่นนั้น นายชูศักดิ์กล่าวว่า เพื่อความรอบคอบ แต่ไม่ทราบว่าท้ายที่สุดเกณฑ์การตรวจสอบเป็นอย่างไร ส่วนตัวมองว่าตราบใดที่ยังไม่มีคำวินิจฉัยและคำพิพากษาว่าเขาผิด เราก็สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเขาบริสุทธิ์ ไม่งั้นประเทศจะเดินไม่ได้

ส่วน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวถึงกรณีที่อดีต สว.ตั้งข้อสังเกตว่า ว่าที่รัฐมนตรี 11 คนอาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เนื่องจากคดีติดอยู่ในองค์กรอิสระว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบอย่างเข้มข้น แต่ตรงนี้เป็นปัญหาในเชิงโครงสร้างมากๆ เพราะองค์กรอิสระมีอำนาจกว้างขวาง และอำนาจล้นเกินฝ่ายบริหาร สามารถปลดผู้นำสูงสุดของรัฐบาลได้ รวมถึงยังล้นเกินมาถึงฝ่ายนิติบัญญัติสามารถยุบพรรคการเมืองได้ ดังนั้นทางแก้คือ การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้จำกัดขอบเขตขององค์กรอิสระ เพื่อไม่ให้มีอำนาจล้นเกิน และยึดหลักการคานและถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน

 “ความจริงแล้วเรื่องจริยธรรมเป็นการตรวจสอบบุคคลในสาขาอาชีพของตัวเอง ซึ่งโทษจะเป็นไปอย่างเหมาะสม แต่โทษผิดจริยธรรมร้ายแรงที่ถึงขั้นตัดสิทธิ์ตลอดชีวิตตามรัฐธรรมนูญ หรือเรียกว่าใบดำนั้น ยังสงสัยว่าได้สัดส่วนกับความผิด หรือสิ่งที่ถูกตีความว่าเป็นจริยธรรมที่ผิดพลาดไปหรือไม่”

ต่อมาช่วงเย็นในการประชุม สส.พรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธารที่ได้ร่วมประชุมด้วยได้กล่าวกับ สส.ว่า สส.ท่านใดที่มีข้อเสนออะไรที่ประชาชนจะได้ประโยชน์โดยเร็วขอให้เสนอมา เพราะตอนนี้รัฐบาลเตรียมการทำงานหลังจากแถลงนโยบาย เราพร้อมเหยียบคันเร่งเพื่อให้ผลงานออกมาให้เร็วที่สุด และต้องขอบคุณนายเศรษฐาที่ได้วางรากฐานทำงานหนักมาก่อนหน้านี้ ทำให้ดอกผลมาออกผลในช่วงนี้ แต่จะรอดอกผลที่วางไว้ก่อนอย่างเดียวไม่ได้ เราต้องเหยียบคันเร่งเพิ่ม ให้ผลงานไปถึงประชาชนเร็วๆ เพื่อให้ประชาชนสัมผัสนโยบายได้อย่างชัดเจน

ขณะที่นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  อดีตนายกฯ ที่ให้ความเห็นว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธารก้าวไม่พ้นครอบครัวว่า คนที่พูดเองต้องก้าวให้ข้ามทักษิณก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างปรากฏมาแล้วว่าเราทำตามระเบียบข้อบังคับพรรค ตามมติพรรค กรรมการบริหารพรรค ไม่มีใครที่่ไหนทั้งสิ้นที่จะมาครอบงำพรรคเราได้ สิ่งที่ น.ส.แพทองธารได้ให้สัมภาษณ์ไปตอนที่ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัย ก็ฝากพี่น้องสื่อมวลชนด้วย พอดีบางข่าวที่ไม่ได้สำคัญก็ขออย่าไปตีข่าว ขอให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

ทวีท่องคาถาพร้อมรับฟัง

ส่วน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม (ยธ.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เปิดข้อความแชตไลน์ยืนยันการเข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 ถึง 2 ครั้ง แต่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์  อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกมายืนยันว่าไม่เคยอนุญาตให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เข้าเยี่ยม ว่ากรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมพร้อมรับฟังข้อมูลจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์อยู่แล้ว และ ยธ.ก็เปิดกว้าง ซึ่งสิ่งที่สำคัญในตอนนี้กรมราชทัณฑ์ได้ไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. ซึ่งการตอบคำถามสังคมที่ดีที่สุดคือ ยธ.มีหน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่ากระทรวงยินดีรับฟังข้อมูล

เมื่อถามว่า การเข้าเยี่ยมของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ทั้ง 2 ครั้งนั้น กระบวนการเข้าเยี่ยมเป็นอย่างไร พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า ตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจง ซึ่งตอนนี้ถ้ามีข้อมูลอะไรก็ขอให้ส่งมาได้ ซึ่งท่านอาจไม่ได้ส่งมาที่ ยธ.ก็ได้ อาจส่งไปที่ ป.ป.ช.ก็ได้ หรือ ป.ป.ช.อาจเป็นผู้ซักถามท่านเองก็ได้ แต่ในประเด็นดังกล่าวทราบว่ากรมราชทัณฑ์ได้ชี้แจงอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องของการปฏิบัติ

เมื่อถามถึงเรื่องภาพจากกล้องวงจรปิดบนชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ พ.ต.อ.ทวีแจงว่า ทราบว่า ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่แล้ว ส่วนที่บอกว่า ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับไฟล์ภาพนั้น ก็ต้องไปถาม ป.ป.ช.กับ รพ.ตำรวจ เพราะเป็นหน่วยงานภายใน และไม่ได้เป็นหน่วยงานของ ยธ. ทั้งนี้แม้ผู้ต้องขังจะอยู่ระหว่างการดูแลของกรมราชทัณฑ์ แต่ ยธ.ไม่สามารถไปติดกล้องวงจรปิดในหน่วยงานราชการอื่นได้

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ออกมาระบุว่า เรื่องดังกล่าวต้องมีคนติดคุกนั้น ปรากฏว่า พ.ต.อ.ทวีไม่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวและเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที

ส่วนนายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้ยื่นหนังสือถึงนายสหการณ์มีเนื้อหาว่า "ตามที่นายทักษิณเมื่อครั้งเป็น น.ช.ทักษิณ หมายเลขประจำตัว 6650102668 อ้างว่ามีอาการเจ็บป่วย โดยนายนัสที  ทองปลาด ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้ไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยมี พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์เป็นผู้เซ็นรับรอง น.ช.ทักษิณ จึงได้ไปรักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ระหว่างวันที่ 23 ส.ค. 2566 ถึงวันที่ 18 ก.พ. 2567 ซึ่งในคืนที่มีการอนุญาตให้ น.ช.ทักษิณไป รพ.ตำรวจ มีนายวิษณุ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรักษาการ รมว.ยุติธรรม อยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครนั้น

อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ข้าพเจ้านายวัชระ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ มีความประสงค์สำเนาคำสั่งรายชื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์/เวรตรวจ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ที่มีอำนาจตรวจราชการเขตเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ที่เข้าเวรและตรวจเวรควบคุมดูแล น.ช.ทักษิณ และสำเนารายงานการปฏิบัติราชการและสำเนาการเบิกเบี้ยเลี้ยงของข้าราชการทั้งหมดและรายชื่อผู้ได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยม น.ช.ทักษิณที่พักรักษาอาการเจ็บป่วยตามวันเวลาและสถานที่ดังกล่าว พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จำนวน 1 ชุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการบริหารงานราชทัณฑ์ รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลง คือมิติที่ 8 พัฒนาระบบบริหารจัดการเพื่อขับเคลื่อนงานราชทัณฑ์ (บริหารจัดการองค์กรด้วยระบบธรรมาภิบาล 6 ประการ คือ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักความมีส่วนร่วม หลักสํานึกรับผิดชอบและหลักความคุ้มค่า) นั้น"

ชี้เหตุคะแนนนิยม ปชป.วูบ

 “ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีอากร จึงขอใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องขอให้ท่านจัดทำสำเนาข้อมูลข่าวสารโดยด่วนที่สุด จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย หากผลเป็นประการใดโปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบภายใน 7 วันด้วย" หนังสือนายวัชระระบุ             

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ "คำตอบ:เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ทำไมเพื่อไทยคะแนนบวก ประชาธิปัตย์ติดลบจากผลสำรวจของสำนักวิจัยซูเปอร์โพล" ว่าน่าจะมาจากเหตุผลคือ คนที่เคยเลือกพรรค พท. ซึ่งเป็นแฟนคลับและผู้สนับสนุนพรรค พท.นั้น แม้จะมีความเจ็บปวดอยู่บ้าง แต่พรรคที่สนับสนุนได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ ด้วย การจะดึงพรรค ปชป.เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ไม่ได้ทำให้ฐานอำนาจรัฐเปลี่ยนแปลงไป ยังมีแต้มต่อ ถือไพ่เหนือกว่าพรรค ปชป. ในส่วนของคนที่เคยเลือกพรรค ปชป.ที่มีคะแนนสนับสนุนลดลงมาก เพราะรู้สึกผิดหวังที่พรรค ปชป. ซึ่งเคยร่วมกันต่อสู้กับระบอบทักษิณ  กลับไม่รักษาศักดิ์ศรีของตัวเอง ไปเป็นนั่งร้านให้กับระบอบทักษิณในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้มวลชนผู้สนับสนุนเสียความรู้สึก ผิดหวังในอุดมการณ์ที่เคยร่วมกันต่อสู้กับระบอบทักษิณ จึงทำให้คะแนนจากผู้เคยเลือกพรรค ปชป.ลดลงมาก

“ทางกลับกันถ้าหากพรรค ปชป.เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล มีตำแหน่งนายกฯ เป็นของพรรค ถ้าพรรค พท.เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มวลชนที่สนับสนุนพรรค ปชป.ก็รู้สึกไม่แตกต่างกับมวลชนของพรรคเพื่อไทยในตอนนี้ คำตอบเหตุที่พรรค ปชป.มีคะแนนลดลง เพราะไปซูฮกกับระบอบทักษิณ ไม่มีศักดิ์ศรี ละทิ้งอุดมการณ์ ยอมไปเป็นนั่งร้านให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย” นายเทพไทระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง